อสังหาริมทรัพย์

“ศักดิ์สยาม” ขีดเส้นตายแผนฟื้นฟู “การบินไทย” ล้มเหลวปล่อยล้มละลาย

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ยังไม่ได้พิจารณาแผนฟื้นฟูของ บมจ.การบินไทยแต่อย่างใด ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา และขอให้สื่ออย่าเพิ่งไปให้ข่าวกันจนมากเกินไป โดยตอนนี้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้ส่งให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อเสนอ ครม.ต่อไป ซึ่งกำชับไปแล้วว่าแผนฟื้นฟูดังกล่าวจะต้องครบถ้วนและสมบูรณ์จึงจะเสนอขึ้นมาได้

“ผมย้ำอยู่เสมอว่า การบินไทยจะต้องเข้าสู่การฟื้นฟู โดยแผนที่ทำจะต้องมีเหตุมีผล ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายตัวด้วยกัน ก็ขอร้องบุคลากรทั้งในและนอกองค์กร รวมถึงสหภาพรัฐวิสาหกิจต่างๆ ต้องช่วยกันตรงนี้ ไม่งั้นไปไม่ได้ และสุดท้ายจะทำให้ทุกคนไม่มีอาชีพกัน นั่นแหละคือความล้มเหลวโดนสิ้นเชิง ซึ่งผมไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พลเอกประยุทธ์ย้ำอีกว่า ตนจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้ จึงอยากขอร้องให้ช่วยกัน และตนไม่ไปขัดแย้งหรือมีผลประโยชน์ในการบินไทยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น การค้ำประกันเงินกู้จำนวน 50,000 ล้านบาท ยังไม่มีการพูดถึงและต้องรับฟังเสียงของประชาชนก่อน

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้ให้คณะกรรมการ (บอร์ด) และฝ่ายบริหารของการบินไทยร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ทำงานร่วมกันในการเพิ่มเติมรายละเอียดของแผนฟื้นฟูการบินไทย ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีรายละเอียดในส่วนของ Action Plan ครอบคลุมแผนบริหารรายได้ แผนบริหารรายจ่าย แผนบริหารหนี้ และแผนฟื้นฟูหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงให้ทั้งสองหน่วยงานไปเพิ่มเติมข้อมูลดังกล่าวมา

“เท่าที่ตรวจสอบขณะนี้พบว่า แผนฟื้นฟูเดิมมีความเสี่ยงปรากฎขึ้นถึง 23 ประเด็น จึงให้ทั้งสองหน่วยงานเพิ่มเติมข้อมูลและแนวทางการดำเนินการที่จะอุดความเสี่ยงทั้ง 23 ประเด็นดังกล่าวด้วย โดยการพิจารณาเพิ่มเติมข้อมูลทั้งหมดต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.นี้ ถ้าเสร็จไม่ทันแสดงว่าแผนนี้ไม่สามารถทำได้”

ทั้งนี้ การเพิ่มเติมข้อมูลและแนวทางของฟื้นฟูยังเป็นไปตามที่มติ คนร.ให้กรอบไว้ 7-10 ข้อเมื่อการประชุมเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา ส่วนการลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังลงให้ต่ำกว่า 50% ยังไม่มีการพิจารณาในที่ประชุม ครม.ครั้งนี้ ขณะที่การพิจารณาปรับเปลี่ยนฝ่ายบริหารและบอร์ดยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้น และเชื่อว่ายังทำงานกันได้

สำหรับการพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การปล่อยให้การบินไทยล้มละลาย เป็นต้น จะพิจารณาก็ต่อเมื่อการบินไทยไม่สามารถทำแผนฟื้นฟูองค์กรได้ และอย่าให้กระบวนการฟื้นฟูเหล่านี้ไปถึงชั้นศาลเลย

จึงอยากให้การบินไทยทำการบ้านของตัวเองให้เรียบร้อย อย่าชี้นิ้วใส่คนอื่น เพราะเงินที่จะเอามาใช้ฟื้นฟูคือเงินภาษีของประชาชน ถ้าการบินไทยไม่มีความสามารถในการหารายได้ สุดท้ายรัฐจะต้องรับภาระเหมือนกัน ซึ่งตนก็ไม่อยากให้การบินไทยมีชะตากรรมเหมือนสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์