เหตุผล เศรษฐกิจไทย แพ้เลือกตั้งซ่อม ลำปาง เครือข่าย บิ๊ก ป. เบรก ธรรมนัส

ก่อนเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่บ้านป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อนับมือ-เช็กเสียงโหวต กับ “บิ๊กบราเธอร์” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

โดยเฉพาะ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ภายหลังความพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ส่งผลพรรคเศรษฐกิจประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ความอิหลักอิเหลื่อของพรรคเศรษฐกิจไทย กลับ (รัฐบาล) ไม่ได้ ไป (ฝ่ายค้าน) ไม่ถึง กลายเป็น จุดตาย ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง

ประกอบกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึง “ดีลลับดูไบ” ล่ม – สัญญาณโทนี่ วู้ดซัม สัญญาณไปไม่ถึง “บ้านใหญ่โล่ห์สุนทร” และ “บ้านใหญ่จันทรสุรินทร์” ทำให้เสียงเทไปให้พรรคเสรีรวมไทย-พรรคฝ่ายค้านตัวจริงเสียงจริง

“เหมือนเราเป็นพรรคที่อยู่ตรงกลางของเขาควายทั้งสองข้าง มันไม่ชัดเจน ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่สนับสนุนเรา เราไม่ได้ประโยชน์อะไรจากรัฐบาล อีกทั้งยังถูกกระทำในหลาย ๆ อย่าง ขณะที่อีกข้างหนึ่งของเขาควายก็ไม่สนับสนุนเรา ดังนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะมานั่งอยู่ตรงกลางเขาควาย” ร.อ.ธรรมนัสบอกถึง 1 ในเหตุผลหลักที่นำไปสู่การย้ายขั้ว-เลือกข้าง (ฝ่ายค้าน)

3 หมื่นคะแนนในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 เท่ากับฐานการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส เป็น “ขุนพลภาคเหนือ” ให้กับพรรคพลังประชารัฐในขณะนั้น สะท้อนให้เห็น “คะแนนดิบ” ที่ติดตัวมาตั้งแต่อยู่บ้านหลังเก่า

ส่วนตัวเลข 6 หมื่นคะแนน ที่นายวัฒนา สิทธิวัง ได้รับในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 เมื่อปี 2563 ซึ่งขณะนั้นยังสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเกิดการไฮแจ็ก ว่าที่ ส.ส.เพื่อไทย กลางอากาศ

โดยขณะนั้น “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย ยังเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย – แม่ทัพเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4

“มันต่างจากการเลือกตั้งซ่อมเมื่อปี’63 เพราะเราได้คุย ได้เจรจากับพรรคหลัก เอาตรง ๆ ผมเจรจา ครั้งนี้เราไม่ได้คุยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านพินิจ จันทรสุรินทร์ ผมไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากท่าน ผลโพลออกมาครั้งที่สองเราก็ยังแพ้อีก”

ผลการเลือกตั้งใหญ่ 1 ครั้ง และผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 สองหน ร.อ.ธรรมนัส ถอดบทเรียนเป็นบรรทัดสุดท้ายได้ว่า “คนไม่เอารัฐบาล”

“ชาวบ้านในภาคเหนือตอนบน ตั้งแต่แม่ฮ่องสอน ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน รวมถึงลำปาง ชัดเจนไม่เอารัฐบาล”

ร.อ.ธรรมนัสให้เหตุผลที่ต้องลงมาถือธงนำเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ด้วยตัวเอง กิน-นอน อยู่ในพื้นที่ถึง 2 อาทิตย์ ว่า ตั้งแต่วันประกาศวันเลือกตั้งซ่อม ผลโพลออกมาเราแพ้ขาด ก็เครียด เราต้องปรับกลยุทธ์ในการหาเสียง

“ไม่มีครั้งไหนที่ผมทุ่มเทเท่ากับครั้งนี้ ผมลาสภาผู้แทนฯมา 2 อาทิตย์เต็ม ๆ มาทุ่มเทอยู่ในพื้นที่ ผมให้มีการจัดปราศรัยย่อย ทั้งหมด 26 ตำบล ปราศรัยทุกวัน วันละ 3 รอบ ผมลงพื้นที่ปราศรัยด้วยตัวเอง”

“ผมจึงจำเป็นต้องลาสภา 2 อาทิตย์เพื่อมาฝังตัวอยู่ในพื้นที่กับผู้สมัคร ทั้งขึ้นรถหาเสียง ทั้งขึ้นบ้านลงบ้าน ทั้งปราศรัยย่อย ทั้งปราศรัยใหญ่ ผมทำทุกอย่าง สรรพกำลังผมทุ่มเท”

“ผมทุ่มเทจนถึงก่อนวันปิดหีบ ผมก็มั่นใจว่าผมชนะ เพราะว่าสัมผัสกระแสพี่น้องประชาชนให้ความสนใจ แต่การปราศรัยเป็นการปราศรัยย่อย คนที่มาฟังเราเฉลี่ยประมาณ 2-3 หมื่นคน แต่คนส่วนใหญ่ยังมีอีกเยอะ อีกเป็นแสนที่ไม่ได้ฟังเรา เขาไม่เข้าใจจุดยืนของเรา ซึ่งเราไม่มีเวลาไปแก้ตัว”

การทุ่มเททุกองคาพยพ-ทุกสรรพกำลังของ ร.อ.ธรรมนัส นำมาเป็นบทเรียนในการเลือกตั้งครั้งหน้า และสิ่งที่ในใจของ ร.อ.ธรรมนัสก็ถูกส่งสารออกมาไปยัง “มือที่มองไม่เห็น” ที่คุณก็รู้ว่าใคร

“ฐาน 3 หมื่นคะแนนในพื้นที่นี้ สำคัญสำหรับการเลือกตั้งคราวหน้า ซึ่งผมจำถอดบทเรียน ผมจะทำยังไงกับพื้นที่จังหวัดลำปาง และอีก 3 เขตด้วย”

“เราก็ทราบว่า แกนนำในการหาเสียง หรือบุคคลที่มีบทบาททางสังคมแต่ละหมู่บ้าน ไม่พ้นพี่น้องที่เป็นแกนนำ อย่างอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) สมาชิกอาสาสมัครตำรวจบ้าน (สตบ.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น นี่คือแกนนำ กลุ่มคนเหล่านี้ถูกเบรกโดยใครก็ตามที่มองไม่เห็น มันตัดกำลังผม เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราพ่ายแพ้การเลือกตั้ง”

ความเสียหายจากการปราชัยของพรรคเศรษฐกิจไทยในสมรภูมิการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ที่ออกจากปากของ ร.อ.ธรรมนัส และนำไปสู่การตัดสินถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล

“ผมว่าความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ใครได้ใครเสียมากกว่ากัน พรรคเศรษฐกิจไทยเสียมากกว่า เสียเครดิต ว่าที่ผู้สมัครหลายท่าน เป็นคนที่ผมมั่นใจว่าจะกลับเข้ามานั่งในสภาได้ หลายท่านที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นบ้านใหญ่ หลายจังหวัดก็ถอนตัว โดยเฉพาะภาคอีสานที่จะมาอยู่กับผม”

ไม่ว่าสมมุติฐานพรรคเศรษฐกิจไทย “แกล้งตาย” เพื่อเป็นข้ออ้างโบกมือลาจากพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นจริงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสผู้เดียวเท่านั้นที่รู้

แต่การออกจากอ้อมอกพี่ใหญ่-พล.อ.ประวิตร ไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน 100% ทำให้ ร.อ.ธรร,นัส “เปิดหน้า” ล้ม พล.อ.ประยุทธ์ในศึกซักฟอกได้อย่างเป็นอิสรภาพ  

โดย ร.อ.ธรรมนัสจะหารือกับ 3 แกน คือ นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้ากลุ่ม 16 นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม และนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เพื่อกำหนดท่าที-จุดยืนในศึกซักฟอก

จับตาเอฟเฟ็กต์จากความพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ของพรรคเศรษฐกิจไทย และไฟแค้นสุมอก ร.อ.ธรรมนัส ที่จะส่งผลถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 19-22 กรกฎาคม 2565 ด้วยใจระทึก