15 ปีความสำเร็จของทีมพัฒนา บ้านเดี่ยว เอพี (ไทยแลนด์)

ไทม์ไลน์การเติบโตของสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เส้นกราฟที่เป็นอัตราเติบโตก้าวกระโดดเริ่มเด่นชัดตั้งแต่ปี 2554 มีการเปิดตัว 1 โครงการ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้าน ต้องบอกว่าอาจไม่ใช่โมเมนต์ที่ดีนักในการทำสินค้าแนวราบเพราะมีน้ำท่วมใหญ่ในปีนั้น แต่ในทางกลับกันพบว่ามีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นปีฐานในการกำหนดเป้าหมายที่ท้าทายให้กับบริษัท

รุ่งขึ้นในปี 2555 ลอนช์บ้านเดี่ยว 2 โครงการ 2,400 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 1,200 ล้านบาท), ปี 2556 ลอนช์ 4 โครงการ 3,950 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 988 ล้านบาท), ปี 2557 ลอนช์ 5 โครงการ 4,410 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 882 ล้านบาท), ปี 2558 ลอนช์ 7 โครงการ 4,530 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 647 ล้านบาท), ปี 2559 ลอนช์ 9 โครงการ 7,850 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 872 ล้านบาท)

จุดโฟกัสอยู่ที่รอยต่อนับจากนี้ ผลจากการทำงานหนักของทีมบ้านเดี่ยวเอพีทำให้การลอนช์โครงการใหม่ทะยานสู่หลักหมื่นล้านบาท/ปี โดยปี 2560 ลอนช์ 9 โครงการ 12,350 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 1,372 ล้านบาท), ปี 2561 ลอนช์ 9 โครงการ 11,080 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 1,231 ล้านบาท), ปี 2562 ลอนช์ 7 โครงการ 8,540 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 1,220 ล้านบาท) และปีปัจจุบัน 2563 เป้าลอนช์ 18 โครงการ 20,430 ล้าน (เฉลี่ยโครงการละ 1,135 ล้านบาท)

สถิติที่ต้องดูประกบคู่กับมูลค่าเปิดตัวโครงการใหม่ก็คือ ยอดรับรู้รายได้หรือยอดโอน พบว่าปี 2554 มีรายได้ 2,759 ล้านบาท, ปี 2555 รายได้ 3,607 ล้านบาท, ปี 2556 รายได้ 3,703 ล้านบาท, ปี 2557 รายได้ 4,065 ล้านบาท, ปี 2558 รายได้ 4,301 ล้านบาท, ปี 2559 รายได้ 4,330 ล้านบาท

จับตาดูยอดรับรู้รายได้ปี 2560 รายได้ 4,990 ล้านบาท ขณะที่ปี 2561 รายได้เพิ่มเท่าตัวเป็น 8,790 ล้านบาท และปี 2562 รายได้ทะลุ 10,227 ล้านบาท

เมื่อหยิบตัวเลขมาวางบนบรรทัดเดียวกัน ปี 2561 รายได้ 8,790 บาท เทียบกับปี 2562 เพิ่มเป็น 10,227 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตของรายได้ 16.3% เทียบปีต่อปี แต่ตัวเลขที่สะท้อนโปรเฟสชั่นนอลอยู่ที่ปี 2554 รายได้ 2,759 ล้านบาท ติดสปริงบอร์ดเป็น 10,227 ล้านบาทในปี 2562 คำนวณแล้วเป็นอัตราเติบโตด้านรับรู้รายได้ถึง 270% กันเลยทีเดียว

และเป็นสถิติที่ทำยอดรับรู้รายได้ “นิวไฮ” ต่อเนื่อง 8 ปีติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2554-2562

ล่าสุดดาต้าเบสจากสำนักงานขายโครงการ ยอดวิสิตไซต์ต้นปี 2563 จนถึงวันที่ 2 เมษายนซึ่งเป็นวันแรกที่ล็อกดาวน์เฉลี่ย 696 ราย/สัปดาห์ ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 1,319 ล้านหล่นฮวบเกือบติดฟลอร์ไปอยู่ที่ 345 ล้านในช่วงล็อกดาวน์ประเทศ จากนั้นนับแต่ 2 เมษายนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2563 มีเซอร์ไพรส์เพราะสถานการณ์พลิกกลับด้าน ยอดวิสิตไซต์ขึ้นไปสูงถึง 1,200-1,800 ราย/สัปดาห์ ยอดขายวิ่งระหว่าง 1,500-2,500 ล้านบาท

เมื่อจับตัวเลขมาวางบนบรรทัดเดียวกัน ยอดวิสิตไซต์ต้นปีถึงวันที่ 2 เมษายน 2563 ซึ่งเป็นวันล็อกดาวน์ประเทศวันแรกเฉลี่ย 696 คน/สัปดาห์ ขณะที่ยอดวิสิตไซต์ระหว่าง 2 เมษายนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม หรือระหว่างสัปดาห์ที่ 14-32 ของปี โครงการเครือเอพีมียอดลูกค้าวิสิตไซต์เฉลี่ยสูงถึง 1,165 คน/สัปดาห์ นั่นหมายความว่ายอดวิสิตไซต์ช่วงหลังโควิดเพิ่มสูงขึ้นถึง 68% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด

นำไปสู่บทสรุปยุคโควิดครีเอตดีมานด์ซื้อสินค้าที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะโครงการแนวราบให้สูงขึ้นกว่าปกติ เมื่อเอพีนำเสนอจุดขาย hybrid living-บ้านที่เข้าใจชีวิตได้โดนใจลูกค้า กลายเป็นเกมธุรกิจที่วินวินด้วยกันทั้งคู่ อีกทั้งเป็นแนวโน้มและความมั่นใจว่าเอพีสามารถรักษาสถานะการเป็นผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวในปี 2563 นี้