อภิปรายทั่วไป: มงคลกิตติ์ฉะประยุทธ์ ใช้แต่ของฟรี จนไม่รู้ร้อนรู้หนาว “น้ำมันแพง”

มงคลกิตติ์ฉะ “บิ๊กตู่-จุรินทร์-ประภัตร” ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เอื้อเจ้าสัวฟันกำไรหมู เหน็บประยุทธ์ เคยตัวใช้แต่ของฟรี จนไม่รู้ร้อนรู้หนาวจากราคาน้ำมันแพง

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นวันแรกนั้น

เวลา 13.40 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ ลุกขึ้นอภิปรายการร่วมทุจริตกักตุนหมูจนทำให้หมูแพง ส่งผลทุกสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน และค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้น

ขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กำกับกรมการค้าภายใน และนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับกรมปศุสัตว์ เบื้อต้นจากข้อมูลการร่วมกันทุจริต กักตุนหมู ทำให้หมูแพง และสินค้าแพงทั้งแผ่นดิน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้ในปี 2564 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 72.71 บาท ส่วนราคาส่งออกเนื้อสุกรส่งออกเย็นแช่แข็งเฉลี่ยกิโลกรัมละ 122.76 บาท โดยสุกรขาดตลาดมาจากสาเหตุโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร และอาหารสุกรราคาแพงขึ้น เนื่องจากเจ้าสัวเป็นผู้กำหนดราคา

ทั้งนี้ ตลาดผู้เลี้ยงสุกร รวม 18 ล้านตัว แบ่งเป็นมาจากฟาร์มบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง 5 ล้านตัวต่อปี คิดเป็น 27.77% ที่ครองตลาดสูงสุด และที่เหลือมาจากฟาร์ม นักการเมือง ฟาร์มเกษตรกรรายย่อย

จากนั้นมีการเผยแพร่ไทม์ไลน์การแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรและคณะรัฐมนตรีมีการอนุมัตงบเพื่อจัดการต่อการแพร่ระบาดในสุกรอย่างไรบ้าง

จากนั้น ในการป้องกันโรค ตนจึงถามไปยังอธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายประภัตร ว่าเหตุใดจึงต้องปกปิดข้อมูล หรือกลัวว่า จะกระทบฟาร์มเจ้าสัวใหญ่หรือไม่ จนทำให้ราคาสุกรสูงขึ้น เพราะสุกรขาดตลาด ต่อมาก็ค่อยไปตามจับสุกรแช่แข็งแค่ 2 ที่

ถามว่าเป็นการจับพอเป็นพิธีหรือไม่ เพื่อบอกว่าอย่างน้อยก็ยังทำงาน เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ราคาสุกรอยู่ที่ 154 บาทต่อกิโลกรัม ต่อมาเดือนมกราคม 2565 ราคาขึ้นมาที่ 220 บาทต่อกิโลกรัม แค่ 6 เดือนราคาเพิ่มขึ้น 66 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็นเพิ่มขึ้น 42.8% ทำให้เจ้าสัวสุกรเจ้าใหญ่และนักการเมืองที่เลี้ยงสุกรแต่ละจังหวัดฟันกำไร 42 บาทต่อกิโลกรัม

ในช่วง 3 เดือน กว่า 18,900 ล้านบาท ราคาสุกรเพิ่มขึ้น แต่รายได้ประชาชนเท่าเดิม แต่ทำไมนายกฯ นายประภัตร และนายจุรินทร์ จึงไม่วางแผน และไม่มีมาตราการมาแก้ไขปัญหา ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องเจ้าสัวรายใหญ่หรือไม่ มีประชาชนคนไหนเชื่อว่าว่าพวกท่านไม่ได้ทุจริต บนคราบน้ำตาประชาชน

จากนั้นนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ประเด็นที่สอง คือ ราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล แก๊ส ราคาแพง และค่าแรงถูก ขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ปล่อยปละละเลย ด้อยปัญญา ความรู้น้อย โง่แต่ขยัน บริหารทำให้ราคานำมันแพง เพราะประเทศไทยเก็บภาษี หลายชนิด

เช่น ภาษีสรรพสามิตร ภาษีมูลค่าเพิ่ม และกองทุนน้ำมัน เป็นต้น เก็บได้ร่วมลิตรละ 10-11 บาท เป็นการรีดภาษีจากประชาชนปีละ 230,860 ล้านบาทต่อปี การที่ออกมติ ครม. ลดภาษีสรรพสามิตร ลิตรละ 3 บาท 3 เดือน ก็ไม่ได้ทำให้ราคานำมันลด

“นายกฯ เคยถามว่าใครเดือดร้อนจากน้ำมันแพง ซึ่งความจริงคือ ประชาชนคนไทยทุกคน 66.19 ล้านคนเดือดร้อน ยกเว้นนายกฯ เพราะมีสวัสดิการมากกว่าประชาชน อาทิ รถหลวงฟรี น้ำมันฟรี คนขับรถฟรี ค่าบ้านหลวงฟรี ค่าไฟฟ้าฟรี ค่าน้ำฟรี ค่าข้าวฟรี ค่าพลทหารทำความสะอาดบ้านซักผ้า ล้างจาน และตัดหญ้าฟรี ฟรีหมด ประชาชนเพิ่มกระทบใครบ้าง ค่าเดินทางก็ขึ้น ค่าข้าว ราคาพืชผลเกษตรค้าขายไม่มีกำไร ต้นทุนวินมอเตอร์ไซค์ยานพาหนะต่าง ๆ ก็ขึ้นหมด แต่สิ่งที่ไม่ขึ้นคือ ค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดือนข้าราชการก็ไม่ขึ้น” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

จากการจัดเก็บบรายได้ของประเทศไทย เศรษฐกิจการคลัง ซึ่งได้อธิบายไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2564 เก็บรายได้ส่งการคลังเพียง 531,147 ล้าน ในขณะที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 1,059,145 ล้านบาท ขาดทุนสามเดือนกว่า 500,000 ล้าน

ดังนั้นหากไม่มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน รัฐบาลจะทำได้หรือไม่นั้น ผมดูจากสภาพตัวเลขจากประเทศไทยแล้วนั้น ดูแล้วยาก ขนาดมีการเก็บภาษีเท่าเดิมยังขาดทุนเดือนละ 176,000 ล้านบาท หากไม่มีการเก็บภาษีสรรพสารมิตเลยคงยากกับความสามารถของนายกรัฐมนตรีคนนี้


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยาวนานกว่า 7 ปี 9 เดือน ท่านอยู่ไปก็ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนคนไทย อยู่ไปก็เปลืองภาษี อยู่ไปก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ อยู่ไปก็ถ่วงความเจริญของประเทศ ผมคิดไม่ออกว่าท่านทำอะไรบ้าง นึกไม่ออกจริง ๆ