ชัชชาติพร้อมหารือ “สมศักดิ์” หนุนไอเดียดึงนักโทษช่วยลอกท่อ

ชัชชาติ พร้อมหารือ

ชัชชาติพร้อมหารือ “สมศักดิ์” สร้างโอกาสนักโทษช่วยขุดลอกท่อช่วงหน้าฝน เผยเสียงตอบรับนักโทษทำดีกว่าเอกชน แย้มคุณสมบัติรองผู้ว่าฯ “โปร่งใส ซื่อสัตย์ เป็นคนทำงาน” จักกพันธุ์ตรงตามคุณสมบัติ 

วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่สวนบางกอกใหญ่ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะของ กทม. เชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างซอยเพชรเกษม 4 กับซอยจรัญสนิทวงศ์ 2 ได้กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งให้กรมราชทัณฑ์ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ขอนำนักโทษช่วยขุดลอกท่อช่วงหน้าฝน

นายชัชชาติกล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีระเบียบจัดซื้อจัดจ้างตัวใหม่ ทำให้ไม่สามารถจ้างนักโทษได้ แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนกลับมาจ้างได้ แต่ติดปัญหาการระบาดของโรคโควิด กรมราชทัณฑ์จึงไม่อยากให้นักโทษมาข้างนอกนำเชื้อเข้าสู่เรือนจำ ซึ่งฟังจากปากของพ่อค้าแม่ค้าที่ผ่านมาว่า นักโทษลอกท่อได้ดีกว่าเอกชนทำ ซึ่งตอนเวลาลอกท่อต้องให้เจ้าของร้านแถวนั้นมาร่วมรับผิดชอบด้วย เพราะหลายครั้งมีไขมันเต็มท่อ

“ต้องกราบขอบพระคุณรัฐมนตรีสมศักดิ์ อาจจะแวะไปเยี่ยมเยือนหารือในเรื่องนี้ การร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังด้วย มีตังค์เก็บตอนออกจากเรือนจำด้วย” นายชัชชาติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วานนี้ (25 พ.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรมมีการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้บริหารและข้าราชการร่วมประชุมวาระพิจารณาเรื่องการส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะ หรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนเห็นการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.เพิ่งผ่านพ้นไป ผู้ว่าฯคนใหม่ที่ได้รับเลือกจากประชาชนเป็นคนเปิดกว้าง ตนจึงอยากให้กรมราชทัณฑ์ติดต่อผู้ว่าฯคนใหม่ให้เราเสนอตัวเข้าไปทำงานบริการประชาชน เป็นงานให้ผู้ต้องขังมีทักษะเพิ่มขึ้น ได้รับค่าแรงด้วยเชื่อว่าผู้ว่าฯคนใหม่น่าจะสนใจในจุดนี้

เนื่องจากขณะนี้พื้นที่ กทม.มีผลกระทบช่วงฝนตก หากเราเสนอไปจะรับงานได้เต็มที่ เช่น การช่วยลอกท่อระบายน้ำ ขอให้กรมราชทัณฑ์ทำหนังสือนำไปก่อน เราอาจจะทำราคามาตรฐานของราชทัณฑ์ ตนคิดว่าเป็นไปได้

“ผมพยายามสร้างโอกาสให้กับผู้ต้องขังได้มีงานทำ และเป็นงานบริการช่วยสังคม ที่ผ่านมาผมพยายามสร้างความแตกต่าง พยายามช่วยคนเมืองกรุง แต่ผู้ว่าฯคนเก่าไม่ยอม ผมหวังว่าผู้ว่าฯคนใหม่นี้เป็นคนเปิดกว้าง น่าจะให้โอกาสพวกเราได้ช่วยสังคม ช่วยให้คนของเรามีงานทำ กรมราชทัณฑ์ลองให้ฝ่ายกฎหมายดูเรื่องการทำหนังสือ ขอให้รีบทำ หากเรารีบเสนอให้เร็ว อย่างน้อยเมื่อมีการเปิดประชุมสภา กทม.สัปดาห์หน้า พวกเขาจะได้เห็นและพิจารณาได้เลย น่าจะเป็นเรื่องที่ดี” นายสมศักดิ์กล่าว

คุณสมบัติรองผู้ว่าฯ ยุคชัชชาติ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการแต่งตั้งรองผู้ว่าฯกทม. นายชัชชาติกล่าวว่า เป็นการเลือกรองผู้ว่าฯที่สบายใจที่สุด ไม่มีพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง จะเกี่ยวข้องกับ ส.ก.อย่างเดียว ที่ช่วยคุยปัญหารายเขตให้ โดยคุณสมบัติรองผู้ว่าฯเน้นความโปร่งใส ซื่อสัตย์ เป็นคนทำงาน

ทั้งนี้ จะแบ่งทีมทำงานออกเป็น 3 ทีม ได้แก่ รองผู้ว่าฯ กทม.และเลขานุการ ที่ปรึกษาทางการเมือง และที่ปรึกษายุทธศาสตร์ รับผิดชอบการผลักดัน 214 นโยบาย คอยควบคุมทิศทางการดำเนินงานตามเป้าหมาย

นายชัชชาติกล่าวถึงกรณีนางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หรือ ดร.ยุ้ย ปฏิเสธการรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. ว่าทุกคนที่มาร่วมงานตั้งแต่ต้นไม่มีใครหวังตำแหน่ง ซึ่ง ดร.ยุ้ยเก่งเรื่องยุทธศาสตร์ อยากจะให้มาช่วยผลักดันนโยบาย 200+ ดูเรื่องการคลังการเงิน ตำแหน่งรองผู้ว่าฯอาจจะไม่เหมาะสม เพราะต้องรู้ลึกเรื่องการบริหารจัดการ

ส่วนนายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. สมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นั้น นายชัชชาติระบุว่าข้าราชการ กทม.หลายคนยืนยันว่านายจักกพันธุ์เป็นคนดีมาก เป็นเพชรของ กทม. สามารถโทรศัพท์คุยได้ตั้งแต่ตีสี่ เพราะเป็นคนตื่นเช้าเหมือนกัน ท่านตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว มีความโปร่งใสซื่อสัตย์สุจริต จึงเป็นคนหนึ่งในกลุ่มที่เราพิจารณา เพราะเราต้องการคนเข้าใจงาน ไม่มีเวลาฮันนีมูน ท่านรู้จักกับเจ้าหน้าที่ กทม.ทุกคน สามารถปรับองคาพยพได้ทันที ซึ่งท่านช่วยงานเรามาตั้งแต่ต้น