FPT ย้ำกลยุทธ์ “Real Estate as a Service Brand” รักษาผู้นำที่อยู่อาศัย-คอมเมอร์เชียล-คลังสินค้าและโรงงาน

นายธนพล ศิริธนชัย

FPT-บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) ประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังมีแรงบวก แต่ต้องระวังปัจจัยเสี่ยงจากใน-นอกประเทศ เชื่อมั่นพอร์ตโฟลิโอแข็งแกร่ง รุกสร้างการเติบโตผ่านการเป็น Real Estate as a Service Brand ตามโรดแมป FPT Next 2025 ใน 3 กลุ่มธุรกิจทั้งที่อยู่อาศัย-อุตสาหกรรม-พาณิชยกรรม

วันที่ 23 มกราคม 2567 นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ว่า ได้รับแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวที่ส่งผลให้ภาคเอกชนมีการบริโภคเพิ่มขึ้น

บวกกับภาครัฐที่ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่หลั่งไหลตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย

นายธนพล ศิริธนชัย
นายธนพล ศิริธนชัย

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจ อาทิ ภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย หนี้ครัวเรือน และปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส

แม้จะเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายด้าน แต่ FPT ยังคงความสามารถในการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยแผนกลยุทธ์ที่มีความยืดหยุ่น มีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง และมีธุรกิจที่หลากหลายซึ่งสามารถสร้างรายได้อย่างสมดุลจากการขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีกระแสรายได้ต่อเนื่อง

โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2570 บริษัทจะสร้างรายได้กว่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ที่สร้างรายได้จากการขายและรายได้ประจำอยู่ที่ 40 : 60 สะท้อนถึงความพร้อมในการเติบโตระยะยาวภายใต้การเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกที่มีทีมงานมากประสบการณ์และความชำนาญหลายด้าน พร้อมต่อยอดในการพัฒนาสินค้าและบริการคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าและผู้ใช้งานทุกกลุ่ม

ในปี 2567 เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ตั้งเป้าธุรกิจที่อยู่อาศัยทำรายได้กว่า 13,000 ล้านบาท เปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 11,600 ล้านบาท เดินหน้าต่อเนื่องกับการจับตลาดบ้านเดี่ยวและบ้านลักเซอรี่

FPT

พร้อมสร้างกระแสรายได้จากค่าเช่าให้เติบโตแข็งแกร่งผ่านธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าที่จะลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาทในการขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการอีก 150,000 ตร.ม. เพิ่มจากปัจจุบันที่ 3.5 ล้านตร.ม. ทั้งในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ด้วยเป้าหมายอัตราการเช่าอยู่ที่ 87% พร้อมมีแผนลงทุนต่อเนื่องเพื่อมุ่งสู่พื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการ 4 ล้าน ตร.ม.ในอีก 2 ปี

นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นยกระดับการให้บริการอาคารสำนักงานเกรดเอย่าน CBD และพื้นที่รีเทลอย่างสามย่านมิตรทาวน์และสีลมเอจที่เชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาอัตราการเช่าในระดับสูงที่ 93% เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย

พร้อมสานต่อภารกิจยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ผ่านการต่อยอดนวัตกรรมการบริการด้วยการเป็น “Real Estate as a Service Brand” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นไปตามโรดแมป FPT Next 2025 ที่ประกาศเมื่อปีที่แล้ว

โดยแผนงานเดินหน้าสร้าง Real Estate as a Service Brand แบ่งเป็น 3 มิติ คือ

1) Space-as-a-Service : พัฒนาพื้นที่พร้อมการบริการแบบครบครัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม พัฒนาอาคารสำนักงานด้วยแนวคิด Core & Flex ให้บริการพื้นที่แบบมาตรฐานและยืดหยุ่น รวมถึงสำนักงานตกแต่งเบ็ดเสร็จพร้อมเข้าทำงานโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม ภายใต้ชื่อบริการ PromptMove-พร้อมมูฟ ตอบรับดีมานด์ผู้เช่าหลากหลายเซ็กเมนต์

พร้อมยังมีการออกแบบอาคารอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่และฟังก์ชั่นที่สอดรับกับรูปแบบธุรกิจของลูกค้าอย่างการพัฒนา Last Mile Delivery Center ให้กับกลุ่มโลจิสติกส์ ตลอดจนการสร้างบ้านและทาวน์โฮมหลากหลายรูปแบบที่ลงลึกถึงรายละเอียดที่แตกต่างของพื้นที่และฟังก์ชั่น

FPT

รวมถึงอัพเกรดแอปพลิเคชัน Home+ ที่ผนึกกำลังร่วมกับพาร์ตเนอร์ พร้อมให้บริการลูกค้าครบวงจรตั้งแต่การขายถึงการอยู่อาศัย

2) Community-as-a-Service : สร้างสรรค์พื้นที่คุณภาพเพื่อผู้คนที่สอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิต การทำงาน และการเรียนรู้ มุ่งพัฒนาพื้นที่ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนโดยรอบ สะท้อนได้จากการดำเนินงานปรับปรุงคุณภาพโลจิสติกส์พาร์ค (PEI : Park Enhancement Initiative) เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ชีวิตให้กับผู้ใช้งาน ผ่านการเพิ่มพื้นที่สีเขียว สนามฟุตบอล ลู่วิ่ง เป็นต้น

รวมถึงพัฒนาพื้นที่รีเทลที่ให้ความสำคัญกับชุมชน (Community-Centric) ด้วยการสร้างพื้นที่ธุรกิจที่มีความหมายและเกิดประโยชน์กับชุมชนโดยรอบ (Placemaking) เพื่อร่วมสร้างการเติบโตไปด้วยกัน

3) Sustainability-as-a-Service : นำเสนอโซลูชั่นด้านความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาด้านความยั่งยืนทุกมิติอย่างต่อเนื่อง โดยทุกอาคารอุตสาหกรรมได้รับการพัฒนาตามมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากล ผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED และ EDGE แล้วกว่า 500,000 ตารางเมตร

ขณะเดียวกัน เดินหน้าปรับปรุงคุณภาพอาคารเดิมผ่านโครงการ AEI (Asset Enhancement Initiative) ของอาคารโรงงาน-คลังสินค้า และอาคารสำนักงาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ใช้อาคาร และรักษามาตรฐานการให้บริการไว้ในระดับสูง ขณะที่ที่อยู่อาศัยได้ ผสมผสานฟีเจอร์บ้านเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เช่น ระบบระบายอากาศ ERV การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป และ EV Charger เป็นต้น

“FPT เป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานและมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย ซึ่งนับเป็นรากฐานที่สำคัญในการต่อยอดและคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ สำหรับยกระดับนวัตกรรมการบริการ โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าการเป็น Real Estate as a Service Brand จะสามารถสร้างความแข็งแกร่งและเสริมโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจอย่างโดดเด่นจากผู้เล่นรายอื่นในตลาด พร้อมทั้งช่วยยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยให้เทียบเท่าระดับสากล” นายธนพลกล่าว

นายธนพล ศิริธนชัย