ประยุทธ์ขู่ฝ่ายค้าน-รัฐบาล ขัดแย้งรุนแรง รับผิดชอบร่วมกัน

ประยุทธ์ อภิปรายวันแรก-ร่ายยาว 40 นาที เล่นบทพระราม-พระลักษมณ์ ทำนายจุดจบทศกัณฐ์ ขู่ฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล ขัดแย้งรุนแรง รับผิดชอบร่วมกัน

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า เนื่องจากมีหลายสถานการณ์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน พร้อม ๆ กัน รัฐบาลพยายามจะแก้ปัญหามาโดยตลอด ตนไม่ได้ทำคนเดียว ทำกับคณะทำงานด้านต่างๆ รัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการหลายแสนคน ช่วยกันทำงานในทุกมิติ

เวลาที่เหลือหลังจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมที่จะชี้แจง เพื่อไม่ให้ประชาชนฟังแต่โจทย์อย่างเดียว จะได้รับฟังการแก้ปัญหา ความก้าวหน้า หลักคิด แนวคิด หลายท่านในที่นี้อาจจะมองว่า รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีไม่มีความสามารถ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนทั้งประเทศ

“ผมเคยคุยกับท่าน ท่านบอกว่าผมเข้ามาในสภาควรจะวางบทบาทให้เหมือนรามเกียรติ์ ผมคงเล่นฝ่ายบทพระราม พระลักษมณ์ อีกฝ่ายหนึ่งเล่นบททศกัณฐ์ ผมคิดว่า ประเทศชาติคงไม่ใช่แบบรามเกียรติ์หรอกนะ แต่ท้ายที่สุดรามเกียรติ์ก็รู้อยู่แล้วว่า ทศกัณฐ์เป็นยังไงตอนท้าย”

ไม่เอื้อรายใหญ่-หนุนเศรษฐกิจฐานราก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวมาทั้งหมด มี 15 ประเด็น อันแรก ตนคิดว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริง คล้าย ๆ กับรัฐบาลใช้อำนาจ ทำกลไกเข้าสู่อำนาจ รัฐธรรมนูญ ตนยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลเดิมจากปี 57 ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้มาตามรัฐธรรมนูญ 2560 คนที่อยู่ในอำนาจเดิมก็มาทำหน้าที่ใหม่ตามรัฐธรรมนูญใหญ่ มี 4 คนที่ซ้ำเดิม นอกนั้น 32 คน คนใหม่ทั้งหมด นโยบายต่างกันแน่นอน

“เรื่องการก่อหนี้สาธารณะ การขยายเพดานหนี้ หนี้ครัวเรือน น้ำมันแพง ค่าแรงถูก เดี๋ยวชี้แจงได้หมด เรื่องอัตราการว่างงานนักศึกษาจบใหม่ เราแก้ปัญหาสำเร็จมาก ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เป็นวิกฤตการณ์ของโลก ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การแก้ปัญหายุ่งยาก มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก รัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหาโครงสร้าง คงพูดง่าย ๆ ไม่ได้ คงต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การแก้ปัญหาโควิดกลับไปกลับมา วัคซีนล่าช้า ชี้แจงได้หมด วันนี้จัดหาวัคซีนได้เพียงพอ จนประเทศไทยได้รับการยอมรับ การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบรุนแรง ไม่มีการเยียวยาที่เหมาะสม ความเหมาะสมคืออะไรหรือการช่วยเหลือ การให้เงิน การสนับสนุนงบประมาณ รัฐบาลก่อนหน้านี้ได้ทำโครงสร้างใหม่ ๆ ให้ประเทศไทยมีจีดีพีสูงขึ้นบ้างหรือไม่ นอกจากขอใช้เงิน ขอใช้งบประมาณ พอกู้มาก็บอกว่าไม่ทั่วถึง เพิ่มหนี้สาธารณะ มีคำตอบทั้งหมด ไม่มีใครทำโดยไม่ดูกฎหมาย

“โรคระบาดอหิวาต์แอฟริกัน โรคระบาดในสัตว์ สุกรราคาแพง วันนี้ราคาแพงไหม ไม่แพงเพราะอะไร นายกฯ เข้าไปแก้ไขอย่างไร รองนายกรัฐมนตรีเข้าไปแก้ไขอย่างไร เดี๋ยวอธิบายได้หมด ผมจะปกปิดไปทำไม แต่สิ่งที่ท่านปกปิดผม ทำไมถึงมีการเก็บกักเนื้อสุกรไว้ในห้องเย็นจำนวนมาก มีคดีในศาล ผมยืนยัน ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายทุกประการ ผมไม่ได้รังแกใคร ผมไม่ได้สนับสนุนผู้ค้ารายใหญ่ ประเทศไทยต้องอยู่ด้วยเศรษฐกิจฐานราก”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สินค้าอุปโภค บริโภคสูงขึ้น วันนี้ตนให้ตรวจสอบทุกอัน ราคาสูงขึ้นจากต้นทุน หรือจากการฉวยโอกาส เรื่องฝุ่น PM 2.5 อย่าพูดลอย ๆ เอาแค่ลดปัญหาจราจรให้ตนให้ได้ก่อน ตนไม่ทำงานแบบสุกเอาเผากิน ตอบสนองความพอใจของคนบางคน คนบางกลุ่ม ไม่ทำ ทำให้คนไทยทุกคนมีความสุขอย่างแท้จริง ไม่ใช่ความสุขจอมปลอม พูดยังไงก็ได้ พูดให้คนเชื่อ พูดให้คนรัก ไม่ใช่ตน การแก้ปัญหาประมงล้มเหลว ตนต้องการสร้างความเป็นธรรมให้กับประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน

“การปฏิรูปการเมืองไม่คืบหน้า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ผมพร้อมกระจายอยู่แล้ว แต่ถามว่างบประมาณท้องถิ่นเก็บได้มากน้อยเพียงใด ทำอย่างไรให้ท้องถิ่นมีขีดความสามารถในการมีรายได้เพียงพอ รัฐบาลไม่หวง สนับสนุน หาเงินมาเติมให้”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องยาเสพติด วันนี้หลายประเทศชื่นชม เรื่องการบริหารส่อไปในทางทุจริตส่งผลกระทบต่องบประมาณ อย่าพูดคำนี้กับตน หากไม่มีหลักฐาน ไม่มีคดีความที่ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ตนยืนยัน ตนเข้ามาตรงนี้ จากวันนั้นถึงวันนี้ และวันต่อ ๆ ไป ถ้าตนยังอยู่ ตนจะไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด ทั้งนโยบาย เจตนารมณ์ ย้อนไปดูประวัติศาสตร์เรื่องเหล่านี้

ศูนย์กลางรถยนต์ไฟฟ้า พวงมาลัยขวา

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 หลายระลอก การกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท มีการฟื้นฟูเยียวยาต่อเนื่องหลายโครงการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เศรษฐกิจไทย 9 เดือนแรกปี 64 พลิกกลับมาเป็นบวกได้ร้อยละ 1.3 ต่อปี เกินกว่าที่ทุกฝ่ายคาดหมาย วันนี้ไตรมาสสี่สูงขึ้น คาดว่าเศรษฐกิจในปี 64 จะสูงกว่าประมาณการไว้เดิม แม้จะไม่สูงมากนัก การลดจำนวนลูกหนี้ที่ขอพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย จาก 12.5 ล้านบัญชี เหลือต่ำกว่าครึ่ง หรือกว่า 6 ล้านบัญชี

การจ้างงานมีมากขึ้น คนตกงานน้อยลง มาตรการเสริม มาตรการเยียวยาทยอยดำเนินการทุกกลุ่มทุกฝ่ายเริ่มผ่อนคลายมากที่โควิด-19 มีการเคลื่อนย้ายแรงงานกลับเข้าสู่ภาคบริการ การค้า การผลิต มีจำนวนผู้ทำงาน 37.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสามปี 64 จำนวน 3.7 ล้านคน นักศึกษาจบปีการศึกษาปี 63-64 เข้าทำงานในภาคเอกชน ร้อยละ 66.78 อีกร้อยละ 20 เข้าทำงานในภาครัฐ ที่เหลือประกอบธุรกิจส่วนตัว

แม้จะไม่มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ค่าแรงแตกต่างกันในแต่ละจังหวัดอยู่แล้ว ตามศักยภาพ ตามฝีมือ อย่างไรก็ตามค่าแรงยังสูงกว่าหลายประเทศ รัฐบาลมีมาตรการลดภาระค่าครองชีพให้กับแรงงานและนายจ้างมาโดยตลอด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว ที่บอกว่าปิดและล้มละลายเกือบทั้งหมด ไม่จริง ตัวเลขบริษัทเปิดกิจการใหม่ในปี 64 มีมากกว่าบริษัทที่ปิดกิจการลงกว่า 4 เท่าตัว ยอดรับการส่งเสริมการลงทุนสูงขึ้นกว่า 6 แสนบาท มูลค่าคำขอปี 64 มูลค่า 6.4 แสนล้านบาท ปี 64 มูลค่า 4.4 แสนล้านบาท ปี 62 มูลค่า 5.8 แสนล้านบาท

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การลงทุนอุตสาหกรรมใหม่เป็นเรื่องใหม่ที่จะนำไปสู่การหารายได้เข้าประเทศ ให้เพียงพอกับที่เราจะใช้เงินยังไง คิดแต่จะใช้เงินอย่างเดียวกันหรือ รัฐบาลคิดสองด้านเสมอ คำขอส่งเสริมการลงทุนปี 64 มีจำนวน 1,674 โครงการ 6.4 แสนล้านบาท สูงกว่าปี 63 จำนวน 1.6 เท่า ระหว่างปี 2562-2564 มีการขอรับการส่งเสริมในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 2,339 โครงการ 7.7 แสนล้านบาท ทั่วทุกภูมิภาค

“หลายร้อยบริษัทที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย หลาย ๆ ประเทศ ผมพบจากคน ทุกคณะ ที่ผ่านมาเขาพอใจในการปรับเปลี่ยนประเทศไทย ไม่ว่า กฎ ระเบียบ กฎหมาย ข้อจำกัดให้เป็นไปตามสากล ไม่ได้เอื้อประโยชน์ ไม่ได้ขายทรัพยากรธรรมชาติ ผมไม่สามารถเอาไปแลกกับใครได้ เป็นไปตามกฎหมาย ข้อตกลง”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การส่งออกปี 64 มูลค่ารวม 8.5 ล้านล้านบาท เพิ่มจากปี 63 ร้อยละ 18.9 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน การคลังของไทยจาก 3 สถาบันจัดอันดับโลกยังคง BBB+ มีเสถียรภาพ แม้จะมีการปรับเพดานหนี้สาธารณะสูงขึ้น แต่อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง เป็นการชั่วคราว เพราะจำเป็นต้องปรับ

“เราต้องการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า พวงมาลัยขวาในภูมิภาคโดยเร็วที่สุด ตอบสนองความต้องการโลก มีผลแล้ว เริ่มมีการติดต่อ มีการเจรจา ลงทุนกับเรา โดยลงทุนร่วมแบบ PPP ขอรับการส่งเสริมมา ทั้งบริษัทเก่า บริษัทใหม่”

ขู่ ฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาลรับผิดชอบร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าว่า รัฐบาลบริหารโดยศูนย์กลางการบริหารโควิด ปรับตามสถานการณ์ ท่านบอกผมใช้แต่อำนาจ เคยตัว ถามหน่อยกฎหมายเกิดมาสมัยใคร ผมใช้คนเดียวหรือเปล่า พ.ร.ก. พ.ร.เกอ ผมคงไม่ใช้เพื่อเอาประโยชน์ใส่ตัวเอง เพราะผมไม่ได้ประโยชน์จากตรงนี้ ไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่นั่งสบายได้ในสถานการณ์แบบนี้ รัฐบาลนี้ไม่มีความสุข ตราบใดที่ประชาชนยังไม่มีความสุข แต่ความสุข ความพอใจจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการบริหาร งบประมาณที่มีอยู่ สถานการณ์ต้องสงบเรียบร้อย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องของการออกแบบเพื่อบรรเทาภาระประชาชน ถ้าบอกว่าโครงการนั้น โครงการนี้ประชาชนไม่ชอบ บอกมาเลยว่าไม่ชอบโครงการไหนของรัฐบาล ในฐานะเป็นตัวแทนของประชาชน พูดมาเลย เลิก ๆ ๆ ๆ พูดมาเลยครับ จะเฟส 3 เฟส 4 ตนไม่ได้ทำเพื่อคะแนนเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น ใครโกงจับติดคุกหมด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ความรักความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญ ต่างประเทศเอาคำว่า ชาติ ศาสนา พหุวัฒนธรรม สถาบันมี แต่แตกต่างกัน เอาสถาบันเหล่านี้เชิดชูความเป็นหนึ่งของประเทศ ไม่ใช่เอามาสร้างความแตกแยก มองในแง่ประชาธิปไตยมีปัญหาหมดทุกประเทศ แต่ใครจะอยู่ในกรอบหรือไม่ ถ้าคิดว่าไม่ต้องอยู่ในกรอบ ให้ร่างอะไรมาก็ได้ ทุกคนมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้

“วันนี้ผมกังวลที่สุดคือความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม ชินแล้วกับคำพูดหยาบคาย ชินแล้วกับการใช้กิริยาหยาบคาย ความรุนแรง การฝ่าฝืนกฎหมาย ท้ายสุดกลับมาด่าเจ้าหน้าที่ จะอยู่อย่างนี้ต่อไปหรือ ถ้าจะอยู่อย่างนี้ต่อไปก็แล้วแต่ รับผิดชอบร่วมกันทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล”

พล.อ.ประยุทธ์ทิ้งท้ายว่า เรื่องปฏิรูปการเมือง รับฟังทุกฝ่าย มีความเห็นชอบร่วมกันอย่างไร ตนไม่อาจก้าวล่วง จะอยู่ ไม่อยู่ ไม่ใช่เรื่อง เป็นเรื่องของประชาชน เรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.เลือกตั้ง และ พ.ร.บ. พรรคการเมือง ท่านต้องทำให้เร็ว ทำให้ทัน เป็นไปตามขั้นตอน

“หากมีอะไรที่เป็นข้อเท็จจริง ที่ผมไปใช้ประโยชน์ ผมจะรับไปแก้ไข ขอบคุณฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะแพง จะจน จะพังทั้งแผ่นดิน ผมรับได้หมด ต่างคนต่างเล่นกันคนละบทบาทอยู่แล้ว ถ้าให้ผมเป็นพระลักษณ์ พระรามก็แล้วแต่ ท่านอยากเป็นทศกัณฐ์ก็แล้วแต่ ดูหนัง ดูละคร ก็ขอให้ย้อนดูตัวคนเล่นละครด้วย ผมก็ถูกท่านดูอยู่ และทุกคนก็ต้องดูตัวละครอื่น ๆ ด้วย มันถึงจะสำเร็จ ประเทศไทยใหญ่กว่ารามเกียรติ์เยอะ”