มูลนิธิคณะก้าวหน้า ในเงา “ธนาธร” ปักธงขั้วประชาธิปไตย สู้อำนาจฝ่ายขวา

คณะก้าวหน้า

เพียง 1 เดือนหลังศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และกรรมการบริหารพรรคที่กลายเป็น “อดีต” ประกาศตั้ง “คณะก้าวหน้า” เมื่อ 21 มีนาคม 2563

คณะก้าวหน้า ลุยสนามเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นมาแล้ว 2 สนาม คือ สนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด อีกสนาม คือ การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล หวังรื้อโครงสร้างการเมืองทั้งโครงสร้าง

1 ปีเศษหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ-ก่อตั้งคณะก้าวหน้า “ธนาธร” และผู้ร่วมอุดมการณ์ยื่นจัดตั้ง “มูลนิธิคณะก้าวหน้า” (คกน.) หรือชื่อภาษาอังกฤษ Progressive Movement Foundation

วัตถุประสงค์เป็น “มูลนิธิทางการเมือง” คล้ายกับมูลนิธิการเมืองต่าง ๆ ของเยอรมนี ซึ่งนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศรับจดทะเบียนจัดตั้ง เลขทะเบียน ลําดับที่ กท 3181 มีผลเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 17 กันยายน 2564 มี “ธนาธร” คนเดิมเป็นประธาน

คณะก้าวหน้าทั้งองคาพยพ รู้สึกเซอร์ไพรส์ที่ “มูลนิธิคณะก้าวหน้า” ตั้งขึ้นอย่างง่ายดายไร้การขีดขวาง

วัตถุประสงค์มูลนิธิคณะก้าวหน้า อาทิ มุ่งเน้นเพื่อส่งเสริมการศึกษา วิจัย ด้านสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และอื่น ๆ ส่งเสริมการแปลหนังสือภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย

เผยแพร่ความรู้หรือผลงานการศึกษาวิจัยด้านสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และอื่น ๆ ให้แพร่หลายแก่ประชาชน

และเพื่อเป็นการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความเป็นกลาง และไม่ให้การสนับสนุนด้านการเงินหรือทรัพย์สินแก่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองใด

ทว่า “มูลนิธิคณะก้าวหน้า” เพิ่งเซตอัพทีมงานอย่างเป็นทางการเสร็จหมาด ๆ มอบหมายให้ “กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ” กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า รับหน้าที่เป็น “ผู้อำนวยการมูลนิธิ”

“กุลธิดา” หรือที่รู้จักเป็นการทั่วไปว่า “ครูจุ๊ย” อธิบายความแตกต่างระหว่าง “มูลนิธิก้าวหน้า” กับ “คณะก้าวหน้า” ว่า ปีกความคิดทั้งหมดจะเป็นงานของมูลนิธิ ส่วนงานท้องถิ่น เลือกตั้งท้องถิ่น จะเป็นของคณะก้าวหน้า โดย “ธนาธร” เป็นผู้รับผิดชอบ

ภารกิจของ มูลนิธิคณะก้าวหน้า มีเพจ “Common School” ทำงานคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เป็นการให้ความรู้ สิทธิประชาธิปไตย ประวัติศาสตร์ ตลาดวิชา คอร์สออนไลน์ มีการเชิญนักวิชาการมาพูดในประเด็นต่าง ๆ สลับกัน เช่น อาจารย์ธงชัย วินิจกุล

และมีคลิปที่เป็นความรู้ เป็นทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เข้ามาดูเมื่อไหร่ก็ได้ มีโครงการอ่านเปลี่ยนโลก มีการให้ยืมหนังสือฟรี โดยที่เรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าจัดส่ง กล่องใส่หนังสือ เพียงแค่ติดต่อในออนไลน์ ที่ผ่านมาอัตราการส่งหนังสือกลับคืนมา ก็คืน 100% เต็ม

“มูลนิธิคณะก้าวหน้า เป็นการทำงานทางความคิด ณ ตอนนี้ถ้ามองความคิดในสังคม ก็มีฝ่ายขวาเป็นหลัก เขามีเครื่องมือเยอะกว่าเรา ผ่านกลไกรัฐ แต่ข้อมูลอีกฝั่งที่เป็นเรื่องประชาธิปไตย สิทธิพลเมืองต่าง ๆ ไม่ควรมาจากแหล่งเดียว จึงคิดว่าความคิดที่เราอยากให้เกิดขึ้น คนเท่าเทียมกัน ประชาธิปไตยต่าง ๆ มีคนที่มาทำงานด้านนี้ เพื่อกระจายความคิดเหล่านี้ไปสู่การดีเบต บทสนทนาของผู้คน”

“เราพยายามทำคือช่องทางสื่อ ที่เข้าถึงคนได้มากขึ้น เรามองว่าเป็นงานระยะยาว ไม่ได้เห็นผลเป็นรูปธรรมวันนี้ พรุ่งนี้ แต่เป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ทำงานกับความคิดของคนไปเรื่อย ๆ เมื่อก่อนคนอาจนึกไม่ออกว่า ประชาธิปไตยแล้วมันยังไง กินก็ไม่ได้ เกี่ยวกับปากท้องฉันอย่างไร ส.ส.ต้องทำงานยังไง หรือทำไมเด็กมีแต่สิทธิไม่ได้ต้องมีหน้าที่ด้วยสิ ดีเบตเหล่านี้เราก็จะให้ข้อมูล และตั้งคำถามเพิ่มถึงประเด็นต่าง ๆ”

“บทความเรื่องวันเด็ก เราก็จะรื้อสร้างว่าทำไมถึงเป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม จริง ๆ แล้วมาจากไหน ในอดีตเคยเป็นอะไรมาก่อน คอนเซ็ปต์ครู เรามองว่าครูศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันหรือเปล่า”

หนึ่งในงานหลักของมูลนิธิคณะก้าวหน้า คือ ปักธงทางความคิดเรื่องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ โดยจะทำให้เนื้อหาเข้มข้นลง “ครูจุ๊ย” อธิบายรูปแบบว่า จะมีการพูดในลักษณะตั้งคำถาม หรือในพื้นที่อื่นของโลกใบนี้ เขามีการมองเรื่องนี้อย่างไร

“พอไม่เป็นอาจารย์ปิยบุตร (แสงกนกกุล) พูดเรื่องนี้ก็ดูธรรมดาไปโดยพลัน พอ Common School ทำ ไม่ได้ยึดกับตัวบุคคล เล่าเป็น fact เป็นทฤษฎี ว่าประเทศอื่นทำแบบนี้ เป็นแบบนี้ เป็นเรื่องเชิงความรู้ ให้คนสามารถนำไปใช้ หรือนำไปคุยต่อในห้องเรียน ไปคุยต่อในวงเสวนาก็นำไปใช้ได้”

งานของมูลนิธิ จะเป็นความรู้ แลกเปลี่ยน ในสิ่งที่สังคมมีน้อยไปหน่อยในสังคมนี้ และระยะยาวก็ทำงานกับต่างประเทศ ซึ่งความจริงมีองค์กรประชาธิปไตยเต็มไปหมด

และต้องมีช่องให้มาทำงานกับองค์กรไทยด้วย จากเอเชีย ยุโรป และสแกนดิเนเวีย มีการแลกเปลี่ยน-เรียนรู้กับพรรคการเมืองต่างประเทศ การทำแคมเปญต่าง ๆ ด้วยกันทั้งระดับประชาชนและพรรคการเมือง

“แยกจากคณะก้าวหน้าชัดเจน แต่ในแง่การทำงานยังอยู่ในร่มใหญ่ของคณะก้าวหน้า”

มูลนิธิคณะก้าวหน้า เป็นอีกปีกหนึ่งของคณะก้าวหน้า เป็นพันธมิตรกับพรรคก้าวไกลในสภา

เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ธนาธรและพรรคพวกเดินไปสู่เป้าหมายเปลี่ยนแปลงอนาคตการเมืองไทย