15 ปี เอสซีจี โฮม เอ็กซ์พีเรียนซ์ มุ่งสู่เป้าหมายบ้านครบวงจร “คิด-สร้าง-ซ่อม-อยู่”

SCG

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บิ๊กคอร์ปอเรตวงการวัสดุก่อสร้าง “SCG HOME Experience” ครบรอบก่อตั้ง 15 ปี ในปี 2567 นี้

หนึ่งในธีมธุรกิจที่มีการประกาศเป้าหมายชัดเจนคือ ภายในปี 2569 เอสซีจี โฮม เอ็กซพีเรียนซ์ ต้องการเป็นผู้นำในการดูแลเรื่องบ้านครบวงจร ภายใต้มอตโต้สั้นกระชับจำง่ายที่ว่า “คิด-สร้าง-ซ่อม-อยู่”

นำเสนอเมกะเทรนด์ 5 บ้าน

โดย “ธัญญ์กวิน บุดดีมี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด ระบุว่า ตลอดระยะเวลา 15 ปี บริษัทมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ผ่านองค์ความรู้ สินค้าและนวัตกรรม เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีขึ้น สอดรับกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค

โดยได้เริ่มก่อตั้ง SCG Experience ครั้งแรกในปี 2552 เพื่อเป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้านวัตกรรมของเอสซีจีให้กับเจ้าของบ้าน เน้นเรื่อง Knowledge and Innovation Living Center

จากนั้นดิจิทัลแพลตฟอร์มได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จึงพัฒนาช่องทางผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในปี 2562 มีการปรับรูปแบบการทำธุรกิจสู่ Retail Business เต็มตัว และปรับโฉมสู่แฟลกชิปสโตร์ในปี 2564 ด้วยการเป็นร้านที่มุ่งเน้นเรื่อง Service Solution ให้กับเจ้าของบ้าน เพื่อให้การอยู่อาศัยดีขึ้น และเป็นจริงได้แบบ Better Living Made Possible

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายในอีก 2 ปีข้างหน้า ต้องการยกระดับให้ SCG HOME Experience สามารถดูแลลูกค้าได้ครบทุกความต้องการ ตั้งแต่ “คิด-สร้าง-ซ่อม-อยู่” เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านการอยู่อาศัย

ADVERTISMENT

ประสบการณ์ล้ำค่าในช่วงที่ผ่านมา นำเสนอผ่าน 5 เทรนด์บ้านในรูปแบบ Sustainable Living ประกอบด้วย 1.บ้านเย็น 2.บ้านสมาร์ท 3.บ้านผู้สูงอายุ 4.บ้านกันเสียง และ 5.บ้านประหยัดพลังงาน

โดยการนำสินค้าในกลุ่ม SCG Green Choice มาใช้ มีจุดโฟกัสในเรื่องเน้นการลดโลกร้อน ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดทรัพยากร และยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ช่วยสร้างสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย และมีสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การอยู่อาศัย

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ได้จัดทำกระบวนการ Partner Management เพื่อร่วมทำงานกับพาร์ตเนอร์เพื่อให้เกิดเศษวัสดุเหลือใช้ให้น้อยที่สุด เริ่มตั้งแต่การเข้าสำรวจวัดขนาดการติดตั้ง เตรียมอุปกรณ์ให้เหมาะกับหน้างาน ความสำเร็จที่บอกต่อไม่รู้จบก็คือ Partner Management สามารถช่วยลดเศษวัสดุ ลดการเกิดมลพิษทางเสียงและทางอากาศที่หน้างานได้จริง

ครบเครื่องผู้นำดูแลเรื่องบ้าน

กรรมการผู้จัดการ เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ ฉายภาพเทรนด์ปี 2567 กลุ่มสินค้าและบริการเอสซีจียังคงเติบโต ท่ามกลางการแข่งขันสูงระดับเรดโอเชียนจากผู้ผลิตรายใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดโซลาร์เซลล์ที่เจ้าของบ้านหันมาให้ความสนใจติดตั้งมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ ทำให้ SCG Solar Roof Solutions ยังคงได้การตอบรับที่ค่อนข้างดี

ควบคู่กับกลุ่มธุรกิจงานต่อเติมและงาน Outdoor เช่น การต่อเติมโรงรถ ปรับภูมิทัศน์ภายนอก ยังคงได้รับความนิยมพอ ๆ กับปี 2566 ที่ผ่านมา โดยจะเห็นว่าลูกค้าเอนด์ยูสเซอร์ หรือเจ้าของบ้าน ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล พฤติกรรมการบริโภคจะเป็นตลาดกลุ่มรีโนเวต และงานต่อเติมที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มที่มีปัญหาบ้านต้องการแก้ไข กลุ่มที่ต้องการปรับให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมและความต้องการส่วนบุคคล

จุดที่ต้องโฟกัสอย่างเป็นพิเศษ คือ กลุ่มตลาดผู้สูงอายุ หรืองานภายใน ที่เติบโตในช่วง 5 เดือนแรก (มกราคม-พฤษภาคม 2567) เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน สอดคล้องกับกลุ่มสินค้าที่เจ้าของบ้านให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น เช่น พื้นลดแรงกระแทก พื้นป้องกันเชื้อแบคทีเรีย งานติดตั้งลิฟต์บันได ลิฟต์บ้าน โดยลูกค้ากลุ่มนี้เริ่มมีการเตรียมความพร้อมก่อนวัยเกษียณมากขึ้น

ส่วนเจ้าของบ้านที่เป็นครอบครัวที่ไม่มีบุตร และหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทดแทน ที่เรียกว่า Pet Parents ก็มองหาวัสดุในการดูแลสัตว์เลี้ยงให้เหมือนลูกมากขึ้น เช่น พื้นกันลื่นภายในบ้าน อุปกรณ์ Gadget ใช้ในการดูแลสัตว์เลี้ยง

“ทั้งหมดนี้เป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ ซึ่งเอสซีจีก็พร้อมตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการและตรงจุด” คำกล่าวของธัญญ์กวิน

ต่อยอด 3 Green สู่ ESG

ผู้บริหารอีกราย “เจือ คุปติทัฬหิ” สถาปนิกอาวุโส Living Experience Designer กล่าวเสริมว่า เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ ยังมีอาวุธลับทางการตลาด นั่นคือ “คลินิกหมอบ้าน” เป็นส่วนหนึ่งในการตอบโจทย์ด้านการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนให้แก่ลูกค้า ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาเรื่องที่อยู่อาศัยผ่านช่องทางร้านและออนไลน์ ค้นหาความต้องการของลูกค้าสู่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดอย่างเข้าใจ พร้อมต่อยอดสู่สินค้าและบริการของเอสซีจีและพาร์ตเนอร์ในรูปแบบ Best Solution

สถิติที่ผ่านมาได้ดำเนินการให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาให้ลูกค้ามากถึง 1,800 เคส

“การออกแบบบ้านที่รองรับแนวคิดการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Living House Design Concept เป็นหัวใจสำคัญของสถาปนิกในเครือเอสซีจี เพราะบ้านหรือที่อยู่อาศัยอยู่กับเราไม่ใช่แค่ 1-2 ปี เราจึงเน้นให้คำปรึกษาตั้งแต่การออกแบบที่ถูกต้อง ตรงความต้องการ เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัย”

กระบวนการออกแบบบ้านจึงเริ่มต้นด้วย “Green Consult” การนำสินค้าและนวัตกรรมที่เอสซีจีคิดค้น มาใช้เพื่อทำให้บ้านเย็น ประหยัดพลังงาน ควบคุมคุณภาพอากาศ การสร้างสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัยร่วมกันแบบ

“Green Design” ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเซตมาตรฐานใหม่เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนในอนาคต และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ “Green Construction” ที่จะเกิดการบริหารร่วมกันของเอสซีจี พาร์ตเนอร์ ผู้รับเหมา สร้างเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญในการทำบ้านตั้งแต่ต้นจนจบ

“ทั้งกระบวนการนี้ไม่เพียงตอบโจทย์แค่ลูกค้าเพื่อความยั่งยืนของที่อยู่อาศัย แต่ตอบโจทย์แนวคิดด้าน ESG ไปพร้อมกันในทุก ๆ ภาคส่วน”

สำหรับอีเวนต์ที่จัดขึ้นเพื่อรองรับและต่อยอดแนวคิดการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรมโครงการประกวดแบบบ้าน Sustainable Living Design เพื่อสร้างสรรค์การออกแบบบ้านสู่แนวทางแห่งความยั่งยืน ด้วยหลักการออกแบบที่ตอบโจทย์ และสามารถส่งต่อให้เจ้าของบ้าน ที่กำลังมองหาแบบบ้านเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนที่เป็นจริงได้

โดยประสานความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการเงินต่าง ๆ เข้าร่วมงาน เพื่อร่วมสร้างแนวทางดังกล่าวไปพร้อมกัน รวมทั้งเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา นักเรียน สถาปนิก บุคคลทั่วไป สามารถส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ เพื่อร่วมปลูกฝังและสร้างชุมชนกรีนให้เฟื่องฟูทั้งแผ่นดินไทย