ปล่อยตัว “ไผ่ ดาวดิน” หลังถูกขังกว่า 6 เดือน ยันเดินหน้าเคลื่อนไหวต่อ

ไผ่ ดาวดิน ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังถูกขังกว่า 6 เดือน เจ้าตัวยันเดินหน้าเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จากกรณีศาลอาญากรุงเทพใต้และศาลจังหวัดภูเขียวมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ในข้อหา ม.112 และคดีการชุมนุมทุกคดีที่อยู่ในศาลอาญา โดยมีเงื่อนไข 1.ติดกำไล EM 2.ห้ามทำกิจกรรมที่กระทบต่อสถาบัน 3.ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่ก่อความวุ่นวาย และ 4.ห้ามเดินทางออกประเทศ

ส่วน นายภาณุพงศ์ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวภาณุพงศ์พรุ่งนี้ (11 ก.พ.)

ล่าสุด เวลา 19.26 น. มติชนรายงาน นายจตุภัทร์ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ท่ามกลางเสียงเฮของผู้ที่มารอรับ ทั้งนี้ ก่อนออกจากเรือนจำ เจ้าหน้าที่ได้ทำการอบรมนายจตุภัทร์ก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุภัทร์เดินชู 3 นิ้วเดินออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และยังไม่ได้ติดกำไล EM ด้านนักกิจกรรมต่างเปล่งเสียงท่องกลอนของวิสา คัญทัพ ความท่อนท้ายว่า “เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”

นายจตุรภัทร์เปิดเผยว่า รู้สึกดีที่ได้ออกมา เพราะการอยู่ข้างในไม่มีใครควรได้เข้าไปอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไข 5 ข้อ ได้หรือไม่ นายจตุรภัทร์ระบุว่า ต้องรอดูดีกว่า

เมื่อถามถึงอาหารมื้อแรกที่อยากทาน นายจตุรภัทร์ระบุว่า อยากกินลาบ อาหารอีสาน

“อยู่ในนั้นคิดถึงอิสรภาพ คิดถึงทุกคน คิดถึงการเคลื่อนไหว คิดถึงพ่อแม่ ครอบครัว หลายอย่างมาก
ได้ตามข่าวบ้างเวลาทนายไปหา ถึงสถานการณ์การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ต้องขอบคุณพ่อแม่พี่น้องที่มายืนหยุดขังอยู่ที่จังหวัดต่าง ๆ ยืนไม่ว่าจะฝนตก แดดออก 3 คน 10 คน 100 คนเป็นกำลังใจที่ดีมากสำหรับพวกเรา เวลาเพื่อนนั่งรถผ่านก็จะมาเล่าให้เราฟังเสมอ ทำให้เรามีกำลังใจในการต่อสู้” นายจตุภัทร์กล่าว

เมื่อถามถึงเพื่อนที่เหลืออยู่ข้างในว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายจตุภัทร์กล่าวว่า แดน 4 มีนายภาณุพงศ์ หรือไมค์, นายพริษฐ์​ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, อาทิตย์ ทะลุฟ้า และนายจิตกร แจคโคบี จูเนียร์ ในแดน 6 อีก 2 คน ที่รู้จักและเห็นผ่าน ๆ ทุกคนสุขภาพแข็งแรงดี อานนท์ออกกำลังกาย ปรับตัวในการใช้ชีวิต หาอะไรทำในแต่ละวันให้ไม่น่าเบื่อ อ่านหนังสือด้วย

“สภาพจิตใจทุกคนก็ยังเข้มแข็งดี พร้อมที่จะต่อสู้อยู่ตลอดเวลาจนกว่าจะได้ชัยชนะ เพื่อนให้ฝากความคิดถึงมาถึงทุกคน ขอบคุณทุกคนที่เคลื่อนไหว เชียงใหม่ อุบลราชธานี ก็เคลื่อนไหวให้เราตลอด ขอบคุณเสมอมา”

“อยู่ในเรือนจำรอบนี้น่าเบื่อเหมือนเดิม สิ่งที่เราโดนมารอบนี้นานกว่าทุกรอบ ยิ่งทวีความน่าเบื่อ แต่สภาพจิตใจอย่างเข้มแข็ง เพราะเห็นเพื่อนออกมาเคลื่อนไหว ได้พูดคุยได้เรียนรู้กันมากขึ้น เห็นพ่อแม่พี่น้องเคลื่อนไหวแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่าหัวใจ” นายจตุภัทร์กล่าว

“การเคลื่อนไหวต้องมีต่อเนื่องต่อไปอยู่แล้ว ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นมีการต่อสู้ และการต่อสู้จะมีทุกย่อมหญ้า”