หมอวรงค์ ไทยภักดี ปราศรัยใหญ่ อ้อนขอ 1 เสียงเข้าสภา ยืนข้างประยุทธ์

‘หมอวรงค์’ ขนคนดัง หมอเหรียญทอง อุ๊ หฤทัย ถาวร ปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย อ้อน 1 เสียงไทยภักดี เข้าสภายืนข้างประยุทธ์

วันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 17.00 น. ที่ลานกีฬาชุมชนเสนานิคม 2 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯพรรคไทยภักดี เปิดปราศรัยใหญ่ เปิดปราศรัยใหญ่ “ไทยภักดี Special” นับ 1 จตุจักร-หลักสี่ เติมคนดีเข้าสภา นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมด้วยนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 เขตหลักสี่-จตุจักร ของพรรคไทยภักดี

นอกจากนั้นยังมี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช เลขาธิการพรรค พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา “อุ๊” หฤทัย ม่วงบุญศรี ผู้สนับสนุนพรรคไทยภักดี และนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมด้วย

นพ.วรงค์ปราศรัยว่า นี่เป็นโค้งสุดท้ายที่ชี้เป็นชี้ตายอนาคตการเมืองของประเทศ นี่คือการต่อสู้ของประชาชนกับกลุ่มการเมืองขนาดใหญ่ เราจึงต้องรบแบบจรยุทธ์รบในทุกรูปแบบ ซึ่งพรรคไทยภักดีทำเต็มที่ จึงอยู่ที่ประชาชนจะไว้วางใจหรือไม่ เรารู้ตัวเราดีการต่อสู้ของพรรคไทยภักดีกับพรรคใหญ่ไม่ต่างจากสงครามเวียดนาม เราเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่ปราศรัยทุกวันจนประชาชนบอกกับตนว่าอยู่มา 70 ปี ไม่เคยมีพรรคการเมืองมาปราศรัยในชุมชน และไม่เคยเจอพรรคการเมืองพรรคไหนที่ปราศรัยได้ทุกที่ตั้งแต่กองขยะ ใต้ทางด่วน ใต้สะพานลอยและชุมชนแออัด และการเลือกตั้งครั้งนี้คือการเลือกตั้งซ่อม ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลและไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในการกำหนดนโยบาย

ที่ต้องพูดแบบนี้ เนื่องจากมีพรรคการเมืองบางพรรคหาเสียงแบบบิดเบือนด้วยการกำหนดนโยบายว่าจะทำโน้น ทำนี่ เช่น จะทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 20 บาท ซึ่งในความเป็นจริงทำไม่ได้ ขนาดพรรคที่มี ส.ส.เป็น 100 คน ยังทำไม่ได้ จะเอาอีก 1 เสียงเข้าไปมันเป็นไปไม่ได้ เข้าข่ายโกหกหลอกลวงประชาชน

 

นพ.วรงค์กล่าวว่า วันนี้อยากบอกชาวเขตจตุจักรและหลักสี่ว่าจะเลือก ส.ส.ไปเป็นฝ่ายค้าน หรือจะเลือก ส.ส.เข้ามาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ขอย้ำว่าพรรคไทยภักดี 1 เสียงจะเป็น 1 เสียงคุณภาพและเป็นพันธมิตรกลับนายกรัฐมนตรี เราตรงไปตรงมาไม่มีกั๊ก ทั้งนี้ช่วงนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์โจมตีว่าพรรคเราเกาะกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าเราไม่ได้เกาะกระแส แต่เรายืนข้าง พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 2563 แต่มีพรรคการเมืองบางพรรคที่เพิ่งมาเกาะกระแส แต่พรรคไทยภักดีไม่ใช่

“มีการกล่าวหาว่าพรรคไทยภักดีโหนเจ้า เราเคยได้ยินข้อกล่าวหานี้มานาน แต่ส่วนใหญ่เป็นข้อกล่าวหาของฝ่ายตรงข้ามที่ชู 3 นิ้ว ผมเข้าใจและไม่ว่า เพราะต้องการดิสเครดิตพวกผม แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อการกล่าวหาเรื่องนี้เกิดจากกลุ่มการเมืองที่อ้างว่าตนเองเป็นพวกสลิ่ม หากเป็นกลุ่มสลิ่มจะไม่มีการให้ร้ายกัน ขอย้ำว่าประเทศไทยจะต้องมีในหลวง และสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นพรรคการเมืองที่พยายามกล่าวหาเราในช่วงโค้งสุดท้ายเชื่อไม่ได้ และพรรคไทยภักดีมาแรงในช่วงโค้งสุดท้ายมาแรงผิดปกติ แต่เราจะแผ่วเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะเงินลงเยอะมาก ขอบอกกับประชาชนที่รับเงินไปแล้วข้อมูลที่เราตรวจสอบมี 500 บาท 1,000 บาท และ 1,500 บาท เงินพวกนี้ที่รับไปแล้ว ไม่ต้องไปเลือก ให้เลือกเบอร์ 1 ถือว่าทำบุญให้ประเทศ” นพ.วรงค์กล่าว