“มัลลิกา บุญมีตระกูล” ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์แล้ว มีผลวันนี้
วันที่ 25 เมษายน 2565 นต.สุธรรม ระหงษ์ ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น กรรมการบริหารพรรคแล้ว โดยในหนังสือลาออก ลงวันที่ 23 เม.ย. ว่าขอลาออกจากกรรมการบริหารพรรค โดยไม่ได้ให้เหตุผล
- Q1 “ITD” สะเทือน 4 แบงก์ใหญ่ ส่อตั้งสำรองเพิ่ม-กำไรหด
- เปิด 10 อันดับ สายงานราชการที่จะเกษียณอายุมากสุดในระยะสิบปี
- ประกันสังคม ขายหุ้น “บางจาก” 1.5 ล้านหุ้น หลังซื้อ 4.7 แสนหุ้น เมื่อ 4 วันก่อน
ทั้งนี้ หนังสือลาออกดังกล่าวส่งถึงพรรควันที่ 25 เม.ย.65 และพรรคลงรับแล้ว เพื่อรายงานไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับทราบ ดังนั้น ถือว่านางมัลลิกาไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 65 เป็นต้นไป
โดยก่อนยื่นจดหมายลาออก นางมัลลิกา บุญมีตระกูล ได้ปรึกษากับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายในพรรค และเปิดทางให้มีการตรวจสอบจริยธรรม แต่นางมัลลิกา ยังคงได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ให้รับผิดชอบภารกิจในตำแหน่งที่ปรึกษารมว.พาณิชย์เช่นเดิม
สาเหตุการลาออกของ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรค แต่ยังคงอยู่ในตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์) มาจากการตอบโต้ในกลุ่มไลน์พรรค กรณีคดีปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหนัวหน้าพรรค ที่นางมัลลิกา พาดพิงกรรมการ และสมาชิกพรรคคนอื่น ตามที่ได้ระบุในข้อความ ว่า…
“พฤติกรรมของคนหนึ่งคนควรถูกสอบจริยธรรมทั้งกรรมการบริหารพรรค รึ ? แปลว่าอยากอะไร ? อยากเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ? อยากเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค หรือ อยากอะไร ?
เรื่องนี้เป็นกระบวนการหรือเปล่า ในฐานะหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค 39 คน เรื่องของปริญญ์ยังไม่รู้เลยว่าผิด ถูก เป็นอย่างไร แต่ถ้าเทียบกัน !! เรื่องที่คนรู้กันทั้งพรรคว่า คน ๆ หนึ่ง เป็น “ชู้” ของเมียคนอื่นมานานนม !! แบบนี้ ต้องสอบจริยธรรมไหม
หรือ พวกที่ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็นกิ๊กของผัวคนอื่น หรือพวกที่เอาเสื้อไปแขวนไว้บนรถของผัวคนอื่นเพื่อไปงานด้วยกัน หรือให้ผัวคนอื่นขับรถไปรับถึงบ้านตนเอง แบบนี้ เรียกว่าต้องสอบจริยธรรมไหม? หรือ คนบางคน เป็น “ชู้” ของผัวคนอื่นมานาน จนถึงขั้นสุดรู้กันทั้งบาง
มาวันหนึ่ง เปลี่ยนทางจากผัวของอีกคน มาเป็นผัวของอีกคน แล้วคน ๆ นั้น เป็น ส.ส. ในสภาด้วย แบบนี้ เราต้องสอบจริยธรรมไหม ???? ใครจะสอบ ถ้าต้องตั้งกรรมการมาสอบจริยธรรมกรรมการบริหารพรรค ตั้งเลย สอบตั้งแต่กรรมการเนี่ยแหละ”
เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ถูกหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ว่าต้องมีการสอบสวนว่าเรื่องดังกล่าวจริงเท็จอย่างไร เพราะถือว่ามีความเสียหายต่อสมาชิกพรรค
วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศลาออกเช่นกัน และก่อนหน้านี้ 3 วัน นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรองหัวหน้าพรรคและอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัยได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เช่นกัน
ขณะนี้มีกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) อย่างน้อย 2 คน ลาออกจากกก.บห.พรรคแล้ว ได้แก่ นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคและกก.บห.พรรค และนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กก.บห.พรรค
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กก.บห.มีจำนวน 36 คน ซึ่งตามหลักการแล้ว หากมีกก.บห.ลาออกเกินกึ่งหนึ่ง หรือ เกิน 18 คน จะส่งผลให้ กก.บห.ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับกรณีพรรคพลังประชารัฐที่มี กก.บห.ลาออกเกินกึ่งหนึ่งส่งพ้นให้นายอุตตม สาวนายน พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และกก.บห.พ้นทั้งคณะ หรือ กรณีที่มีความพยายามล่ารายชื่อกก.บห.พรรคพลังประชารัฐเพื่อกดดันให้ร.อ.ธรรมนัส พหรมเผ่า พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ