เปิดแฟ้มลับ ฝ่ายค้านอภิปรายทั่วไป ซักฟอกรัฐบาล 17-18 ก.พ. นี้

17-18 กุมภาพันธ์ ฝ่ายค้านเปิดศึกอภิปรายรัฐบาล แม้เป็นการอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ 152

แต่ความหวังลึกๆ ของฝ่ายค้าน คือ “เปิดแผล” รัฐนาวา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สู่สายตาโหวตเตอร์ ในจังหวะทางการเมืองขั้วรัฐบาลกำลัง “ปั่นป่วน”

พรรคฝ่ายค้าน ได้เวลาอภิปราย 22 ชั่วโมง ต่างเก็บงำประเด็นอภิปรายรัฐบาลไม่ให้ใครล่วงรู้ แม้แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน เพราะหวั่นเกรงว่า “ข้อสอบรั่ว” รัฐบาลตอบได้

เที่ยวนี้ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปราย 760 นาที หรือ 12 ชั่วโมง มีการขอลงชื่ออภิปรายมากกว่า 50 คน

“สุทิน คลังแสง” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ฉายภาพกรอบอภิปรายของพรรคเพื่อไทยว่า ชี้ให้เห็นเรื่องความล้มเหลว ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง สินค้าราคาแพง สถานการณ์โควิด-19 เป็นความล้มเหลวบริหารราชการด้านอื่นๆ ด้านการเมือง และการทุจริต

เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยจะขยี้รัฐบาล ประเด็นหลักคือ 1.ประเด็นเศรษฐกิจ เรื่องใหญ่คือ ถ้าระดับมหภาค ยังไม่มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว สถานะการเงินการคลังของประเทศย่ำแย่ ส่วนเศรษฐกิจรายย่อย ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ สินค้า ราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่รายได้ประชาชนต่ำลงเรื่อยๆ รายจ่ายสูง รายได้ต่ำ สวนทางกับความเป็นจริง

2.ประเด็นการเมืองที่ไม่มีการปฏิรูปเลยในช่วงของ พล.อ.ประยุทธ์ มีแต่ความล้าหลัง การเมืองที่เสื่อมถอย เป็นมูลเหตุที่ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว เช่น โครงสร้างสภา มีพรรคร้อยพ่อ พันแม่ ความเป็นเอกภาพไม่มี ในที่สุดก็หาคนดีมาทำงานไม่ได้ มีความแตกแยกและปั่นป่วนในรัฐบาลเอง ทำให้เสถียรภาพรัฐบาลลดลง

การนำปัญหาของแกนนำพรรคมาเป็นปัญหาของประเทศ นอกจากนั้น ทำการเมืองแบบใช้เงินทุกลมหายใจ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประชาธิปไตยในระยะยาวมาก

3.ส่วนประเด็นทุจริต อาจจะมีบางเรื่องที่เปิดใบเสร็จทุจริต แต่บางเรื่องอาจจับได้ไล่ไม่ทัน แต่พูดแล้วสังคมจะเชื่อได้ว่ามีการทุจริต ไม่ชอบมาพากล เอื้อทุนใหญ่

4.เรื่องความเหลื่อมล้ำก็ยังเป็นปัญหา แม้ฝ่ายค้านพูดมาหลายครั้ง แต่เห็นสัญญาณว่าไม่มีการแก้ไข นับวันหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำทุกอย่างวันนี้ยังเอื้อทุนใหญ่

5.เอื้อประโยชน์ให้ต่างชาติเรื่องเหมืองทองอัครา คนตามอยู่ วันนี้ยังไม่เห็นตอนจบ ถ้าเขารู้ว่าจบอย่างไร หรือไปแอบจบแล้ว คิดว่ารัฐบาลก็หมดความชอบธรรม

“หวังผลเรื่องการได้เปิดแผล และชี้ให้เห็นความบกพร่อง อ่อนแอ และการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ ด้อยประสิทธิภาพ เมื่อเราชี้ให้เห็นอย่างนี้ เชื่อว่าศรัทธาต่อประชาชนจะลดลง จะนำไปสู่การที่อยู่ไม่ได้ของพรรครัฐบาล”

“เชื่อว่ารัฐบาลจะสั่นคลอน ไม่ต่ำกว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่างกันอยู่นิดเดียวอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ลงคะแนน แต่อภิปรายครั้งนี้ไม่ลงคะแนน เพราะซัดกันเต็มที่แล้ว ไม่มีลงคะแนน ก็ไม่รู้ว่าใครแพ้ ใครชนะ แต่ที่ลงคะแนนเรารู้ว่าฝ่ายค้านแพ้ เห็นความแพ้ชัดเจน”

ส่วนพรรคก้าวไกล ได้เวลา 5 ชั่วโมง จัดขุนพลอภิปราย 18 คน พุ่งเป้าไปที่การบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด ถล่มซ้ำเรื่องโควิด-19 เศรษฐกิจตกต่ำ การแก้ปัญหาปากท้องล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง พ่วงประเด็นทุจริตของรัฐบาลที่ พรรคก้าวไกลเก็บไว้เป็น Top Secret

ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ได้เวลาลดหลั่นกันไปตามจำนวน ส.ส.ในสภา

ฟากรัฐบาล ตั้งทีม “มอนิเตอร์” การอภิปรายของฝ่ายค้านโดยเฉพาะ แม้ฝ่ายนิติบัญญัติ วิปรัฐบาล ระบุว่าไม่จำเป็นต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ

เพราะแกนนำ ส.ส.พลังประชารัฐ ในฝ่ายนิติบัญญัติ ประเมินว่า ฝ่ายค้านไร้ราคา

“ไพบูลย์ นิติตะวัน” รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า “ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง ฝ่ายค้านไม่มีพลังอะไรที่เราจะต้องให้ราคา เพราะการอภิปรายดังกล่าว เป็นเรื่องของการเสนอแนะ”

สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ เชื่อว่า รัฐบาลจะผ่านไปได้สบายๆ ไม่น่ากังวล ไร้ปัญหา

ทว่า ในวงประชุมคณะรัฐมนตรี 15 กุมภาพันธ์ วันที่มีการคลอดแพ็คเกจรถยนต์อีวี – ลดภาษีน้ำมันดีเซล ก่อนเข้าวาระ ครม. ใช้เวลาถกเรื่องนี้กันพอสมควรน่าจะเป็นชั่วโมง ทำเอารัฐมนตรีหลายคนต้องมาคลายเครียดด้วยการสูบบุหรี่นอกห้องประชุม

“วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี เก็งข้อสอบอภิปรายของฝ่ายค้านในที่ ครม. ว่า ฝ่ายค้านจะเริ่มต้นอภิปรายด้วยการบอกว่ารัฐบาลนี้มาจากการยึดอำนาจ ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ คนละเรื่องกัน และในประเด็นในญัตติที่ฝ่ายค้านเขียนมา 2 หน้านั้น แยกได้ 15 ประเด็น ประเด็นไหนเกี่ยวกับใครให้ลุกขึ้นชี้แจง

เช่น เรื่องปฏิรูปการเมืองและเรื่องรัฐธรรมนูญตนจะตอบเอง ส่วนเรื่อง PM 2.5 ให้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นคนตอบ เรื่องน้ำมันรั่วให้ รมว.พลังงานเป็นคนตอบ

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า “ผมไม่ได้กลัวอะไร ผมชินแล้ว มั่นใจว่าตอบได้ทุกคำถาม”

แต่อย่างน้อย “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องตอบใน 5 ประเด็น ที่จะจุกอกก็เพราะมีประเด็นทุจริตเข้ามาแทรก หากข้อมูลฝ่ายค้านเด็ดจริง…