โมเดลแสนล้าน ออริจิ้น มัลติเวอร์ส ปั้นบริษัทลูกเข้า IPO เติบโตพหุจักรวาล

พีระพงศ์ จรูญเอก ออริจิ้น
พีระพงศ์ จรูญเอก

ปีเสือ 2565 ระเบิดความร้อนแรงไม่หยุด ภายใต้โมเดลการเติบโตแบบพหุจักรวาล

แม้วิกฤตเศรษฐกิจอย่างสถานการณ์โควิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน ว่าที่สงครามจีน-สหรัฐจากการเยือนไต้หวันของประธานสภาผู้แทนราษฎรอเมริกา ก็ไม่อาจหยุดยั้งหรือทำให้แผ่วลงได้

เรากำลังพูดถึงแผนธุรกิจ “Origin Multiverse” การเติบโตแบบพหุจักรวาลสู่อาณาจักรแสนล้านภายในปี 2568 โดยมีไฮไลต์อยู่ที่แผนการนำบริษัทย่อยเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจสร้าง Multiverse of Happiness

บันได 3 ขั้น ออริจิ้น มัลติเวอร์ส

ซูเปอร์บอส “พีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า หลังจากก่อตั้งออริจิ้นฯ ครบ 12 ขวบปี มีการพัฒนา ปรับตัว และเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ ตลอดจนเมกะเทรนด์ระยะยาวของโลก ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค

เรื่องใหม่ปีเสือ 2565 จึงเป็นการคิกออฟขนานใหญ่ของบริษัท ภายใต้แนวคิด “Origin Multiverse” หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล มี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

1.ขยายสู่จักรวาลใหม่ (expanding to the new universe) จากเดิมที่มีจักรวาลหลักคือพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ขยายตัวเองเข้าสู่จักรวาลใหม่ ๆ แบ่งเป็น 4 กลุ่มจักรวาล ได้แก่ 1.1 กลุ่มจักรวาลที่อยู่อาศัยเพื่อขาย (residential for sales) 1.2 กลุ่มจักรวาลธุรกิจสร้างรายได้ประจำ (recurring income business) 1.3 กลุ่มจักรวาลธุรกิจบริการ (service business) 1.4 กลุ่มจักรวาลเมกะเทรนด์ระยะยาว (mega trends business)

หลักการทั้ง 4 กลุ่มจักรวาล ยังคงประกอบด้วยธุรกิจย่อย ๆ ที่ทยอยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 ที่ผ่านมา เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง และยังอาจมีจักรวาลย่อย ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต

2.แยกกันเติบโตแบบคู่ขนาน (growing in the separated timeline) ผ่านการจัดทัพ “ผู้บริหารมืออาชีพ” ในธุรกิจนั้น ๆ โดยจะมีบริษัทย่อยที่มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (IPO) เพิ่มเติม

นำโดย 1.บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร 2.บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสร้างรายได้ประจำ เช่น โรงแรม ออฟฟิศ ค้าปลีก บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด 3.บริษัทร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม เช่น คลังสินค้า โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ครบวงจร

โดยก่อนหน้านี้ ได้ส่ง “บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน)” เข้า IPO ไปแล้วในช่วงปลายปี 2564

คาดว่าภายในปี 2568 ออริจิ้นฯและทุกบริษัทที่เข้าจดทะเบียนจะกลายเป็นอาณาจักรที่มีมูลค่าตลาด (market capitalization) รวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท

3.เชื่อมโยงอีโคซิสเต็ม (connecting the ecosystem) เชื่อมโยงทุกจักรวาลที่แยกย้ายกันไปเติบโต กลับมาดูแลผู้บริโภคร่วมกันเป็นอีโคซิสเต็ม สร้าง “Multiverse of Happiness” ที่ครอบคลุมการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

“เมื่อก่อนทุกคนรู้จัก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เฉพาะจากจักรวาลหลักอย่างธุรกิจอสังหาฯ วันนี้ เรามีผู้บริหารที่เปรียบเสมือนตัวผมในอีกหลากหลายจักรวาล หลากหลายธุรกิจ ที่จะช่วยกันพาแบรนด์ใหม่ ๆ ธุรกิจใหม่ ๆ พาทุก multiverse ให้เติบโต เป็นที่รู้จัก และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญในธุรกิจเหล่านั้น และทุกธุรกิจเหล่านั้นจะเชื่อมโยง รวมพลังกันกลับมาเป็น Multiverse of Happiness เป็นอีโคซิสเต็มที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนทุกช่วงวัย ทุกเจเนอเรชั่น และทุกจังหวะการใช้ชีวิต”

2565 เดินหน้าทำสถิตินิวไฮ

สำหรับจักรวาลอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 ตั้งเป้าทุกด้านแบบ all time high เริ่มต้นจากเป้าเปิดตัวใหม่ 31 โครงการ มูลค่ารวม 42,000 ล้านบาท เติบโตแบบไม่เกรงใจวิกฤตเศรษฐกิจถึง 137% เทียบกับปี 2564 แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 12 โครงการ 13,400 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 19 โครงการ 28,600 ล้านบาท

โดยในฝั่งคอนโดฯ จะเติบโตไปในทุกเซ็กเมนต์ มีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น “ออริจิ้น เพลย์-ออริจิ้น เพลส” และบุกทำเลใหม่ ๆ ที่ฝั่งธนบุรี รวมทั้งมีเมกะโปรเจ็กต์ย่านทองหล่อ แบรนด์ “ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์” มูลค่าโครงการเดียว 15,000 ล้านบาท

บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 35,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 17,500 ล้านบาท หลังจากปี 2564 ทำผลงานทุกด้านเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างนิวไฮยอดโอนรวมโครงการร่วมทุน (JV-joint venture) 16,157 ล้านบาท มีรายได้รวม 15,943 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,194 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 เกิน 20% ส่งผลให้บริษัทจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสิ้นปี 2564 ในอัตรา 0.42 บาทต่อหุ้น

รีแบรนด์โลโก้รอบ 12 ปี

อาจกล่าวได้ว่าปีเสือเป็นปีที่ดีอย่างยิ่งยวด เป็นปีที่ดีอย่างมีนัยสำคัญสำหรับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ดูได้จากอีเวนต์สำคัญขององค์กร

เริ่มจากเดือนมีนาคม 2565 “เสี่ยโด่ง-พีระพงศ์ จรูญเอก” ได้รับเกียรติเข้ารับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประเภททั่วไป สาขาวิชาการจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ในฐานะผู้มีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจและภาวะผู้นำ เป็นนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ พัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง ให้ความสำคัญต่อสังคม การศึกษาของเด็กและเยาวชนที่เป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศในอนาคต และเป็นผู้นำพาองค์กรให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

ถัดมา ปลายเดือนเมษายน 2565 ได้รับโหวตเป็นเอกฉันท์ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมอาคารชุดไทย มีวาระทำงาน 2 ปี (2565-2567)

ในโลกการทำธุรกิจของออริจิ้นฯ ไม่มีเรื่องบังเอิญ ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน หนึ่งในการประกาศเป้าหมายสู่อาณาจักรธุรกิจแสนล้านเริ่มต้นที่การรีแบรนดิ้งองค์กร ปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี

ชูแนวคิด “Modern Living Enabler” พลิกโฉมจากโลโก้แบรนด์คอนโดฯคลาสสิกสไตล์อังกฤษ สู่แบรนด์อสังหาฯเพื่อคนรุ่นใหม่ครบวงจร ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่สำหรับคนทุกเจเนอเรชั่น

“ก้าวแรกของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เริ่มต้นมาจากการพัฒนาคอนโดฯ ที่มีความคลาสสิกสไตล์อังกฤษ ส่งผลให้โลโก้ของบริษัทในวันแรกมีกลิ่นอายความคลาสสิก สะท้อนผ่านแบรนด์โครงการในยุคแรกเป็นแบรนด์ที่อิงจากชื่อเมืองในอังกฤษ อาทิ เคนซิงตัน, นอตติ้ง ฮิลล์, ไนท์บริดจ์”

จิ๊กซอว์เรื่องแบรนด์เริ่มทำตั้งแต่ปี 2562 ที่มีคอนโดฯแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ ดิ ออริจิ้น, ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์, โซ ออริจิ้น เน้นความทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทั้งกลุ่ม “Gen Y-Z-สตาร์ตอัพ” ควบคู่ขยายการลงทุนรุกคืบธุรกิจใหม่ เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ การเงิน ประกันภัย ฯลฯ

อัพเดตล่าสุด “ออริจิ้น มัลติเวอร์ส” เพิ่งประสบความสำเร็จอีกครั้ง โดยมติที่ประชุมบอร์ดบริษัทครั้งที่ 5/2565 วันที่ 7 กรกฎาคม อนุมัติแผนการขายหุ้น IPO “บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI” โดยออริจิ้นฯ ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจาก 100% เหลือ 75%

นับเป็นจิ๊กซอว์ตัวล่าสุดที่เติมช่องว่างแผนธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/65 ของอาณาจักรแสนล้านค่ายออริจิ้น