อัศวินลาออก เปิดใจ 5 ปี 5 เดือน 5 วัน ลงผู้ว่าฯ กทม.อิสระ ไม่สังกัดพรรค

อัศวิน ลาออกผู้ว่าฯ กทม. เปิดใจ 5 ปี 5 เดือน 5 วัน ลงอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมือง คะแนนเต็ม 10 ให้ตัวเองครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งขอโอกาสทำให้จบ

วันที่ 24 มีนาคม 2565 ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 1 (เสาชิงช้า) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวภายหลังลงนามหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เตรียมยื่นต่อพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1.) ภายในวันเดียวกันนี้ 

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวขอบคุณชาวกรุงเทพฯ ที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือ กทม.ทุกอย่าง ขอบคุณภาครัฐ และเอกชนที่ได้ประสานงานกัน เพราะ กทม.จะทำงานไม่สำเร็จเลยถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายต่าง ๆ 

พล.ต.อ.อัศวินระบุว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งความหวัง จากนั้น เล่าชีวิตในวัยเด็ก “เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้าตามความฝันของตนเองในกรุงเทพมหานคร เข้ามาเรียนหนังสือ มีงานการทำที่นี่ เติบโตจากกรุงเทพฝั่งธน เล่นน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในอดีตแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำใสสะอาดมาก สามารถลงไปว่ายน้ำได้ ไปงมหากุ้งได้ ผมก็มีความหวังว่า พอมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็อยากนำชีวิตแบบนั้นกลับมา อยากให้น้ำใสเหมือนเดิม”

จากนั้น ได้สรุปผลงานตัวเองตลอดการดำรงตำแหน่งผู้ว่ากทม. ตลอด 5 ปี 5 เดือน กับอีก 5 วัน ทั้งปัญหาคูคลอง ที่มองกรุงเทพถือเป็นเวนิสแห่งตะวันออกมีคูคลองมากกว่า 1600 กว่าแห่ง เช่นคลองผดุงกรุงเกษม- คลองแสนแสบที่นำเรือไฟฟ้าเข้ามาวิ่ง อีกทั้งปัญหาน้ำท่วม โดยทำธนาคารน้ำในจุดนั้น รวมถึงการศึกษาคุณภาพชีวิตต่าง ๆ 

“มีผลงานที่ทำสำเร็จหลายเรื่อง แต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ เพราะเก่งเรื่องการปฏิบัติมากกว่า ขณะนี้กรุงเทพฯเปลี่ยนไปแล้ว”

ที่ลาออกในวันนี้ ผมต้องไปลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พร้อมกล่าวต่อว่า ไม่ใช่เป็นคนที่ยึดติดกับอำนาจ แต่ต้องการทำงานที่ค้างอยู่ มาสานต่อให้เสร็จ ทำสิ่งที่ดี ๆ เกิดขึ้นกับคนกรุงเทพมหานคร โดยจะเป็นผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผูสมัครอิสระ ไม่ลงสมัครในนามพรรคการเมือง แต่มีกลุ่มรักษ์กรุงเทพฯ ที่สนับสนุน เพราะเป็นตัวของตัวเอง 

เมื่อถามถึงการเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. คนที่ 8 ได้วิเคราะห์ผู้สมัครคนอื่นอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่าบุคคคลที่เปิดตัวมาแล้ว อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครพรรคก้าวไกล นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ รวมถึง น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครอิสระ

“พวกนี้เป็นคนดีคนเก่ง แต่เป็นเรื่องที่ดีที่คนกรุงเทพฯ จะมีตัวเลือกหลากหลาย หากคิดว่าใครจะทำเพื่อคนกรุงเทพได้ ก็เลือกเขา แต่ถ้าหมดตัวเลือกให้หันมามองอัศวิน”

“ผมไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ผมทำมาหลายอย่างแล้ว ผมสามารถไปต่อได้เลย กรุงเทพฯ ต้องไปต่อ นโยบายจะนำไปสู่การปฏิบัติ ผมเป็นนักปฏิบัติและเป็นนักประสาน จะประสบความสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่มีการประสานกระทรวง ทบวง กรม และจะเปิดรับความคิดเห็นจากคนหนุ่มสาว คนที่มีความรู้ หรือคนพิการ”

“ผมยืนยัน หากผมได้เป็นผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครครั้งต่อไปคนประเภทคนหนุ่มสาว คนที่มีความรู้ คนไฟแรง คนพิการ บุคคลเหล่านี้ครึ่งหนึ่งจะมาเป็นผู้บริหารกรุงเทพมหานครร่วมกับผม”

พล.ต.อ.อัศวิน ภารกิจการเป็นผู้ว่าฯ กทม. ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาถือว่ายากทุกเรื่อง แต่ผมได้ทำทันทีที่ผ่านมา ส่วนหากจะประเมินคะแนนตัวเองอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง และจะสมัครใหม่เพื่อทำคะแนนให้ได้อีกครึ่งหนึ่ง ยังทำให้ไม่สุด แต่ภูมิใจทุกเรื่องที่ประชาชนปลอดภัย

เมื่อถามว่า ถ้ามีคะแนนด้านผลงานเต็ม 10 ให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่ พล.ต.อ. อัศวินตอบว่า “ผมอย่างน้อยครึ่งหนึ่งไป ที่สมัครใหม่เพราะอยากจะทำอีกครึ่งที่เหลือให้จบ”

ฝันอยากเห็นกรุงเทพดีขึ้น

จากนั้นพล.ต.อ.อัศวินได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า นอกจากกรุงเทพฯ จะเป็นเมืองหลวงแล้ว ก็ยังเป็นเมืองแห่งความหวังของใครอีกหลาย ๆ คน ที่เข้ามาเพื่อหวังว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผมก็เป็นหนึ่งคนที่เข้ามาทำงานและใช้ชีวิตในกรุงเทพฯเป็นเวลานาน เกือบทั้งชีวิตที่อยู่กรุงเทพฯ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ “เมือง” และ “คน” มาโดยตลอด และมีความฝัน อยากพัฒนากรุงเทพมหานครของเราให้ดีขึ้น

จนถึงตอนนี้ กรุงเทพฯได้เปลี่ยนไปแล้ว ทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทัศนียภาพ สิ่งแวดล้อม ระบบคมนาคม ปัญหาน้ำท่วม คุณภาพการศึกษา และในอีกหลาย ๆ ด้าน และรวมทั้งการเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาของเมืองรูปแบบใหม่ๆ ที่ต้องเผชิญในอนาคต

ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้ และภูมิใจที่ได้พัฒนาเมืองร่วมกับใครอีกหลาย ๆ คน เป็นการทำตามความฝัน ที่ได้ทำให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งความหวัง และเมืองแห่งอนาคตที่พร้อมจะพัฒนาต่อไปครับ

พล.ต.อ.อัศวิน จะเป็นผู้สมัครคนที่ 8 ต่อจาก น.ต.ศิธา ศิธาทิวารี ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ นายประยูร ครองยศ จากพรรคไทยศรีวิไลย์ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครอิสระ และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ