GAC AION ขยายฐาน EV สู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยอดขายทะลุ 1 ล้านคัน

GAC AION ขยายฐาน EV สู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยอดขายทะลุ 1 ล้านคัน

GAC AION ขยายฐาน EV สู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมฉลองยอดขายทะลุ 1 ล้านคันเร็วที่สุดในโลก

GAC AION  ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน  พึ่งฉลองสถิติยอดขาย 1,000,000 คัน (ภายในเวลา 4 ปี 8เดือน) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และขณะเดียวกัน ยังทำสถิติยอดจองสูงถึง 4,568 คัน ใน Thailand International Motor Expo 2023 เป็นอันดับ 2 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าและเป็นอันดับ 4 ของงาน ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับของผู้บริโภคต่อแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus

การเติบโตอย่างรวดเร็วและยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ AION คือผลลัพธ์ที่ GAC AION คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยทั่วโลก โดยเฉพาะ Magazine Battery และแพลตฟอร์ม AEP  รวมถึงการควบคุมต้นทุนการค้า  ระบบซัพพลายเชนและความสามารถรอบด้าน ด้วยโรงงานเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลกกับวิธีการผลิตของ GAC AION ที่นำมาซึ่งคุณภาพและประสิทธิภาพในระดับสูง

โรงงาน GAC AION ในประเทศไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกอาเซียน

การลงทุนสร้างโรงงานที่ประเทศไทย ก็เพื่อตอกย้ำความมีศักยภาพ โอกาสการเติบโตของตลาดในประเทศไทยและตลาดอาเซียน  ทำให้ GAC AION ในเครือบริษัท กว่างโจว ออโตโมบิล กรุ๊ป หรือ จีเอซี (Guangzhou Automobile Group หรือ GAC) ได้ลงทุน จำนวน 2,300 ล้านบาท ตั้งโรงงานในประเทศไทยในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดระยอง เพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ

โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า GAC AION ในไทย จะมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการควบคุมผลิต โดยแบ่งโครงการเป็น 2 เฟส เฟสแรก คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนก.ค.2567  โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2 หมื่นคัน ขณะที่เฟสสอง จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 50,000 คันต่อปี     

นอกจากนี้ ทาง GAC AION ยังวางแผนที่จะก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อศึกษาความต้องการการใช้รถยนต์ของคนไทยและในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อนำไปพัฒนาในโมเดลรุ่นต่อๆไปเพื่อตอบโจทย์ในการใช้งานมากขึ้น

ในปี 2568  GAC  AION วางแผนที่จะเข้าลงทุนในประเทศ พม่า ลาว มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ โดยจะเปิดตัวรถยนต์ในไตรมาสแรกอีกด้วย

ทั้งนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน  ASEAN-6 ( อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก รายงานผลการการศึกษาของ EY-Parthenon พบว่า ปริมาณการขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 6 ประเทศอาจสูงถึง 8.5 ล้านคันในปี 2578 โดยคาดว่าประเทศไทยจะมีปริมาณการขายมากเป็นอันดับ 2 จากประมาณการยอดขายต่อปีที่ 2.5  ล้านคัน คิดเป็นมูลค่าการขายราว 35,000-42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2578 โดยตามหลังอินโดนีเซีย ซึ่งอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้า 50% ในประเทศขับเคลื่อนโดยรถไฟฟ้าสองล้อเป็นหลัก (ปริมาณการขายโดยประมาณ 4.5 ล้านคัน และมูลค่าการขาย 26,000-30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

รู้จัก GAC Group

Guangzhou Automobile Group หรือ GAC (จีเอซี) เป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทยานยนต์แบบครบวงจร ภายใต้ GAC Group มีแบรนด์รถยนต์ เช่น GAC AION, GAC Trumpchi, GAC Toyota, GAC Honda นอกจากนี้ในเครือยังมีธุรกิจ R&D โรงงานผลิตและขายยานยนต์แบบครบวงจร ในปี 2022 GAC GROUP มีพนักงานมากกว่า 120,000 คน ทั้งซัพพลายเชนมากกว่า 800,000 คน การผลิตและการขายมากกว่า 2.4 ล้านคัน โดยมีรายได้มากกว่า 2.5 ล้านล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 165 ในกลุ่ม Fortune Global 500 (เป็นการจัดอันดับบริษัทชั้นนำระดับโลกของนิตยสาร Fortune)

สำหรับ AION (ไอออน) เป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่อยู่ในเครือ GAC โดย AION ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 มุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 100% มีพนักงานมากกว่า 7,000 คน และมีอัตราการเติบโต 120% ทุกปี ในปี 2023 ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้ประมาณ 600,000 คัน ซึ่งติด 1 ใน 3 อันดับแรกของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของโลก ปัจจุบัน AION มีรถยนต์ไฟฟ้า 2 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ AION ซึ่งเน้นรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่ายและมีคุณภาพ และแบรนด์ Hyper ซึ่งเน้นดีไซน์และความหรูหรา โดยทั้ง 2 แบรนด์ครอบคลุมทุกช่วงราคา ตั้งแต่หลักแสน ถึงหลักล้าน

ผู้นำในด้านแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

GAC AION  ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกโรงงานพลังงานบริสุทธิ์แห่งแรกในประเทศจีน และเป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการผลิตรถยนต์ด้วยเทคโนโลยี AI, คุณภาพการผลิต, ขั้นตอนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยข้อได้เปรียบ 4 ประการของ GAC AION คือ การผลิตชิ้นส่วนเหล็กและอลูมิเนียมที่มีความยืดหยุ่นสูง การวางแผนแบบดิจิทัล การกำหนดค่าแบบโต้ตอบ และการใช้พลังงานอย่างครบวงจร จนได้เป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ในด้านแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม 

GAC AION  ได้สร้างโรงงานสีเขียวปลอดคาร์บอนที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนจนเหลือศูนย์ และได้สร้าง “Dark Factory” ซึ่งเป็นโรงงานผลิตที่ใช้พลังงานน้อยและจัดสรรกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเทคโนโลยีกว่า 100,000 แบบ รวมถึงนวัตกรรมผสมสีรถยนต์ถึง 25 รูปแบบนำมาประยุกต์ใช้ในโรงงาน  โดยสายผลิตแบบอัตโนมัติ สามารถผลิตรถยนต์ 1 คันได้ทุกๆ 53 วินาที ทำให้บรรลุเป้าหมายในด้านการวิจัย-การผลิต-การจัดส่ง และการขาย เพื่อการจัดสรรทรัพยากรที่คุ้มค่าที่สุดและเกิดการบกพร่องให้น้อยที่สุด

โรงงานเชิงนิเวศของ GAC AION เป็นโรงงาน ที่ได้รับรางวัลโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า 100% ระดับโลกเพียงหนึ่งเดียวในโลก โดยได้รับคัดเลือกจากเวที World Economic Forum และ McKinsey Consulting กลายเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและเป็นเทรนด์แห่งอนาคต

ในส่วนของบทสรุป จะเห็นได้ว่า GAC AION มีความพร้อมเป็นอย่างมากในการทำตลาดในประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาด และรับฟังความคิดเห็นของผู้บริโภคชาวไทยอย่างใกล้ชิด รวมถึงความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง เราจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นจะต้องมีการปรับตัว วางระบบ และแผนงานที่ดี ทั้งในองค์กรด้านการผลิตสินค้า และด้านการวางกลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการผู้บริโภค แผนกระตุ้นการขายที่สามารถทำให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ในราคาที่สมเหตุสมผล มีกำกับดูแล และประสานงานทั้งส่วนภาครัฐและภาคเอกชน 

ส่วนอนาคตอันใกล้นั้น GAC AION อาจเป็นบริษัทที่ได้เปรียบในสถานการณ์ความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดและพุ่งอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับความสามารถของแผนงานและทีมที่เป็นระบบจะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่และภาพลักษณ์ที่มีความน่าเชื่อถือในอุตสาหากรรมซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาคือบทพิสูจน์ถึงความเตรียมพร้อม และความแน่วแน่ในการบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของ GAC AION