ตระกูลนามบุตร ไม่มีกั๊ก ขอ “ทักษิณ” ติดปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับต่ำกว่า 30

วิฑูรย์ ไม่กั๊ก ขอคุยโทนี่ ซบเพื่อไทย เงื่อนไขปารตี้ลิสต์ลำดับต่ำกว่า 30

วันที่ 23 ธันวาคม 2564 นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์เพจ Ubon Connect อุบล คอนเนก ถึงการตัดสินใจถึงการเจรจาไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์ว่า สื่ออาจไปฟัง หรือ เก็บประเด็นจากคนอื่นๆ ที่ตนไปเล่าไปคุยด้วยแล้วมาขยายความต่อ ซึ่งมีทั้งถูกบ้าง ไม่ถูกครบทั้งหมด ตนเรียนว่า ตั้งแต่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เดือนมกราคม ได้อธิบายเหตุผลชัดเจนแล้ว และพยายามทำใจนิ่งๆ ได้พบ ได้คุย ได้พูด หลายพรรค ไม่มีเฉพาะที่ปรากฏเป็นข่าว

เพราะตนอยากทำใจให้นิ่งๆ และมีโอกาสก็จะพูดคุยไป และมีโอกาสก็จะพูดคุยไป แต่ยังไม่มีการตัดสินใจกับทุกพรรค เป็นการพูดจาทาบทามกันปกติตามภาษาพรรคการเมือง เช่น พรรคภูมิใจไทยให้เกียรติเชิญตน และตนก็สนใจ เพราะเป็นพรรคการเมืองขนาดกลาง และทางภาคอีสานก็คงรับพรรคภูมิใจไทยได้ เป็นพรรคที่ไม่บวก ไม่ลบ โดยรวมๆ พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคใจถึงพึ่งได้ ชัดเจน ไม่ต้องการ ส.ส.เยอะแยะมากมาย แต่กลุ่มเป้าหมายค่อนข้างชัดเจน

จึงมีโอกาสคุยกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย ติดต่อกันมายาวนาน แต่ในที่สุด ภูมิใจไทย นักเลงๆ ผมบอกพรรคภูมิใจไทยว่า ตนอยากเป็นผู้แทน ขอบัญชีรายชื่อลำดับต่ำสิบ เหตุที่เสนอไปต่ำสิบเพราะคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปแตกต่างจากปี 2562 กติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โอกาสพรรคใหญ่ได้เปรียบ พรรคขนาดกลาง เล็ก เสียเปรียบในเรื่องบัญชีรายชื่อ จึงประเมินว่าพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์คงได้ ส.ส.รายชื่อไม่มากนัก แต่พรรคที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อมากคือพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย จึงขอพรรคภูมิใจไทยว่าขออยู่ลำดับต่ำสิบได้ไหม

“ในที่สุดพรรคภูมิใจไทย ให้คำตอบมาว่าไม่ได้ เพราะมีบัญชีรายชื่อแน่นอยู่ เป็นไปยากที่เขาจะเอาคนเก่าเขาออกไปและให้ผมไปเสียบในลำดับต้นๆ เขาก็ตอบกลับมาแบบนักเลงๆ ว่า เสียดายอยากได้นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ มาเป็น ส.ส.ด้วย ภาษาการเมืองเขาเรียกว่า คนอย่างผมขายเหล้าพ่วงเบียร์ แต่ด้วยเงื่อนไขพรรคภูมิใจไทย เขาบอกว่าจนใจจริงๆ ถ้าให้อยู่ต่ำสิบคงให้ไม่ได้ ณ วันนี้ พรรคภูมิใจไทยคงไม่ใช่แล้ว”

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนพรรคพลังประชารัฐ เขาอยากได้นายวุฒิพงษ์มาเป็น ส.ส. ตนก็เสนอพรรคพลังประชารัฐไปเหมือนเดิมว่าขออยู่บัญชีรายชื่อลำดับที่ได้ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐรับปากว่าจะจัดให้ แต่ไม่รับปากว่าให้ลำดับที่เท่าไหร่ เพราะตนไม่ได้คุยโดยตรงกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ตนคุยรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งบอกว่าจะพยายามให้อยู่ในลำดับที่ได้เป็น ส.ส. แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ จึงรอกันอยู่ว่าจะให้อยู่ลำดับที่เท่าไหร่ จึงยังไม่ตัดโอกาสตรงนี้ไป

ส่วนพรรคเพื่อไทย มีนายเกรียง กัลป์ตินนท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กำลังขึ้นหม้อ มีบทบาทสำคัญมากกับพรรคเพื่อไทย และยิ่งตนไปคุยด้วยยิ่งเห็นความชัดเจนว่าบารมีเยอะจริงๆ เพราะที่ตนไปคุยด้วยมีผู้หลักผู้ใหญ่โทรเข้ามาปรึกษาหารือตลอด และที่สำคัญเป็นสายตรงของคุณโทนี่ วู้ดซัม (นายทักษิณ ชินวัตร)

“ผมไปคุยด้วยปุ๊บ ในที่สุดก็บอกว่า ผมอยากคุยกับคุณโทนี่ด้วย คุยกับท่านเกรียงในฐานะรองหัวหน้าพรรคก็มั่นใจอยู่ แต่อยากคุยกับคุณโทนี่ด้วย พอผมพูดแค่นี้ ท่านเกรียงก็ต่อสายตรงหาคุณโทนี่ต่อหน้าเลย คุณโทนี่คุยกับผมว่ายินดีต้อนรับอยากจะให้มาร่วมทำงานการเมืองกัน เสียงสดๆ ตรงๆ ตัวเป็นๆ นี่แหละครับ”

“ผมก็บอกท่านโทนี่ว่า ประเด็นแรกหลักๆ คือ ผมพลาดจากพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในลำดับ 40 บัญชีรายชื่อ ไม่ได้เป็น ส.ส. แต่เที่ยวหน้าผมอายุ 60 ต้นๆ ก็ยังอยากเป็น ส.ส.อยู่ ขออยู่บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยในลำดับที่ต่ำกว่าลำดับที่ 30 คุณโทนี่บอก โอ้..สบาย ไม่มีปัญหา จะให้อยู่ลำดับที่อยากได้แน่นอน ผมก็เลยบอกโทนี่ว่า ท่านครับลำดับที่ได้ผมก็ต้องการความชัดเจนด้วย ยังไงๆ ขออยู่ต่ำกว่าลำดับ 30”

“ท่านโทนี่ก็บอกว่า เดี๋ยวค่อยคุยกัน ผมก็เลยบอกท่านเกรียงว่าเดือนกุมภาพันธ์ ผมจะไปดูงาน world expo ที่ดูไบ ถ้าเป็นไปได้ มีโอกาสของพบโทนี่ที่ดูไบด้วย อยู่ระหว่างการประสานว่าเป็นอย่างไร หลังจากคุยกับท่านเกรียงเสร็จ ก็มั่นใจกับท่านเกรียง แต่ถ้าจะให้มั่นใจที่สุดต้องขอคุยกับโทนี่ด้วย”

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวกับนายวิฑูรย์ว่า คุณวิฑูรย์พูดอย่างแฟร์ เปิดเผยทุกอย่างไม่มีกั๊กเอาไว้ นายวิฑูรย์ตอบว่า “ไม่กั๊กครับ ไม่กั๊ก เพราะไม่จำเป็น ทางการเมืองต้องชัดเจน คนทำงานการเมืองไม่มีเฉพาะผมคนเดียวครับ ผม วุฒิพงศ์ อยู่ได้ทุกวันนี้ มีทั้งประชาชนอยู่เบื้องหลัง ทีมงานหัวคะแนน ในกลุ่มไลน์ร้อยกว่าคนเป็นผู้ประสานงาน แกนหลักของพวกเราคุยไลน์กันทุกวัน เวลาทำอะไรต้องให้คนเหล่านี้ตัดสินใจ มีส่วนร่วมด้วยว่าเราจะตัดสินใจ เดินหน้าไปทำอะไร”

เมื่อถามว่า ที่คุยกับนายโทนี่ หมายถึงทั้งตระกูลนามบุตรทั้งหมดเลยหรือไม่ นายวิฑูรย์กล่าวว่า ที่คุยกับโทนี่มีตนคุยคนเดียว และกับนายเกรียงก็มีตนคนเดียว ส่วน ส.ส.วุฒิพงษ์ นามบุตร ยังเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เซฟเขาไว้ก่อน จะมาบอกว่าไปที่โน่นที่นี่ก็คงไม่เหมาะสมตราบใดที่ยังอยู่พรรคประชาธิปัตย์

“แต่ในบรรดาญาติพี่น้อง วุฒิพงษ์ ลูกหลาน พี่น้องทุกคน ในที่สุดพวกผมทำงานการเมืองไม่ใช่ตัวคนเดียวตัดสินใจ ก็คงเอาทั้งตระกูลมาร่วมกันตัดสินใจ ใครมีความเห็นอย่างไร คิดอย่างไรก็เอามาบอกกัน ส่วนใหญ่ในตระกูลว่าอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ส่วนวุฒิพงศ์เปลี่ยนไปอย่างอื่นไม่ได้ เพราะวุฒิพงศ์หรือผมทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องมีญาติพี่น้องหรือหัวคะแนนช่วย ในที่สุดส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น” นายวิฑูรย์ กล่าว