พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของบซื้ออาวุธสงคราม ทั้ง ปืนไรเฟิล ปืนกล รถหุ้มเกราะ เป็นตำรวจ หรือเป็นทหารกันแน่
วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่หน่วยรับงบประมาณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชี้แจงการขอรับงบประมาณ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ทั้งนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึงการใช้งบประมาณว่า ประเด็นแรก งบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ควบคุมการชุมนุม จำนวน 1,040 หน่วย งบประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณส่วนนี้ปีที่แล้วมีการตั้งซื้อ 900 ล้านบาท ในชั้นกรรมาธิการไม่ทราบรายละเอียดเลยว่างบประมาณที่ขอนั้น ใช้ซื้ออะไร อาวุธประเภทไหน เป็นอาวุธรุนแรงมีคู่มือข้อกำหนดในการใช้ควบคุมฝูงชนตามหลักประชาธิปไตยสากลหรือไม่
เพราะหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือต้องดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะใช้สิทธิในการชุมนุม หรือสิทธิการแสดงออกเพื่อส่งเสียงให้สาธารณะได้รับทราบ แต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความสำคัญไปกับการควบคุมปราบปรามมากกว่าดูแล
“ถ้าประชาชนไม่เดือดร้อน ไม่ถูกกดขี่ รัฐบาลทำงานได้ดี ก็คงไม่มีใครอยากออกมาบนท้องถนนให้ตำรวจปราบปรามหรอก” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า สตช. มีการขอซื้ออาวุธสงคราม เช่น ปืนเล็กสั้น (Carbine) ปืนเล็กยาว (Rifle) ปืนกลมือ (Submachine gun) รวม 7,000 กระบอก, มีการซื้อดาบปลายปืนสำหรับปืนเล็กยาว 2,000 กระบอก และรถหุ้มเกราะกันกระสุน 10 คันของ ตชด.
ขอถามถึงความจำเป็นในการใช้อาวุธสงคราม ดาบปลายปืน และรถหุ้มเกราะ ในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ไม่แน่ใจว่าการใช้อาวุธหนักขนาดนี้ จะตรงกับวิสัยทัศน์ในการให้ความเป็นธรรมของพี่น้องประชาชน ปกป้องสิทธิพี่น้องประชาชนตามสิทธิของประชาชนไทยอย่างไร จึงต้องขอเอกสารสำหรับอาวุธหนักเหล่านี้ว่ามีไว้เพื่ออะไร และใช้ในกรณีไหน และมีคู่มือในการใช้อย่างไร