ทักษิณ มั่นใจประยุทธ์ยุบสภากลางปี พปชร.แตกก่อนเลือกตั้ง

ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ เชื่อพลังประชารัฐแตกก่อนถึงวันเลือกตั้ง คนไม่เชื่อถือ พูดแล้วทำไม่ได้ กังขาจะชูใครเป็นนายกฯ ยังมั่นใจ “ประยุทธ์” ยุบสภากลางปี จี้แสดงสปิริตให้ประชาชนตัดสิน และไม่ได้เป็นศัตรูกับบิ๊กตู่ – ธรรมนัส 

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ “โทนี่” กล่าวในรายการ CARE คิด เคลื่อน ไทย X ClubHouse หัวข้อการเมืองไทยวิปโยค การเมืองโลกวิปริต ถึงการเมืองไทยตอนหนึ่งว่า การจะอยู่ได้ของรัฐบาลคงอยู่ได้ไม่นาน และอยู่ลำบาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าใจว่ามีความตั้งใจดี แต่โลกเปลี่ยนเร็วมาก พล.อ.ประยุทธ์อาจตามไม่ทัน วิธีคิดปัญหาเดิมก็ไม่ได้มีการแก้ปัญหาและพื้นฐาน 

พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง จึงไม่มีใจรักที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงใจ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังคิดแบบเก่า ๆ ทำรัฐประหารมาแล้วตั้งเป็นพรรคทหาร คือพรรคเฉพาะกิจ ที่เอานักเลือกตั้งมารวมกันเป็นพรรคทหาร ไม่มีอุดมการณ์ มีแต่ความสามารถในการยิง ยิงแม่นลูกกระสุนเยอะมาประกอบกำลังกัน เป็นพรรคทหาร เอาคนที่ยิงเก่ง ซึ่งขณะนี้ก็ใช่

เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งหน้า คนของพรรคพลังประชารัฐ หลายส่วนจะแตกออกไป วันนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกมาก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เชื่อว่าคนที่อยู่ในพลังประชารัฐเมื่อเสร็จรวมการเฉพาะกิจ  จะต้องมีบางกลุ่มจะมีการแยกออกไป แต่การไปตั้งพรรคใหม่ไม่เอื้ออำนวย เพราะกติกาบัตร 2 ใบ ที่เกิดขึ้น จะทำให้การเมืองเข้มแข็ง มีอุดมการณ์ รับปาก สัญญาอะไรกับประชาชนแล้วก็ต้องทำ ต้องยืนอยู่นาน หน้าหนายังไงก็หนาไม่พอ เพราะเจอประชาชน 

“ดังนั้น คนที่พูดก็ไปตั้งพรรคใหม่ คนที่อยู่ไปก็ไม่มีคนเชื่อถือ จึงเป็นห่วง พล.อ.ประยุทธ์ด่านแรก 8 ปีตามความหมายของรัฐธรรมนูญไปอย่างไร ถ้าถือตามเคร่งครัดเดือนสิงหาก็จบ และคราวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะชูใคร ชูพี่ป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เหรอ ท่านยังเดินไหวอยู่หรือเปล่า ดังนั้น ท่านเองต้องฟิตหน่อย ร่างกาย แต่จะชูใครเป็นคำถามของ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจริง ๆ แล้วความขัดแย้ง อย่าบอกว่าไม่มี มันมีอยู่ ดังนั้น รัฐบาลไม่น่าจะอยู่ได้นาน เพราะเห็นสภาพของพรรคพลังประชารัฐและความรู้สึกต่าง ๆ ที่ประชาชนมี” นายทักษิณกล่าว

นายทักษิณกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่-จตุจักร ว่า แสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทย และนายสุรชาติ ได้รับความไว้วางใจแบบชนะขาด ปกติเลือกตั้งซ่อมพรรครัฐบาลจะแข็งแรงกว่า เพราะเอากลไกต่าง ๆ มาช่วย เที่ยวนี้ก็ทำทุกอย่าง แต่ประชาชนมองว่าจะอยู่อย่างไรถ้าไปสนับสนุนรัฐบาลอยู่ และถ้าเป็นอย่างนี้ข้าพเจ้าอยู่ไม่ได้แล้ว ลูกหลานไม่มีอนาคตเลย 

ดังนั้น แสดงถึงความล้มเหลว การวางยุทธศาสตร์ชาติ ผิดหมด การเลือกตั้งซ่อมหลักสี่แสดงชัด เพื่อไทย อันดับหนึ่งได้มา 35% อันดับสองพรรคก้าวไกล 24% พรรคกล้า 23% ซึ่งไม่ได้เป็นของพรรคกล้าล้วน ๆ  นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี มีฐานเดิม และฐานของพรรคประชาธิปัตย์ช่วยอยู่ ที่ชัดเจนคือพรรคพลังประชารัฐได้มา 10% สรุปแล้วไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ยิงไม่เข้า หลวงพ่อดีหรือเปล่า 

“ต้องยอมรับว่า ความอ่อนแอของรัฐบาลในวันนี้ ทั้งความสามารถในการจัดการบริหารประเทศ และความสามารถในการบริหารจัดการพรรคการเมืองที่สนับสนุนตนเองอ่อนกำลังมาก ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่มีใครมั่นใจรัฐบาลไม่มีใครกล้าลงทุนขนาดใหญ่ ถ้ารักบ้านเมืองจริง ยุบสภาให้ประชาชนตัดสินใจดีกว่า ด้วยสปิริตของนักประชาธิปไตย” นายทักษิณกล่าว 

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 8 ปี ล้มการเลือกตั้งที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดย กปปส. ที่ให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง วันนี้ถอยหลังเข้าคลองสร้างพรรคการเมืองเบี้ยหัวแตก ทำอะไรก็ได้ให้นายกฯ ได้อยู่ยาว ดังนั้น เป็นการครบรอบ 8 ปีที่น่าเศร้า 

“เรื่องปฏิวัติไม่น่าจะมี แต่ไม่คิดว่านายกฯประยุทธ์จะอยู่ยาวนานขนาดนั้น ผมอ่านว่าไม่เกินกลางปีต้องเลือกตั้ง แต่จะเลือกตั้งแบบไหน อย่างที่เคยพูดสนิมเกิดจากเนื้อในตน โอกาสเกิดเลือกตั้งใหม่อย่างช้าผมว่ากลางปี”  

ในช่วงตอบคำถามมีการถามถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ 

หลังการเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ – จตุจักร the enemy of my enemy is my friend (ศัตรูของศัตรูคือเพื่อน) ว่า ศัตรูของ ร.อ.ธรรมนัสคือ พล.อ.ประยุทธ์หรือเปล่า และเพื่อนของ ร.อ.ธรรมนัสคือใคร นายทักษิณตอบว่า  

“ต้องถามคุณธรรมนัสเอง เพราะแกจะตอบได้ดีกว่าผม เพราะผมไม่รู้ว่าหมายถึงใคร ว่าใครเป็นศัตรูของศัตรู แกซึ่งจะต้องเป็นเพื่อนแก ถ้าว่าเป็นผมคงไม่ใช่มั้ง เพราะผมกับคุณประยุทธ์ไม่ได้เป็นศัตรูกัน คุณประยุทธ์เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้องผม ผมเป็นคนเซ็นรับสนองพระบรมราชโองการให้เขาเป็นนายพลนะ ดังนั้น ไม่เป็นศัตรูกันหรอก แต่แน่นอนการเมืองมีการแข่งขัน ลูบคมกัน แต่ไม่ใช่ศัตรู ถ้าถามวันนี้ผมไม่ใช่ศัตรูของคุณประยุทธ์ และไม่ใช่ศัตรูของ ร.อ.ธรรมนัส เพราะเป็นรุ่นน้องผมเยอะเลย เคยอยู่เพื่อไทย เป็นคนเหนือด้วยกันรู้จักกันดี”