เช็คเสียงรัฐบาล – ฝ่ายค้าน และ “งูเห่า” ในสมรภูมิอภิปรายไม่ไว้วางใจ

อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะเกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 19 – 22 กรกฎาคม 2565 เป็นศึกซักฟอกครั้งสุดท้าย ในปลายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

พรรคเพื่อไทย พี่ใหญ่ฝ่ายค้าน – เล่นใหญ่ ปล่อยทั้งโปสเตอร์โหมโรงศึกซักฟอก ยังมีทีเซอร์หนังตัวอย่างให้คนทางบ้านระทึกใจ เอาแกนนำพรรค ตัวอย่างเช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน มาเล่นบทเป็น “นักสืบ” คุ้ยข้อมูล “ทุจริต” ฝ่ายรัฐบาล ทำเอาฮือฮากันทั้งโซเชียลมีเดีย เตรียมขุนพลซักฟอกไว้ถึง 26 คน

ขณะที่พรรคก้าวไกล เตรียมขุนพลอภิปรายไว้ถึง 14 คน ส่วนพรรคประชาชาติ เตรียมผู้อภิปรายไว้ประมาณ 3 คน พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ อย่างน้อยจะมีขุนพลอภิปรายพรรคละ 1 คน รวมแล้วมีผู้ซักฟอกรัฐบาลเฉียด 50 คน

ทว่า รัฐบาลจะน็อก – ไม่น็อก ขึ้นอยู่กับเสียงโหวตในสภา ปัจจุบัน เมื่อเช็คเสียงรัฐบาล – ฝ่ายค้านในนาทีนี้ ตามโพยที่ “นักการเมือง” อยู่ในความครอบครอง

ฝ่ายรัฐบาลมี 18 พรรค รวม 269 เสียง ทว่า ยังต้องหัก 16 เสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ประกาศเป็นฝ่ายค้าน 100%  แต่ ณ ขณะนี้ พรรคฝ่ายค้านยังไม่ได้รับการประสานว่าพรรคเศรษฐกิจไทย จะเข้าร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการตอนไหน ดังนั้น ก็จะทำให้รัฐบาล เหลือ 253 เสียง

ขณะที่ฝ่ายค้าน มี 7 พรรค (รวมพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ขอลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้กับพรรคฝ่ายค้าน) 208 เสียง แต่ในจำนวน 208 เสียง ยังต้อง “ลบ” กับ ส.ส.งูเห่า ที่ประกาศตัวอยู่ข้างรัฐบาลอย่างเป็นทางการ อย่างน้อยอีก 13 เสียง ก็จะทำให้ฝ่ายค้านเหลือ 195 เสียง

แกะชื่อ “งูเห่า” ขาประจำ อยู่ที่ พรรคเพื่อไทย 7 คน  คือ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ  นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก ที่ไปอยู่พรรคภูมิใจไทยมาตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบก่อน

มาถึงคราวนี้ ก็ต้องเพิ่มชื่อของ นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี ก็ประกาศไปอยู่กับภูมิใจไทย หลังการโหวตงบประมาณ

นายจักรพรรดิ เคยกล่าวไว้ว่า “บอกว่าผมเป็นงูเห่า…แล้วไงล่ะ คุณไม่พูดถึงชาวนาบ้างหรือ นิทานอีสป มี 2 ตัวละคร มีชาวนา กับงูเห่า ถ้าเปรียบผมเหมือนงูเห่า ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยเป็นชาวนา ซึ่งทำนาบนที่ดินเจ้าของพรรค นาผืนนี้ก็คือพรรคเพื่อไทย ผู้บริหารก็คือชาวนา แต่กลับมารังแกงู ไม่ใช่ดูแล ให้ความอบอุ่นนะ จะกินงู! ต้องพูดถึงชาวนาด้วย ไม่ใช่เบลมแต่งูเห่าอย่างเดียว”

เช่นเดียวกับ นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก กล่าวว่า “คงไม่ได้อยู่กับพรรคเพื่อไทยอีก จะไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.อยากทำงานให้ประชาชน แต่การเป็นฝ่ายค้านไม่มีงบประมาณลงพื้นที่ไปช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้ ถ้าเป็นรัฐบาลอย่างน้อยก็ช่วยประสานของบประมาณไปแก้ไขปัญหาได้ จึงตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ถ้าพรรคจะมีมติขับออกจาก ส.ส.ก็พร้อมรับมติพรรค”

และ นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา ที่ได้ไปร่วมประชุมทีมโคราชพร้อมหารือเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง 2566 พร้อมกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ส่วนพรรคก้าวไกล ก็ปรากฏชื่องูเห่า 5 ตัว นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และนายเอกภพ เพียรวิเศษ ส.ส.เชียงราย ซึ่งโหวตไว้วางใจรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ทุกรอบ

เช่นเดียวกับ “อนุมัติ ซูสารอ” ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ที่เป็นอีกหนึ่งงูเห่าหน้าเดิมที่ลงคะแนนให้ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งได้รับการเคลมว่าอยู่ใต้สังกัดของ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ

ดังนั้น เมื่อลบนับเสียง “ส่วนต่าง” ระหว่าง ส.ส.พรรครัฐบาล กับ ฝ่ายค้าน นาทีนี้ ห่างกันอยู่ราว 58 เสียง

จึงเป็นไปอย่างที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ขอตัวไปเป็นฝ่ายค้าน บอกว่า ญัตติซักฟอกครั้งนี้ล้มรัฐบาล เสียงฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านยังห่างกันเยอะ แม้รวม 16 เสียงพรรคเศรษฐกิจไทย และ 16 เสียงของกลุ่ม 16 เพราะ ส.ส.ที่อยู่ฝ่ายค้านบางส่วนที่ไปโหวตให้รัฐบาลมีเยอะ แต่ไม่อยากเรียกว่างูเห่า ทำให้เสียงฝ่ายค้านหายไป จุดนี้ต้องมาคิดว่าจะทำการบ้านอย่างไร

ฝ่ายค้านจึงหวัง ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ สร้างกระแส เพื่อให้ไปถล่มรัฐบาล – กดดันนอกสภามากกว่า