ชนินทร์ วานิชวงศ์ ฮาบิแททลงทุนรอบใหม่ รับอสังหาพัทยา Turn around

ฮาบิแทท

ตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยา ได้เวลาฉายแสงอีกครั้งหลังจากเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด

ล่าสุด เจ้าตลาดโครงการไลฟ์สไตล์ อินเวสเมนต์ โปรเจ็กต์หรือโครงการอสังหาฯเพื่อการลงทุน “ชนินทร์ วานิชวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด แนะนำโครงการใหม่หลังจากเว้นวรรคการลงทุน 2 ปีในยุคโควิด (2563-2564)

8 โปรเจ็กต์ซื้อเพื่อลงทุนในพัทยา

โดยผลงานที่ผ่านมา ฮาบิแททกรุ๊ปลงทุนพัฒนาอสังหาฯเพื่อการลงทุนในพัทยาแล้ว 8 โครงการรวมมูลค่า 6,000 ล้านบาท เป็นโครงการที่เปิดให้บริการในรูปแบบโรงแรมและพูลวิลล่า 4 แห่ง ได้แก่ 1.เดอะ วิลล์ จอมเทียน (The Ville Jomtien) 2.ครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์ (X2 Vibe Pattaya Seaphere) 3.ครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ (X2 Pattaya Oceanphere) และ 4.เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา (Best Western Premier Bayphere Pattaya) เป็นแบรนด์ท็อปของเบสท์เวสเทิร์น

โครงการที่เตรียมเปิดบริการเพิ่ม 1 แห่งในไตรมาส 4/65 คือ 5.เบย์เฟียร์ พรีเมียร์ สวีท (Bayphere Premier Suites)

และในปี 2566 เตรียมเปิดบริการเพิ่ม 3 แห่ง ได้แก่ 6.วินด์ดัม แอทลาส วงศ์อมาตย์ พัทยา (Wyndham Atlas Wongamat Pattaya) ในช่วงไตรมาส 1/66, 7.เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ คอลเลคชั่น บลูเฟียร์ พัทยา (Best Western Premier Collection Bluphere Pattaya) มีการโอนกรรมสิทธิ์และสร้างแล้วเสร็จ 100% วางแผนเปิดให้บริการไตรมาส 2/66

และ 8.รามาด้า บาย วินด์ดัม มิรา นอร์ท พัทยา (Ramada by Wyndham Mira North Pattaya) ปัจจุบันทำยอดขายเกิน 90% คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้บริการในไตรมาส 4/66

ชนินทร์ วานิชวงศ์
ชนินทร์ วานิชวงศ์

เบย์เฟียร์ สวีท เคาะ 1.6 แสน/ตร.ม.

จุดเน้นอยู่ที่ไตรมาส 4/65 เตรียมเปิดบริการเพิ่ม 1 แห่งแบรนด์ “เบย์เฟียร์ พรีเมียร์ สวีท” มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท ที่ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการแรก “เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา” ซึ่งเปิดขายเมื่อปี 2556

“พร็อพเพอร์ตี้ของฮาบิแทท กรุ๊ป เริ่มต้นลงทุนปี 2559 โครงการแรก คือ เบย์เฟียร์ พัทยา ใช้เวลาโซลด์เอาต์ไม่ถึงปี โปรเจ็กต์ยังขายเป็นกระดาษอยู่เลย มีจุดขายค่อนข้างมาก เราเพิ่งฉลองครบ 1 ปีเปิดบริการเบย์เฟียร์ พัทยา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา จึงมองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการต่อยอดแบรนด์เบย์เฟียร์โครงการใหม่ในปีนี้”

รายละเอียด “เบย์เฟียร์ พรีเมียร์ สวีท” มีจุดเด่นตั้งอยู่ในทำเลติดชายหาดนาจอมเทียน เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์สูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนเนื้อที่ 3 งาน 99 ตารางวา จำนวนห้อง 119 ยูนิต มีห้องชุดให้เลือก 3 ไทป์ ประกอบด้วย ห้องชุดสตูดิโอไทป์พื้่นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร สัดส่วน 20%, แบบ 1 ห้องนอนไซซ์ 45-48 ตร.ม. มีฟังก์ชั่นลิฟวิ่ง และห้องชุด 2 ห้องนอนไซซ์ 58-120 ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 1.6 แสนบาท/ตารางเมตร

การันตีผลตอบแทน 7% 2 ปี

จุดแตกต่างของเบย์เฟียร์ พัทยา กับเบย์เฟียร์ พรีเมียร์ สวีท คือ โครงการแรกเบย์เฟียร์ พัทยา พื้นที่ใช้สอย 30-35 ตารางเมตร วางแผนเจาะลูกค้าเริ่มต้นครอบครัว (couple) มาพักผ่อนเป็นคู่ แต่หลังจากเปิดบริการ 1 ปีพบว่าดาต้าเบสกลุ่มลูกค้าที่มาพักจริงสัดส่วนสูงถึง 40-50% มาเป็นครอบครัว พ่อ-แม่-ลูก เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มีกิจกรรมรองรับได้ทุกวัย

ดังนั้น การพัฒนาแบรนด์เบย์เฟียร์โครงการที่ 2 “เบย์เฟียร์ พรีเมียร์ สวีท” จึงโฟกัสลูกค้าเป้าหมายกลุ่มครอบครัว นำมาสู่การขยายไซซ์ห้องให้ใหญ่ขึ้น โดยสัดส่วนหลัก 80% เป็นห้องไซซ์ 45-120 ตารางเมตร

ล่าสุด บริษัทเปิดขายรอบลูกค้าเก่า (VIP) เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ยอดขายเดินอย่างรวดเร็ว 50% จึงมั่นใจว่าหลังจากเปิดให้ชมห้องตัวอย่างและฟาซิลิตี้ส่วนกลางที่เชื่อม 2 โครงการเข้าด้วยกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะสามารถ sold out ได้ 100% ภายในสิ้นปี 2565 แน่นอน

เบย์เฟียร์ พรีเมียร์ สวีท เริ่มต้นราคา 4.5 ล้านบาท เป็นโครงการที่มีการบริหารจัดการโดยโรงแรมระดับ 5 ดาวภายใต้เชนเบสท์เวสเทิร์นกรุ๊ปร่วมกับฮาบิแทท ฮอสพิทาลิตี้ เพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนต่อเนื่อง 30 ปี โดยมีโปรโมชั่นการันตีผลตอบแทน 7% 2 ปี หลังจากนั้นผลตอบแทนใช้รูปแบบ room revenue แบ่งรายได้จากรายรับค่าห้อง 40% ให้กับเจ้าของห้องชุด และเจ้าของห้องสามารถเข้าพักฟรีได้ปีละ 14 วัน

“จากประสบการณ์พัฒนา lifestyle investment projects ในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา ช่วงโปรโมชั่นเราการันตีผลตอบแทน 6-7% 2-3 ปีแรก ในขณะที่หลังจากนั้นมีการแบ่งรายได้ตามอัตราการเข้าพัก ซึ่งเรามีข้อมูลพบว่าลูกค้าได้รับผลตอบแทนจริงเฉลี่ยปีละ 6%”

ลงทุนรัฐ-EEC-ยักษ์ธุรกิจหนุนฟื้น

“ชนินทร์” มองอนาคตในปี 2566 จะเป็นปีที่ดีในพัทยา ปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาครัฐ ทั้งทางด่วนมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้า 3 สนามบิน และโปรเจ็กต์ EEC เป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้ตลาดในโซนนี้กลับมาคึกคัก

และอนาคตที่อยู่ไม่ไกลจินตนาการได้ถึงพัทยาจะเชื่อมไร้รอยต่อ และกลายเป็นส่วนต่อขยายของโซนบางนาในที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ส่งสัญญาณ turn around มาจากโครงการรอลงทุนของยักษ์ธุรกิจ อาทิ AWC-Asset World Corp Plc. ของตระกูลสิริวัฒนภักดี ที่เตรียมลงทุนโครงการมิกซ์ยูส มี 3-4 โรงแรมในโครงการเดียวกัน ทั้งในเครือแมริออทและเชนใหญ่ มีห้างและแบรนเดดเรสซิเดนเซส

ค่ายแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีทั้งแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ 21 ล่าสุดเปิดบริการแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ สเปซ หรือจะห้างเซ็นทรัล วงศ์อมาตย์ ที่มีจุดขายเป็นทั้งรีเทลและอาศัยความเป็นห้างบีชฟรอนต์จึงวางแผนเป็นรูปแบบสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของพัทยา ซึ่งอยู่ใกล้พูลแมน นอร์ธ พอยต์

บิ๊กมูฟการลงทุนภาคเอกชนที่สำคัญยังรวมถึงกลุ่ม ซี.พี. ตระกูลเจียรวนนท์ วางแผนเปิดตัวโครงการไอคอนสยาม นาจอมเทียน พัทยา ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางปี-ปลายปี 2566 เป็นอภิโปรเจ็กต์ใหญ่มีมิกซ์ยูส โรงแรม ท่าเรือ แบรนเดดเรซิเดนซ์ซึ่งคาดว่าจะทำราคาสูงที่สุดหรือนิวไฮให้กับพัทยา

“ปัจจุบันคอนโดฯในพัทยาราคาสูงสุด ตร.ม.ละ 2 แสน ผมคิดว่าอีก 2-3 ปีตัวเลขจะกระโดดขึ้นไปอีก 40-50% คาดว่าเปิดราคากันที่ 2.5-3 แสน มีความเป็นไปได้อยู่”

โดยโมเดลการอัพราคาของคอนโดฯในเครือฮาบิแทท ห้องแรกที่ขายในโครงการเบย์เฟียร์ พัทยา จบที่ตารางเมตรละ 1.15 แสนบาท เทียบกับราคาตลาดอยู่ที่ 8 หมื่นบาท/ตร.ม.ในขณะนั้น ล่าสุด เบย์เฟียร์ พรีเมียร์ สวีท เฉลี่ยที่ 1.6 แสน/ตร.ม.

ในอนาคต จากสัญญา turn around รอบใหม่+ปัจจัยสนับสนุนทั้งการลงทุนภาครัฐและเอกชน CEO ฮาบิแทท กรุ๊ป สรุปสั้น ๆ ว่าอีก 2 ปี คอนโดฯฮาบิแททต้องเปิดราคาขายเริ่มต้น 2 แสน/ตร.ม. ขยับราคาขึ้นโดยอัตโนมัติตามการแข่งขันที่จุดพลุโดยยักษ์ธุรกิจในตลาดอสังหาฯพัทยา