สุดารัตน์ ชงพิมพ์เขียว เยียวยาพิษโควิดแจกคนละ 7 พัน 3 เดือน

ไทยสร้างไทย ชงพิมพ์เขียวเสนอ “ประยุทธ์” แจกเงินเยียวยาคนละ 7 พัน 3 เดือน ใช้น้ำ-ไฟ ฟรี หากไม่เกิน 1 พัน ตั้งกองทุน soft loan จ้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง

วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่พรรคไทยสร้างไทย ซอยลาดปลาเค้า 60 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค พร้อม นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ นายไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ และอดีตประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภา SMEs) นายนพดล มังกรชัย สมาชิกคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และอดีต EVP ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกันแถลงพิมพ์เขียว แนวทางเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ แถลงว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ในปัจจุบันได้สร้างความเสียหายอย่างยิ่งต่อปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องและการทำมาหากินของประชาชน โดยมีการประมาณการความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่าแสนล้าน

เราจึงต้องให้ความสำคัญคนสองกลุ่ม ที่ต้องเร่งรัด ดูแลเยียวยา กลุ่มแรกคือประชาชนทั่วไป ซึ่งทุกคนได้รับผลกระทบ เราได้ลงพื้นที่ทุกวัน พบความทุกข์ยากแสนสาหัสของประชาชน อีกกลุ่มหนึ่งคือผู้ประกอบการขนาดเล็กขนาดย่อย ซึ่งถือว่าเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มีการจ้างงาน 13 ล้านคน ล้มหายตายจาก กลไกเศรษฐกิจไทยจะเดินต่อไปไม่ได้ จึงต้องเร่งเยียวยาฟื้นฟู จึงขอเสนอพิมพ์เขียวแนวทางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ดังต่อไปนี้

กลุ่มที่ 1 ประชาชนทั่วไป ให้เยียวยาทุกครัวเรือน ดังนี้ 1.ช่วยค่าครองชีพ เดือนละ 7,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้ประชาชนมีค่ายังชีพเพียงพอประทังชีวิตในช่วงล็อกดาวน์ 2.ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน ให้ใช้ฟรี 3 เดือน ค่าเช่า รัฐเจรจากับเอกชนผู้ให้เช่า เพื่องดการเก็บค่าเช่าเป็น เวลา 3 เดือน

ในระหว่างที่รัฐยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ โดยให้รัฐชดเชยให้กับผู้ให้เช่าบางส่วน โดยอาจจะอยู่ในรูปแบบของการลดภาษี และต้องไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดการผ่อนชำระค่าเช่า จนเป็นเหตุให้เกิดการยึดพื้นที่

ให้รัฐช่วยเจรจาหามาตรการลดค่าดำเนินการ (GP) ที่บรรดาผู้ประกอบการ Food Delivery เช่น LineMan Grab ฯลฯ เรียกเก็บจากพ่อค้าแม่ค้า ประมาณ 32% ให้เหลือ 10% เพื่อช่วยร้านอาหารรายเล็ก

3.พักชำระหนี้เป็น เวลา 6 เดือน ด้วยการพักการผ่อนเงินต้น และลดคิดดอกเบี้ย โดยเฉพาะค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน โดยเริ่มนำร่องจากธนาคารของรัฐก่อน และต้องไม่ถือว่า เป็นการผิดนัดชำระหนี้ มาเป็นเหตุให้ยึดบ้าน ยึดรถ

กลุ่มที่ 2 เยียวยาสำหรับธุรกิจ SMEs ดังนี้ 1.ช่วยจ่ายค่าจ้างให้พนักงานเดือนละ 5,000-7,000 บาท ผ่าน SMEs เพื่อรักษาชีวิต SMEs และพนักงาน เป็นเวลา 6 เดือน 2.พักชำระหนี้ SMEs ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่นับเป็นหนี้เสีย, เครดิตบูโร

3.โครงการ “Soft loan 1 แสนล้านบาท เพื่อสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง” โดยมีเงื่อนไขหลัก ๆ ต่อไปนี้ ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 10 ปี วงเงินปล่อยกู้ 500,000-1,000,000 บาท ให้ บสย. ค้ำประกัน 100% ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการขอใช้วงเงิน

ทุกการกู้ 5 แสนบาท ต้องจ้างงาน 5 ตำแหน่ง ตลอดระยะเวลาการกู้ ซึ่งโครงการนี้จะทำให้เกิดการจ้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง รัฐช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้ครึ่งหนึ่งในช่วง 2 ปีแรก สมมุติดอกเบี้ย 4% รัฐจ่ายให้ 2% เท่ากับรัฐมีภาระจ่ายดอกเบี้ยให้ประชาชนปีละ 2,000 ล้าน 2 ปีเท่ากับ 4,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมาก คุ้มกับการช่วยชุบชีวิต SMEs เป็นแสน ๆ ราย ให้เดินหน้าธุรกิจได้ต่อหลังโควิด-19 และทำให้เกิดการจ้างงานถึง 1 ล้านตำแหน่ง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การเสนอพิมพ์เขียวของพรรคไทยสร้างไทยทุกครั้ง เป็นไปด้วยความปรารถนาดี ตั้งใจที่อยากช่วยกันคิด ช่วยกันทำ หมดเวลาที่จะแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และมองกันเป็นศัตรู วันนี้ประเทศชาติกำลังอยู่ในมหาวิกฤต จำเป็นอย่างยิ่งให้ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจ นำพาประเทศไทย คนไทย ออกจากมหาวิกฤตครั้งนี้ให้ได้