วาระประชุมใหญ่ “เพื่อไทย” รื้อ กก.บห.ลุ้นเปิดแคนดิเดตนายกฯ

พรรคการเมืองแห่ชู “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” กันถ้วนหน้าเตรียมพร้อมอุบัติเหตุเลือกตั้ง ซึ่ง “นับถอยหลัง” ทุกจังหวะหายใจ

แม้กระทั่งพรรคพลังประชารัฐ โดย “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ควบหัวหน้าพรรค ประกาศดัน น้อง (รัก) “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นั่งแคนดิเดตนายกฯ พลังประชารัฐต่ออีกสมัย

“ก็หัวหน้าพรรคเดินไม่ได้ จะไปน้อยใจอะไร ก็ผมเป็นคนเสนอเอง”

ทว่า พรรคใหญ่เพื่อไทย คู่อริพลังประชารัฐ ยังเก็บงำ ชื่อ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” แกนนำ-ส.ส.ในพรรคออกมาเผยไต๋หลายหนว่า หาแคนดิเดตได้แล้ว ทั้ง “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรค นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ซึ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “รับรองมีเซอร์ไพรส์”

ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคหรือไม่ยังไม่รู้ แต่แคนดิเดตนายกฯมีแล้ว แต่เปิดแล้ว “งานลง-ทัวร์ลง” ถ้าไม่ใช่ช่วงเลือกตั้ง

แต่คนที่พูดชัดที่สุด คือ “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค ประธานวิปฝ่ายค้าน รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

“ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของเรา เรามีไว้เรียบร้อย เชื่อว่าเปิดออกมาแล้วสังคมต้อนรับ เป็นนักธุรกิจ และนักบริหารในตัว แคนดิเดตของเพื่อไทยยังมีอยู่หลายคน ท้ายที่สุดอาจไปตัดสินนาทีท้าย ๆ ให้สมาชิกช่วยกันพิจารณา และสอดคล้องกับสถานการณ์นั้น ๆ แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย คงเห็นเร็ว ๆ นี้ คงไม่นาน เพราะไม่คิดว่าสภาจะอยู่นาน ก่อนปีใหม่สุ่มเสี่ยงด้วยซ้ำไป”

“อาจเห็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ในช่วงประชุมใหญ่พรรคปลายเดือน คือวันที่ 28 ตุลาคม เพราะสถานการณ์วันนี้เสถียรภาพรัฐบาลไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งการเปิดประชุมสมัยสามัญจะเปิดในเดือนพฤศจิกายน ภาพเดิม ๆ จะกลับมาประชุมสภาล่ม องค์ประชุมล่ม ถ้าล่มติดต่อกัน 4 ครั้ง รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้แล้ว”

ดังนั้น ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ จ.ขอนแก่น จึงเป็น “งานใหญ่” ประจำปีของพรรค

เพราะมีคิวรื้อตำแหน่ง “กรรมการบริหารพรรค” ใหม่ จากเดิมตามข้อบังคับพรรคกำหนดให้มี 26 คน แต่ปัจจุบันเหลือกรรมการบริหารพรรคเพียงแค่ 21 คน

2 คนที่ลาออกจาก “กรรมการบริหารพรรค” ไปเมื่อ 17 ธันวาคม 2563 คือ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ซึ่งลาออกจากรองหัวหน้าพรรค และ ชวลิต วิชยสุทธิ์ ออกจากกรรมการบริหารพรรค

หลังเกิดเหตุ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชื่อในวงการยุคใหม่คือ “พี่โทนี่” ทำคลิปสนับสนุนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยสนับสนุน ทำให้คนในเพื่อไทยหวั่นว่าจะถูกยุบพรรคอีกรอบ

ดังนั้น ต้องหาคนมาเติมให้ครบ 26 เก้าอี้ที่ขาดไป ทว่า มีอีกไฮไลต์คือ มีการกำหนดทิศทางของพรรคเพื่อไทยในอนาคต-มองอนาคตของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งคราวต่อไป

และหากเป็นไปตามที่ “สุทิน” กล่าว อาจมีการเปิดตัว “แคนดิเดตนายกฯ” ในมาดนักบริหาร-นักธุรกิจ

สแกนชื่อที่มักพัวพันเกี่ยวกับ “แคนดิเดตนายกฯ” ที่คนในพรรคเพื่อไทย พูดกันว่ามาแรง อาทิ  ซีอีโอบริษัทอสังหา ที่เคยบอกปัดลงชิมลางการเมือง

กับอีกหนึ่ง “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ลูกเขยทักษิณ ที่มาดูแลกิจการอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล ก็เคยถูกโยงกับตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ กระทั่ง “เอม” พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวพี่โทนี่ ต้องแก้ข่าวในโลกออนไลน์ว่า “รู้ดีกว่าภรรยา”

ยังมีชื่อ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่วันนี้ยังถือเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของเพื่อไทย แม้ว่าจะเบนเข็มต้องการลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่ก็ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ “โดยนิตินัย”

เมื่อกติกาถูกปรับเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เหมือนปี 2554 เลือกคนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ตามเกมถนัดของพรรคเพื่อไทย

บวกกับกระแสแคนดิเดตนายกฯเกิด “ปัง” สมราคาคุย แม้คะแนนพรรคเพื่อไทยอาจไม่ถึงขั้นแลนด์สไลด์ แต่ก็อาจได้มากพอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

28 ตุลาคมนี้ ทั้งแคมเปญเตรียมพร้อมเลือกตั้ง-แคนดิเดตนายกฯอาจเกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือวัดดวงพร้อมกันไปเลย