ประยุทธ์ ถกผู้ว่าฯ 12 จังหวัดแดงเข้ม หวัง 4-6 สัปดาห์ วิกฤตโควิดดีขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ ถก “พ่อเมือง” จังหวัดแดงเข้ม เว้น กทม. ชม ศบค.กับ สสจ.ทำงานเข้ากันได้ดี หวัง 4-6 สัปดาห์ วิกฤตโควิด-19 ดีขึ้น รับห่วงประชาชนใช้ Antigen Test Kit ว่าเข้าใจวิธีการใช้มากน้อย แค่ไหน

วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 เมื่อเวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
ใน ฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด 12 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ผ่านระบบแอปพลิเคชั่น ZOOM จากบ้านพัก ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.)

โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสีแดงเข้ม 12 จังหวัด ประกอบด้วย ปทุมธานี ชลบุรี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สงขลา ยกเว้น กทม.และยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้จังหวัดนำเสนอปัญหา ข้อติดขัด เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที และขอให้เฝ้าระวังการระบาดข้ามจังหวัด อีกทั้งแต่ละจังหวัดต้องเพิ่มเตียงให้เพียงพอ โดยมีภาคส่วนต่าง ๆ เข้าร่วมสนับสนุน พร้อมแสดงความกังวลถึงสถานที่ตรวจโควิดของเอกชน ซึ่งเมื่อตรวจแล้วหลายแห่งไม่ทำอะไรต่อ จึงมอบนโยบายให้ไปแก้ปัญหา นอกจากนี้ยังสั่งการให้เพิ่มเตียงผู้ป่วยสีแดง โดยสั่งการให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย บูรณาการงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการดำเนินการ

นอกจากนี้ ที่ประชุมเน้นย้ำถึงการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี Antigen Test Kit หรือ ATK เพื่อความรวดเร็ว ถ้าผลบวกก็เข้าสู่การรักษา ด้านกระทรวงสาธารณสุข รายงานแนวโน้มส่วนใหญ่ผู้ป่วยเหลืองไปสู่สีแดงเพิ่มสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องมีเตียง วัคซีน และระบบการตรวจที่เพียงพอ

ฉะเชิงเทราใช้ bubble and seal ป้องกันโควิดโรงงาน

ด้านนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรารายงานต่อที่ประชุมว่า จำเป็นต้องใช้ระบบ bubble and seal โรงงานและแคมป์แรงงาน ซึ่งคลัสเตอร์โรงงานเป็นแหล่งระบาดหนัก และมีคนงานข้ามจังหวัดมา เช่น สมุทรปราการ ต้องใช้มาตรการฉีดวัคซีน จัดหาที่พัก จนไปถึงระดับสูงสุดคือปิด 14 วัน ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องว่าจังหวัดที่มีความเสี่ยงในเรื่องของโรงงานให้ใช้ระบบ bubble and seal ในการป้องกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มีการหารือ พล.อ.ประยุทธ์ ถามที่ประชุมว่า 2-3 วันนี้มีพื้นที่ไหนการแพร่ระบาดลดลงมาบ้าง ซึ่งไม่มีผู้ว่าราชการจังหวัดใดตอบคำถาม แต่ได้ขอให้แต่ละจังหวัดประเมินสถานการณ์แต่ละสัปดาห์ด้วย โดยแสดงความเป็นห่วงบรรดาหมู่บ้านจัดสรรต่าง ๆ

สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลและสำรวจประชากรในหมู่บ้านนั้น ๆ รวมทั้งแนะนำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์แก้ปัญหา พูดคุยกัน จะได้นำผลสำเร็จไปจัดการแก้ไขปัญหาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมบ้าง

หวังโควิดดีขึ้นใน 4-6 สัปดาห์

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชื่นชมการทำงานที่ไม่มีข้อขัดแย้งกับ ศบค.สาธารณสุขจังหวัด ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น แต่ละภารกิจมีคณะกรรมการรับผิดชอบ นำเสนอ ศบค. และ ผอ.ศบค.ตัดสินใจ “ผมหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น 4-6 สัปดาห์ จากหลักฐานทางการแพทย์ในปัจจุบัน แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงการใช้ ATK ของประชาชนว่ามีความเข้าใจการใช้มากน้อยขนาดไหน”

งบไม่พอ ขอได้ทันที

นายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องงบประมาณว่า หากขาดงบประมาณ เช่น เรื่องการเพิ่มเตียง อุปกรณ์การแพทย์ ให้เสนอเข้ามาได้ทันที ในส่วนการดำเนินงานของ Call center ศูนย์พักคอย ชุดตรวจหาผู้ป่วยในพื้นที่ Hospitel, CI, HI, รพ.สนาม ขอให้ทำผังให้เข้าใจ วัคซีนจะกระจายไปยังจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการจัดสรร นายกรัฐมนตรียังแสดงความเป็นห่วงเรื่องตลาด หากปิดแล้วจะช่วยประชาชนและผู้ค้าอย่างไร ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการที่ต้องให้ทำมาหากินได้

สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์จะจ่ายไปทุกจังหวัด ไม่ขาดแน่นอน ด้านนายอนุทินกล่าวยืนยันว่า การจัดหาวัคซีนจะได้เฉลี่ย 10 ล้านโดสต่อเดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป เฉลี่ยฉีดได้วันละ 1 ล้านโดส โดยกระจายไปทุกพื้นที่ตามเป้าหมายตามที่ ศบค. มอบหมาย ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสรุปถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอาจจะยังไม่ดีขึ้นในเร็ววัน แต่เราจะพยายามควบคุมให้ดีที่สุด ให้ดูสถานการณ์โลกด้วยจะเข้าใจยิ่งขึ้น