PRI เผย Q1/66 รายได้ 396 ล้าน โต 132% กำไร 88 ล้าน โตเท่าตัว

PRI นางสาวจตุพร วิไลแก้ว

PRI-พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น เผยผลประกอบการไตรมาส 1/66 เติบโต 132% กวาดรายได้ 396 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 98% ขานรับตลาดอสังหาฯฟื้น เดินหน้าขยายธุรกิจบริการอสังหาฯ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ทั้งปี 1,300 ล้านบาทตามเป้า 

วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส​ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 1/66 (1 ม.ค.-31 มี.ค. 66)

มีรายได้รวม 396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% เทียบกับไตรมาส 1/65 กำไรสุทธิ 88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 รายได้คิดเป็น 30% ของเป้ารายได้ทั้งปี 1,300 ล้านบาท

รายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น มาจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564-2565 ประกอบกับตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ

ส่งผลให้บริษัทมีโครงการที่รับบริหารจัดการทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพิ่มจาก 120 โครงการในช่วงไตรมาส 4/65 เพิ่มเป็นมากกว่า 130 โครงการ ณ สิ้นไตรมาส 1/66

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้สูงสุดในไตรมาส 1/66 เป็นกลุ่มธุรกิจปลายน้ำ-บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) จำนวน 225 ล้านบาท สัดส่วน 57% ของรายได้รวม

และคิดเป็นอัตราเติบโต 223% เทียบกับไตรมาส 1/65 จากการให้บริการออกแบบและตกแต่งเพิ่มขึ้น ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และภายในพื้นที่พักอาศัย รวมถึงมีรายได้ใหม่ ๆ จากธุรกิจบริการทำความสะอาดเพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มธุรกิจกลางน้ำ-บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) มีรายได้ 121 ล้านบาท เติบโต 59.5%

เป็นผลมาจากจำนวนโครงการเพิ่มสูงขึ้น จึงมีรายได้จากการให้บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร และ Residential Property เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน

รวมทั้งธุรกิจบริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และบริการจัดหาผู้ร่วมทุน (JV) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ-บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) อยู่ที่ 49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101% จากรายได้ธุรกิจบริการออกแบบสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้าง และวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร

เนื่องจากมีฐานลูกค้าโครงการ ในธุรกิจที่ปรึกษาการบริการและควบคุมงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น รวมถึงมีคอร์สฝึกอบรมใหม่ ๆ ภายใต้ UPM Academy

นางสาวจตุพรกล่าวอีกว่า ไตรมาส 2/66 บริษัทเดินหน้าขยายอาณาจักร Super Living Service สร้างการเติบโตด้วยตัวเอง (Organic Growth) และเติบโตทางลัด (Inorganic Growth) ทั้งจับมือร่วมทุนกับพันธมิตร (Joint Venture) ในธุรกิจนั้น

ตลอดจนการซื้อกิจการ (M&A) เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจบริการใหม่ ๆ ให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

“เรื่องใหม่ เราจะบุกตลาดต่างจังหวัดตั้งแต่ไตรมาส 2/66 จึงเชื่อมั่นว่ารายได้ปี 2566 จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,300 ล้านบาท เป้าเติบโต 42% เป้าบริหารนิติบุคคลฯ และบริหารงานขาย 150 โครงการ” นางสาวจตุพรกล่าว

อนื่ง PRI มีประสบการณ์ 11 ปี ปัจจุบันแบ่ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

1.ธุรกิจต้นน้ำ-บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) อาทิ บริการที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง ออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง งานโยธา และงานระบบ บริการจัดฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร

2.ธุรกิจกลางน้ำ-บริการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) อาทิ บริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคาร และสำนักงาน บริการอพาร์ตเมนต์แบบพรีเมี่ยม ซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาฯ ครบวงจร

3.ธุรกิจปลายน้ำ-บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) อาทิ บริการแม่บ้านและช่าง ออกแบบและตกแต่งภายใน

ออริจิ้นฯ ร่วมทุน BE8 ติดปีก Digital Transformation โตไร้ขีดจำกัด