กรณ์ ปักธงความหวัง ชู 4 แนวทางฟื้นเศรษฐกิจ ยกบ่อนพนันถูกกฎหมาย

กรณ์ จาติกวณิช -กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ

พรรคกล้าประชุมใหญ่ กรณ์ ปักธงความหวัง ชู 4 แนวทางฟื้นเศรษฐกิจ ยกบ่อนพนันถูกกฎหมาย นำร่อง ภูเก็ตคาสิโนระดับโลก นับถอยหลัง 10 เดือนเลือกตั้ง ขอโอกาสคนกล้า-มืออาชีพแก้ปัญหาประชาชน ตั้ง กอร์ปศักดิ์ อดีตรองนายกฯ ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ นั่ง ประธานยุทธศาสตร์-นโยบายพรรค เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ

วันที่ 30 เมษายน 2565 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม อาคารวายุภักษ์ ชั้น 5 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ พรรคกล้าจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 พร้อมแถลงผลงานตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และการกำหนดทิศทางของพรรคที่พร้อมลงมือทำงานเพื่อประชาชน และการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า บนเป้าหมาย “ฟื้นเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปากท้อง”

กรณ์ จาติกวณิช
กรณ์ จาติกวณิช

ชู 4 แนวทางสร้างโอกาส-สร้างรายได้

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค กล่าวว่า พรรคกล้าทำงานรับใช้ประชาชนครบ 2 ปี เป็น 2 ปี ที่ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักหนาสาหัส แต่หนักหนาสาหัสที่สุด คือ การมองไม่เห็นอนาคต ว่า ชีวิตจะดีขึ้นได้เมื่อไหร่ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับประชาชนคนไทย ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้คนจนจะยกระดับเป็นคนชั้นกลางยากมาก ขณะที่คนชั้นกลางก็เปราะบางมาก สามารถที่จะตกชั้นเป็นคนยากคนจนได้อย่างง่ายดาย

นายกรณ์กล่าวว่า 4 แนวทางที่จะสร้างโอกาสและสร้างรายได้กลับคืนมาให้ประชาชน ประกอบด้วย แนวทางแรก สร้างอุตสาหกรรมใหม่ นำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ ที่เรียกว่า กล้า Green Deal เพื่อปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม เริ่มด้วยอุตสาหกรรมพลังงาน ยานยนต์ เริ่มด้วยการลงทุนครั้งใหญ่และครั้งใหม่ในภาคคมนาคม และเริ่มการลงทุนอย่างจริงจังในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมให้ทันสมัย

ยกบ่อนการพนันถูกกฎหมาย

“แนวทางที่สอง เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี ยกกิจการต่าง ๆ ที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย ยกเรื่องที่ทำกันอยู่ใต้ดินให้มาอยู่บนดินเรื่องที่ทำกันอยู่ในที่มืดมาอยู่ในที่สว่าง ไม่มีใครคิดที่ยากจะส่งเสริมเรื่องการพนัน แต่ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับว่าเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นอยู่แล้วในสังคม แต่ผู้ได้ประโยชน์ในวันนี้ คือ ผู้มีอิทธิพล ผู้ที่ทำผิดกฎหมาย ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนการพนันให้ขึ้นมาอยู่บนดิน เพื่อเป็นโอกาสสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนไทย เป็นโอกาสที่จะดึงรายได้ใหม่ ๆ จากต่างประเทศ และเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญใหม่ให้กับรัฐบาล”

นายกรณ์กล่าวว่า แนวทางที่สาม การผลักดันเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล และ แนวทางที่สี่ ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็น 4 แนวทางที่จะสร้างรายได้ สร้างโอกาสในยุคใหม่ของประเทศไทย

นายกรณ์กล่าวว่า เงื่อนไขสำคัญที่จะประสบความสำเร็จได้ มีสองคำ คำแรก เทคโนโลยี ก้าวเข้าประเทศดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และ คำที่สอง นวัตกรรม สร้างได้ด้วยการปรับทัศนคติ เช่น การศึกษา เป็นจากระบบการท่องจำ เป็นคิดเองได้ ราชการ นำพาระบบราชการเข้าสู่ดิจิทัล 100 % ในระบบราชการบรรจุใส่มือถือ ทำธุรกรรมผ่านมือถือได้ และการปกครอง ระบบการปกครองที่จะเอื้อ คือ ระบบที่กระจายอำนาจ หมดยุคการรวมศูนย์อำนาจ โดยใช้วิธีการแซนด์บอกซ์ ให้ภูเก็ตเป็นพื้นที่ทดลองในการปกครองตัวเอง มีคาสิโนระดับโลก แปลงเชียงใหม่เป็นคริปโทซิตี้

นายกรณ์กล่าวว่า ถ้าในอนาคตพรรคกล้ามีโอกาสได้ทำเรื่องเหล่านี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือความคึกคัก ขวัญกำลังใจประชาชนจะกลับมา ความหวังจะกลับ ไม่มีความหวังเราก็ฟ่อ เราอดทนที่จะทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อชำระหนี้เราก็ทำได้ ขออย่างเดียว ขอให้เรามีความหวัง เป็นสิ่งที่ขาดไปจากสังคมไทย เป็นภาระหน้าที่ของพรรคกล้า

“ความหวังต้องมาจากการที่ประชาชนสามารถที่จะมองผู้นำและเชื่ออย่างสนิทใจว่า มีผู้นำที่ใส่ใจในความเดือดร้อน เป็นผู้นำที่เข้าใจและมีคำตอบที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนอย่างไร ต้องสร้างศรัทธาและความเชื่อมั่น เราต้องไม่ปล่อยให้พี่น้องประชาชน อยู่ในสภาพที่มีความเชื่อว่า ปัญหาแก้ไม่ได้ คำว่าแก้ไม่ได้ต้องกำจัดออกไปจากความคิดของคนไทย พวกเราพรรคกล้ายอมไม่ได้ ทุกเรื่องแก้ได้ แต่ต้องอาศัยความกล้า”

กรณ์ จาติกวณิช พรรคกล้าประชุมใหญ่

นับถอยหลัง 10 เดือนเลือกตั้ง

นายกรณ์กล่าว่า สิ่งที่ขาดมากที่สุดในวงการการเมืองในช่วงที่ผ่านมา คือ ความกล้า อย่าไปเชื่อว่า การแก้ปัญหาแก้ได้ด้วยวาทะกรรม อย่างไปเชื่อวาทะกรรมที่ว่า วาดเสือให้วัวกลัว ถ้ากำจัดศัตรูตัวนี้ปัญหาจะหมดไป ถ้ากำจัดคนแดนไกลปัญหาจะหมดไป ถ้าเรายุบกองทัพปัญหาจะหมดไป ถ้าเรายุบพรรคการเมืองให้หมดปัญหาจะหมดไป ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่ เป็นเพียงวาทะกรรมเสริมอำนาจของผู้มีอำนาจ แต่ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาให้กับประชาชน

นายกรณ์กล่าว่า ทุนใหญ่โตได้ แต่ทุนเล็กต้องมีที่ยืน และรัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงาน ต้องเปลี่ยนวิธีการใช้ภาษีของประชาชน แบบเดิม ๆ ที่รัฐบาลกู้มาและให้ระบบราชการเป็นผู้ใช้เงินต้องเปลี่ยน ต้องเปลี่ยนเป็นรัฐเป็นผู้กู้ เอกชนเป็นผู้ใช้เงิน เป็นวิธีขับเคลื่อนและสร้างโอกาสให้กับประเทศ

“ประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง ความเปลี่ยนทางการเมืองเป็นเงื่อนไขสำคัญ เราต้องทำงานอย่างหนักกว่าจะถึงการเลือกตั้งใหญ่ในอีก 10 เดือนข้างหน้า แต่ผมมั่นใจว่า ประชาชนต้องการการเมืองแบบใหม่ การเมืองสร้างสรรค์ การเมืองที่ทำด้วยคนที่เป็นมืออาชีพ พวกเราจะไม่ป่าวประกาศว่าเราจะมีส.ส.กี่คน เราจะแลนด์สไลด์ เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราเป็นพรรคใหม่ เรายังมีการบ้านต้องทำอีกมาก เราพร้อมจะทำงานหนัก เราพร้อมพร้อมรับฟังประชาชน เราพร้อมเสียสละ พรรคกล้า ประชาชนต้องมาก่อนเสมอ”

ตั้ง “กอร์ปศักดิ์” นั่ง ปธ.ยุทธศาสตร์และนโยบายพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรณ์ได้แนะนำทีมเศรษฐกิจของพรรคที่จะมาร่วมงานกับพรรค เพื่อสร้างรายได้ สร้างโอกาส คือ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคกล้า

นายกรณ์ได้ติดหมุดพรรคกล้าให้กับนายกอร์ปศักดิ์เป็นกรณีพิเศษและกล่าวว่า วันนี้มีความสำคัญและพิเศษ ที่มีอดีตผู้บังคับบัญชา สมัยตนเป็นรมว.คลัง ผู้บังคับบัญชาที่แท้จริงของตนไม่ใช่นายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) แต่เป็นรองนายกฯเศรษฐกิจ (นายกอร์ปศักดิ์) วันนี้จึงมีความพิเศษสำหรับตนมากที่ท่านได้เดินเข้ามาช่วยงานพรรค

นอกจากนี้ยังคณะกรรมการเศรษฐกิจ อาทิ 1.นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจ 2.นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ผู้คิดค้นแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ซึ่งปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของพรรค นายอัครเวช โชตินฤมล ซึ่งจะมาขับเคลื่อนเรื่อง เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี นายเทมส์ ไกรทัศน์ ดูเรื่องเศรษฐกิจท่องเที่ยว และน.ส.เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาคล้านนา นายกฤษณะ ทองแก้ว ดูเรื่องเศรษฐกิจชุมชน