วัดกำลัง 5 แคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. ซูเปอร์คอนเน็กชั่นปะทะ NGO

กทม.

5 แคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. ทั้งสังกัดอิสระและพรรคการเมือง-กลุ่มการเมือง ระดมทุกสรรพกำลัง เครือข่าย-ทีมงานเบื้องหน้า-เบื้องหลัง มือที่มองเห็นและที่มองไม่เห็น

“ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในสีเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ ได้แรงสนับสนุนจาก “คีย์แมน” แห่งค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่มีแฟนพันธุ์แท้-แม่ยกเป็นของตัวเอง

ทั้ง ชวน หลีกภัย-บัญญัติ บรรทัดฐาน ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลของพรรคเก่าแก่ รวมถึง “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่เป็น “พี่เลี้ยง” ที่คอย “แนะแนว” เคล็ดลับชนะใจคนกรุงเทพฯ

ยังไม่นับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูก ให้ช่วยหาเสียง แต่ไม่แน่ว่าในช่วงโค้งสุดท้ายอาจจะได้เห็น “อภิสิทธิ์” ขึ้นท้ายรถหาเสียง-ช่วย ดร.เอ้หาเสียงก็เป็นได้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฐานเสียงของ “พรรคสีฟ้า” ในพื้นที่ กทม.ร่อยหรอลงไปมาก สะท้อนจากการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี’62 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์สอบตกทั้ง 30 เขต

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เที่ยวนี้ ว่ากันว่าเป็นเดิมพันด้วย “ความนิยม” ของประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งใหญ่ต้นปีหน้า

“สกลธี ภัททิยกุล” ลูกชาย “พล.อ.วินัย ภัททิยกุล” อดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

คนที่หนุนสุดตัวคือ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. เพราะเคย “เคียงบ่าเคียงไหล่” เพื่อขับไล่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

นอกจากนี้ยังเคยทำงานร่วมกันสมัยที่สุเทพเป็น “ผู้จัดการรัฐบาล” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสกลธี เป็น ส.ส.กทม.-กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่ “เพื่อนซี้” ที่สนับสนุนอย่างลับ ๆ และเป็น “ทีมหลังบ้าน” ให้กับสกลธี คือ “บี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” และ “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รวมถึง “มาดามอีฟ” ทยา ทีปสุวรรณ

“ทีมงาน 1+4” คือ ทีมออร์แกไนซ์ชั้นยอด จนได้รับการขนานนามว่า “อาหารดี-ดนตรีไพเราะ”

และแน่นอนแล้วว่า “แบ็กอัพ” ที่เป็น “แรงส่ง” ให้กับสกลธี “แหกด่าน” ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนทุกคนก่อนหน้านี้

ไล่ตั้งแต่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ รวมถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน ที่มีข่าวแพร่สะพัดว่าจะไม่ลงเลือกตั้ง

คือ พี่-น้อง 3 ป. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มี พล.อ.วินัย “ผู้ก่อการปฏิวัติรุ่นพี่” เป็น “ข้อต่อ” สำคัญ

ทั้งเครือข่ายอดีต กปปส.เก่า ที่มี “ลุงกำนัน” เป็น “ผู้สนับสนุนหลัก” ผนึกกำลังกับ “ตั้น-บี” ทหารเสือ กปปส.ร่วมรุ่น ที่มี ส.ส.กทม.พรรคลุงป้อม-พลังประชารัฐ สนธิกำลังกับเครือข่ายหัวคะแนน ส.ก. 50 เขตที่จะลงในนามพรรคพลังประชารัฐ

และหาก “ข่าวลือ” พล.ต.อ.อัศวิน “ถอดใจ” กลายเป็น “ข่าวจริง” ส.ก.ในนาม “กลุ่มรักษ์กรุงเทพฯ” จะแปรเปลี่ยนมาเป็น “แต้ม” ให้กับสกลธีอีกทาง

ฟาก “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ปลดแอกจากพรรคเพื่อไทย ประกาศลงแข่งขันในนาม “อิสระ” ได้ “ทีมมดงาน” อย่าง พิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม.มาร่วมทีม

รวมถึง “พรพรหม วิกิตเศรษฐ์” ลูกชาย “พนิต วิกิตเศรษฐ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อประชาธิปัตย์ อดีตแกนนำกลุ่มคนรุ่นใหม่ประชาธิปัตย์ (NEW DEM) มาเป็น “ทีมงานชัชชาติ” ด้านสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ยังมี think tank เพื่อนคนสำคัญที่ถูกดึงมาร่วมงานกับ “เพื่อนชัชชาติ” คือ “ดร.ยุ้ย” เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” ผู้บริหารเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ทำหน้าที่ประหนึ่ง “มือขวา”

ส่วนทีมงานแบ็กอัพด้านกลไกราชการ มี “นิคม ไวยรัชพานิช” อดีตประธานวุฒิสภา ที่เคยเป็นถึงรองปลัด กทม. มาช่วยดูงานนโยบาย

ส่วนด้าน “ทีมมีเดีย” ประชาสัมพันธ์ใช้ “ทีมงานอีเวนต์” ส่วนหนึ่งที่เคยอยู่ใต้ร่ม “วอยซ์ทีวี” เป็นฐาน พี.อาร์.การเมืองสำคัญของพรรคเพื่อไทย

แม้ “ชัชชาติ” ไม่มีกำลัง ส.ก.ในมือ เพราะลงอิสระ ไม่สังกัดพรรค แต่แน่นอนว่า “ส.ก.” เพื่อไทย เตรียมถูกใช้มาเป็น “กำลังเสริม” ในการหาคะแนนเลือกตั้งทั้งผู้ว่าฯ กทม.และเลือกตั้ง ส.ก. เพราะผู้สมัคร ส.ก.ก็อยากได้ “ชัชชาติ” ไปลงในพื้นที่ เรียกคะแนนคนรุ่นใหม่ ขณะที่ “ชัชชาติ” ย่อมอยากได้คะแนนตามตรอกซอกซอยที่เป็นจุดแข็งของ ส.ก.

ส่วนพรรคก้าวไกล ที่เข็น “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” มือบู๊คนสำคัญ ลงผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่อย่างขะมักเขม้น เปิดตัวนโยบายเป็นระยะ ๆ เน้นผ่านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก มีอีเวนต์สรุปประเด็นนโยบายในช่วงเมษายน

มีมันสมองคนสำคัญ คือ “ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล “มือหนึ่ง” เรื่องนโยบายของพรรคคู่กับ “สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล “เพื่อนซี้วิศวะ จุฬาฯ”

ทั้งหมดเป็น DNA ของอดีตพรรคอนาคตใหม่-คณะก้าวหน้าในปัจจุบัน ที่จะเป็น “ลมใต้ปีก” ให้ “วิโรจน์”

เปิดท้ายด้วย “ม้านอกสายตา” อย่าง “รสนา โตสิตระกูล” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระตัวจริง-เสียงจริง

แม้ไม่มีกลุ่ม – พรรคการเมือง หรือ “กลุ่มทุน” หนุนหลัง แต่ “รสนา” ก็มี “เครือข่าย-ทีมงาน-พรรคพวก” ที่เคยสนับสนุนกันมาตั้งแต่ได้รับเลือกตั้ง ส.ว.กทม. เมื่อปี 2551 ที่ได้คะแนนจากคน กทม.อันดับ 1 กว่า 7 แสนคะแนน

รวมถึง “ทีมงานนโยบาย” มาจาก “ภาคประชาสังคม” ที่ทำงานในมหาวิทยาลัย แต่ไม่ใช่กลุ่ม NGO สายตรง ขณะเดียวกันยังมี “ทีมอาสาสมัคร” บางส่วนที่เคยทำงานในช่วงเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่แกนนำที่มีชื่อเสียง

อย่างไรก็ดี “รสนา” ยังคงทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมในช่วงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ปี’49 และปี’51 อย่างต่อเนื่อง

“เขาอาจจะมีเงิน มีหัวคะแนน ฐานเสียง อาจจะได้เปรียบ แต่เขาไม่เคยเลือกตั้งโดยตรง ที่ได้คะแนนเสียงที่ดิฉันเคยได้ตอนสมัยเป็น ส.ว. 2 ครั้ง ซึ่งไม่ได้ทำในลักษณะนักการเมือง ลงมาหาเสียงแบบนักการเมือง แต่เราต้องทำงานหนักกว่า”

รสนาประกาศสู้เหล่าแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม.ที่มีซูเปอร์คอนเน็กชั่น-นักการเมืองบิ๊กเนมหนุนหลัง