ประวัติ แอนน์ เฮช (Anne Heche) ชีวิตเคล้าน้ำตา สู่ดาราเจ้าบทบาท

ประวัติ แอนน์ เฮช (Anne Heche) ชีวิตเคล้าน้ำตา สู่ดาราเจ้าบทบาท
FILE – Anne Heche arrives at the premiere of “The Tender Bar” on Dec. 12, 2021 (Photo by Jordan Strauss/Invision/AP, File)

เปิดประวัติ “แอนน์ เฮช”  เด็กสาวผู้เติบโตจากความยากลำบาก การคุกคามทางเพศ สู่ดาราเจ้าบาทบาทแห่งยุค 90-2000s

วันที่ 13 สิงหาคม 2565 เดอะการ์เดียน รายงานว่า “แอนน์ เฮช” (Anne Heche) นักแสดงหญิงชาวอเมริกัน เสียชีวิตลงในวัย 53 ปี หลังประสบอุบัติเหตุรถยนต์

“แอนน์ เฮช” เป็นดาราเจ้าบทบาทที่ฝากผลงานไว้จำนวนมากตั้งแต่ช่วงปี 1990- ปัจจุบัน ซึ่งการก้าวสู่วงการของเธอนั้นนับว่าไม่ง่ายเลย

“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมประวัติของเธอไว้ที่นี่

ประวัติ “แอนน์ เฮช”

แอนน์ เฮช เกิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2512 ในเมืองออโรรา รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เธอเป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนลูกห้าคนของ “แนนซี่ เฮช” และ “โดนัลด์ โจเซฟ เฮช”

ในช่วงวัยเด็ก ครอบครัวของเธอต้องย้ายบ้านบ่อยครั้ง จนในที่สุดก็ตั้งรกรากในเมืองโอเชียนซิตี้ รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมื่อเธออายุ 12 ปี

ฐานะทางการเงินของครอบครัวไม่ค่อยดีนัก แอนน์ในวัยเด็กจึงต้องไปทำงานที่โรงละคร และร้านอาหาร เพื่อช่วยครอบครัวเก็บเงิน

การคุกคามทางเพศ

ในปี 2526 พ่อของเธอเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ แอนน์เคยให้สัมภาษณ์เรื่องการเสียชีวิตของพ่อว่า เขาติดโรคนี้มาจากคู่รักเพศเดียวกัน เธอยังอ้างด้วยว่าถูกพ่อข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อตอนยังเป็นเด็ก ทำให้เธอเป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศขณะอายุยังน้อย แต่สมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ออกมาโต้แย้งข้ออ้างนี้

3 เดือนหลังจากพ่อเสียชีวิต “เนธาน เฮช” พี่ชายวัย 18 ของเธอก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งพี่สาวของเธออ้างว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ครอบครัวที่เหลือจึงย้ายไปชิคาโก

ในปี 2528 “แอนน์” ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Francis W. Parker ที่ชิคาโก ขณะอายุ 16 ปี เอเจนซีได้เห็นเธอเล่นละครเวทีจึงได้ชักชวนให้เข้าออดิชั่นละครโทรทัศน์เรื่อง As the World Turns และได้รับเสนองาน แต่แม่ของเธออยากเธอเรียนจบมัธยมปลายก่อน

ก่อนที่เธอจะสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายในปี 2530 แอนน์ก็ได้รับข้อเสนออีกครั้ง ให้เล่นละครโทรทัศน์เรื่อง Another World แน่นอนว่าแม่ของเธอไม่อยากให้ไป

จุดเริ่มต้นชีวิตนักแสดง

แต่เธอตัดสินใจว่าเวลาที่เธอจะอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นต์กับแม่นั้นจบแล้ว เธอจึงเดินทางไปที่นครนิวยอร์กเพื่อรับข้อเสนอนั้น และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตนักแสดงของเธอ

จากการรับบทบาท “วิกกี้ ฮูดสัน” “วิกตอเรีย ฮูดสัน” และ “เมอร์ลี่ เลิฟ” ในทีวีซีรี่ย์เรื่อง Another world นี้เองที่แอนน์ได้รับรางวัล Daytime Emmy Award for Outstanding Younger Actress in a Drama Series ในปี 2534

ตลอดทศวรรษที่ 1990 แอนน์ เฮช มีผลงานประดับวงการบันเทิงจำนวนมาก ทั้งภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ เช่น O Pioneers!, Girls in Prison, Kingfish: A Story of Huey P. Long, Wild Side รวมถึงภาพยนตร์นอกกระแสอย่าง Walking and Talking

ช่วงรุ่งเรืองของอาชีพนักแสดง คือ ช่วงครึ่งหลังของทศวรรษที่ 1990 แอนน์ได้รับบทในหนังทำเงินหลายเรื่อง เช่น Volcano, I Know What You Did Last Summer และ Wag the Dog

ความรักของแอนน์

ในช่วงปี 2540 แอนน์เริ่มมีความสัมพันธ์กับนักแสดงซิทคอมและพิธีกรรายการทอล์กโชว์ชื่อดัง “เอลเลน ดีเจนเนอริส” ไม่นานหลังจากที่เอลเลนเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ ทั้งคู่คบหากันนาน 3 ปี

นอกจากนี้ยังได้ประกบคู่กับนักแสดงขวัญใจมหาชนอย่าง “จอนนี่ เดปป์” ในภาพยนตร์ Gangster ชื่อดังอย่าง Donnie Brasco ต่อเนื่องกับนักแสดงรุ่นใหญ่ “แฮริสัน ฟอร์ด” ในหนังผจญภัยโรแมนติกเรื่อง  Six Days, Seven Nights

ในปี 2544 แอนน์ ได้แต่งงานกับ “โคลแมน ลาฟฟูน” มีลูกสามคน แต่หย่าร้างกับสามีในปี 2552

เสียสติ

ปี 2543 มีรายงานหลายฉบับระบุว่า แอนน์ขับรถไปยังทะเลทราย และเดินไปที่ไร่ของคนแปลกหน้า เพื่อขออาบน้ำและนั่งลงในห้องนั่งเล่นเพื่อดูหนัง

เจ้าของบ้านเรียกนายอำเภอในท้องที่ เพราะไม่มีวี่แววว่าเธอจะออกไปจากบ้าน นักแสดงหญิงรายนี้ยังเคยเข้ารับการรักษาในแผนกจิตเวชเป็นระยะเวลาสั้น ๆ และเคยยอมรับว่าตัวเอง “เสียสติ” ในช่วง 31 ปีแรกของชีวิต เนื่องจากถูกพ่อทารุณกรรม

ตลอดอาชีพของเธอ ได้ขึ้นปกนิตยสารหลายฉบับ เช่น Entertainment Weekly, Mirabella และ Observer Magazine ซึ่ง “แอนน์ เฮช” ได้รับเลือกจากนิตยสาร People ให้เป็นหนึ่งใน 50 บุคคลที่สวยที่สุดในโลกในปี 2541

กล่าวได้ว่า “แอนน์ แฮช” สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องมาตลอดสามทศวรรษ จากชีวิตวัยเด็กที่ลำบากและเป็นทุกข์จากการถูกคุกคามทางเพศจากคนในครอบครัว สู่การเป็นนักแสดงมากฝีมือที่รับบทบาทหลากหลายทั้งแนวดราม่า ระทึกขวัญ สืบสวนสอบสวน ตลอดจนแนวโรแมนติกคอมเมดี้