วิษณุ เคลียร์ปมสัมปทาน ”สายสีเขียว” ทุกหน่วยไฟเขียว “คมนาคม” ค้านสุดโต่ง

สายสีเขียว

“วิษณุ” นัดทุกหน่วย เคลียร์ปมสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่จบไม่ลง ทุกฝ่ายเปิดไฟเขียว เว้น “คมนาคม” ยังงัดข้อขอข้อมูลเพิ่ม เลื่อนเข้า ครม.-เก็บค่าตั๋วใหม่ ปล่อย BTS ฟ้องทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถ 3 หมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงคมนาคม, กรุงเทพมหานคร (ทม.), บจ.กรุงเทพธนาคม และ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC)

มาหารือถึงเรื่องสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่รอเข้าการพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ”อยู่ระหว่างการพิจารณา”

บิ๊กบีทีเอสไม่ให้สัมภาษณ์

โดยเมื่อเวลา 17.00 น. นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BTSC ได้เดินลงมาจากตึกบัญชาการ 1 แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน

สายสีเขียวยังถกไม่ลง

ต่อมาเวลา 17.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การหารือกันดังกล่าวยังไม่สามารถเคลียร์ประเด็นที่ติดค้างกันได้ จึงให้ กทม. และ กระทรวงคมนาคมไปเคลียร์กันเองต่อ

“จะเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบได้เมื่อไหร่ ยังไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าแต่ละหน่วยงานสงสัยอะไรกันอยู่ และจะเสนอ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบต่อไป”

ปล่อย BTSC ฟ้องทวงหนี้ 3 หมื่นล้าน

นายวิษณุกล่าวอีกว่า ขณะที่การทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถและค่าจัดซื้อระบบการเดินรถของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย รวม 30,000 ล้านบาท ของ BTSC กับ บจ.กรุงเทพธนาคม ก็ได้สอบถามในที่ประชุมไปว่า กรณีที่เกิดขึ้นถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทาง BTSC จะฟ้องใคร ทาง BTSC ก็ตอบว่าจะฟ้องทางกรุงเทพธนาคม ก็ว่ากันไปสำหรับประเด็นนี้

ปัดข่าวนายกฯ ชง ป.ป.ช.ทำความเห็นเพิ่ม

ส่วนมีกระแสข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรี ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกรณีสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ก็ไม่เป็นความจริง นายกรัฐมนตรีไม่เคยขอความเห็นกับ ป.ป.ช.ในประเด็นนี้

“คมนาคม” ขวาง เพราะ กทม.แจงไม่เคลียร์

ด้าน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” สั้น ๆ ว่า เป็นตัวแทนของกระทรวงคมนาคมเข้าไปหารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในประเด็นสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวจริง

โดยทาง กทม. ยังไม่สามารถให้คำตอบใน 8-9 ประเด็นที่กระทรวงสงสัยได้ ซึ่งตอนนี้ กทม.ตอบกลับมาเพียงประเด็นเดียวเท่านั้น มีการส่งเพียงเอกสารร่างสัญญาเข้ามาให้เท่านั้น ส่วนประเด็นอื่น ๆ ไม่มีการตอบกลับเข้ามา และขอไม่เปิดเผยว่า ประเด็นที่ยังติดค้างอยู่มีอะไรบ้าง

กทม.โต้ข้อมูลที่อยากได้ต้องขอ BTSC

ด้านแหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวยังติดขัดที่กระทรวงคมนาคมที่เดียว โดยอ้างว่า กทม. ไม่ส่งข้อมูลให้ ซึ่งข้อมูลที่กระทรวงขอมาเป็นข้อมูลของ BTSC

สำหรับข้อมูลที่กระทรวงคมนาคมขอมา มีประมาณการผู้โดยสารและคาดการณ์รายได้ของโครงการ ซึ่งในที่ประชุม BTSC ยินดีที่จะให้ข้อมูล ขอเพียงให้กระทรวงคมนาคมทำหนังสือแจ้งเข้ามา  แต่กระทรวงคมนาคมก็ไม่ยอม จะถามผ่าน กทม.อย่างเดียว

“ซึ่ง กทม. รับปากว่า จะทำหนังสือขอข้อมูลกับทาง BTSC ให้ แต่ BTSC จะให้ข้อมูลหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ BTSC“

ยันมีอำนาจบริหารรถไฟฟ้านอกเขต กทม.

ประเด็นต่อมาที่กระทรวงคมนาคมสอบถามคือ กทม. มีอำนาจดำเนินการในสัมปทานสายสีเขียวนอกเขตกรุงเทพฯ ใช่หรือไม่ กทม.ยืนยันว่ามีอำนาจดำเนินการบริหารนอกเขตกรุงเทพฯ

“ถ้าไม่อำนาจ ครม. จะทำเรื่องโอนให้ กทม. รับผิดชอบส่วนต่อขยายได้อย่างไร ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมตีรวน เพราะเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาตามมติ ครม.ไปนานแล้ว”

BTSC แจงยังไม่เลิกวิ่งสายสีเขียวต่อขยาย

ส่วนหนี้เดินรถที่ติดค้างกับ BTSC กว่า 30,000 ล้านบาท จะครบกำหนดจ่ายวันที่ 1 เม.ย.นี้ แหล่งข่าวจากกทม. ตอบว่า BTSC รายงานในที่ประชุมว่า จะทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ส่วนกระแสข่าวหยุดเดินรถ ทาง BTSC ตอบว่า เป็นทางเลือกสุดท้ายกรณีไม่มีทางเลือกจริง ๆ

รับไม่มีแผนหาเงินจ่าย

ส่วน กทม.เอง ตอนนี้ยังไม่มีแผนสำรองว่าจะนำเงินส่วนใดมาจ่ายหนี้ ก็คงปล่อยให้ BTSC ฟ้องไป แต่จะเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต – คูคต และแบริ่ง – เคหะสมุทรปราการ เลยหรือไม่ เพื่อนำรายได้มาจุนเจือไปก่อนนั้น ต้องคุยกัน เพราะประเด็นค่าโดยสารสูงสุดก็ยังสรุปกันไม่ได้ กระทรวงคมนาคมยืนกรานค้านค่าโดยสารสูงสุดที่ 65 บาท ครั้นจะกลับไปประกาศใช้อัตราค่าโดยสารสูงสุด 104 บาทก็ไม่ได้แล้ว

ส่วนที่กระทรวงคมนาคมเสนอเก็บค่าโดยสารสูงสุดที่ 50 บาท เป็นการคำนวณจากประมาณการผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะมีประชาชนใช้งาน 1 ล้านคนเที่ยว/วัน ซึ่งอยู่ในแผนแม่บทเก่า เพราะจริง ๆ ตัวเลขผู้โดยสารสูงสุดของสายสีเขียวอยู่ที่ 700,000 คนเที่ยว/วันเท่านั้น

“ท่านวิษณุยังไม่ได้บอกว่าจะเสนอ ครม. ได้เมื่อไหร่ แต่บอกว่า ให้กระทรวงคมนาคมเร่งทำหนังสือขอข้อมูลกับ BTSC และ กทม.ก็ขอให้เร่งส่งข้อมูลให้โดยเร็ว เพื่อที่จะได้ไม่มีคดีความกับ BTSC” แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ได้เฮ! ต่อขยายคูคต-ปากน้ำยังไม่เก็บตังค์

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ส่วนการเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต – คูคต และช่วงแบริ่ง – เคหะสมุทรปราการ ยังไม่มีแนวคิดจะเก็บค่าโดยสารในขณะนี้ ส่วนตัวหนี้เดินรถ 30,000 ล้านบาทในงบประมาณปี 2565 ก็ไม่ได้เตรียมไว้ มีเพียงการจ่ายดอกเบี้ยให้กับกระทรวงการคลังปีละ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นดอกเบี้ยจากส่วนต่างจากค่าโดยสารสายหลักและส่วนต่อขยาย

ทุกหน่วยเห็นชอบหมดเว้น “คมนาคม”

“วันนี้ทุกหน่วยยืนยันแล้วว่า ไม่มีปัญหาเว้นกระทรวงคมนาคมเพียงหน่วยเดียว แม้แต่คดีที่ค้างอยู่กับ ป.ป.ช. ทาง ป.ป.ช. เองก็ยืนยันในที่ประชุมแล้วว่า ไม่ได้เกี่ยวกัน คนผิดก็ไปว่ากัน ไม่เกี่ยวกับส่วนที่กำลังผลักดันกัน จึงไม่กระทบกับส่วนนี้” แหล่งข่าวกล่าวทิ้งท้าย