เปิดประวัติช่อง 7 สี (ช่อง 7HD) สถานีโทรทัศน์สีแห่งแรกของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ออกอากาศมายาวนานถึง 57 ปี ตั้งแต่ยุคแอนะล็อกจนถึงยุคดิจิทัล
โทรทัศน์ หนึ่งในสื่อที่อยู่คู่กับคนไทยทุกยุค ทุกพื้นที่ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 และผ่านการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีมาแล้วมากมาย แต่หากพูดถึงสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศด้วยระบบภาพสีเป็นแห่งแรกของประเทศไทย จะเป็นสถานีโทรทัศน์ไหนไปไม่ได้ นอกจาก “ช่อง 7 สี” หรือ “ช่อง 7HD” ในปัจจุบัน ซึ่งออกอากาศมาแล้วถึง 57 ปี ในวันนี้ (27 พฤศจิกายน 2567) พร้อมกับสโลแกนที่คุ้นหูคุ้นตามานานอย่าง “ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ”
“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนย้อนประวัติศาสตร์ของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ไปด้วยกัน
จุดเริ่มต้น “ช่อง 7 สี”
ช่อง 7 สี ดำเนินการโดยบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (BBTV) ได้รับสัมปทานออกอากาศโทรทัศน์จากกองทัพบก ออกอากาศในมาตรฐาน CCIR 625 เส้น ระบบ PAL เริ่มแพร่ภาพครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2510 โดยนำเทปบันทึกภาพการประกวดนางสาวไทย ในงานวชิราวุธานุสรณ์ จากบริเวณวังสราญรมย์ มาออกอากาศ ก่อนจะยุติออกอากาศชั่วคราว เพื่อปรับปรุงทางเทคนิค และออกอากาศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ 1 ธันวาคมในปีเดียวกัน มาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาในปี 2516 ช่อง 7 ได้เริ่มจัดตั้งสถานีถ่ายทอดสัญญาณในต่างจังหวัด และริเริ่มการออกอากาศ โดยถ่ายทอดสัญญาณผ่านดาวเทียมจากกรุงเทพมหานครไปสู่สถานีเครือข่ายในทุกภูมิภาคเป็นสถานีแรกของประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2521
โดยสถานีเครือข่ายถ่ายทอดสัญญาณ รวม 37 สถานี แพร่ภาพครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและบริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ดังนี้
- กรุงเทพมหานคร 1 สถานี
- ภาคตะวันออก 4 สถานี
- ภาคตะวันตก 3 สถานี
- ภาคเหนือ 10 สถานี
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 สถานี
- ภาคใต้ 10 สถานี
นอกจากนี้ ช่อง 7 ยังเป็นผู้ริเริ่มการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการออกอากาศ ทั้งดาวเทียมนานาชาติ (International Satellite) หรือ INTELSAT ในการถ่ายทอดเหตุการณ์จากทั่วทุกมุมโลกมายังประเทศไทย จนถึงการนำรถถ่ายทอดสัญญาณดาวเทียมใช้ย่านความถี่สูง (Ku-Band) และรถถ่ายทอดนอกสถานที่ (Outside-Broadcasting Vans) หรือ OB ใช้ย่านความถี่ C-Band เพื่อทำหน้าที่เป็นสถานีแม่ข่ายชั่วคราว ถ่ายทอดงานประเพณี กีฬา และเหตุการณ์สำคัญตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
และเมื่อปี 2556 ช่อง 7 สี ได้เข้าร่วมการประมูลใบอนุญาตโทรทัศน์ระบบดิจิทัล และเป็นผู้ได้รับใบอนุญาต ประเภทบริการทางธุรกิจ หมวดหมู่ทั่วไป ความคมชัดสูง (High Definition-HD) ด้วยมูลค่า 3,370 ล้านบาท โดยออกอากาศผ่านระบบดิจิทัลอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ 25 เมษายน 2557 ในชื่อ “ช่อง 7HD” และนำเสนอเนื้อหารายการ คู่ขนานกับช่อง 7 สี ในระบบแอนะล็อก ก่อนยุติการออกอากาศในระบบเดิมโดยสมบูรณ์ เมื่อปี 2561 และออกอากาศผ่านระบบดิจิทัลเพียงระบบเดียว
หลากรายการ สร้างชื่อ “ช่อง 7”
ตลอด 57 ปีที่ผ่านมา ช่อง 7 สี หรือช่อง 7HD มีรายการที่สร้างชื่อ และเป็นที่รู้จักมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งละคร ข่าว กีฬา และรายการวาไรตี้
ละครโทรทัศน์ ประเภทรายการที่ทั้งสร้างชื่อ และได้รับการตอบรับจากผู้ชมมาอย่างต่อเนื่อง จากหลากหลายผู้ผลิตละคร ทั้งละครหลังข่าว และละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ช่วงเช้าวันสุดสัปดาห์ เช่น คู่กรรม, ดาวพระศุกร์, คมแฝก, นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว, สิงหไกรภพ, เกราะเพชรเจ็ดสี, ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง หรือซีรีส์ต่างประเทศ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อย่าง Full House
ขณะที่รายการข่าว มีความเข้มข้นในการนำเสนอ ทั้งข่าวประจำวัน เช้า-เที่ยง-ค่ำ และรายการข่าวรูปแบบต่าง ๆ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี เช่น เช้านี้ที่หมอชิต, สนามข่าว 7 สี, ประเด็นเด็ด 7 สี จนถึงคอลัมน์ข่าว เช่น สะเก็ดข่าว, คอลัมน์หมายเลข 7
รวมถึงเทคโนโลยีในการนำเสนอข่าวที่ทันสมัย โดยเฉพาะการพัฒนาสตูดิโอข่าว ที่เพิ่มจอ Video Wall ความชัด 4K ยาว 22 เมตร พร้อมเทคโนโลยีใหม่ เพิ่มประสบการณ์การรับชมข่าวแบบเสมือนจริง
ส่วนรายการวาไรตี้ รายการที่เป็นที่รู้จัก เช่น นาทีทอง, ประตูดวง, จ้อจี้, คดีเด็ด, ปลดหนี้ จนถึง “7 สีคอนเสิร์ต” รายการฟรีคอนเสิร์ต รายการแรก ๆ ของเมืองไทย และยืนระยะมาอย่างยาวนาน “Big Cinema” รายการที่หยิบหนังเด็ด หนังดัง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาให้ชมฟรีทางทีวี และ “ดิสนีย์คลับ” รายการการ์ตูนจากดิสนีย์
อีกหนึ่งประเภทรายการที่ขึ้นชื่อมาตลอด คือ รายการกีฬา การถ่ายทอดสดกีฬาต่าง ๆ ซึ่งช่อง 7 ได้รับความไว้ใจให้ถ่ายทอดสดมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล, มวย, กอล์ฟ, วอลเลย์บอล รวมถึงรายการกีฬาของช่อง 7 เอง ทั้งแชมป์กีฬา 7 สี, มวยไทย 7 สี, สปอร์ตแฟน
เรื่องราว 5 ทศวรรษ ผ่าน “พิพิธโทรทัศน์”
ตลอดกว่า 5 ทศวรรษที่ช่อง 7 ทำหน้าที่รับใช้สังคมมาอย่างต่อเนื่อง ต่างมีเรื่องราวให้ได้เรียนรู้และศึกษามากมาย โดยเฉพาะอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ในฐานะที่ช่อง 7 เป็นสถานีโทรทัศน์สีแห่งแรกของไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลายเป็นที่มาของ “พิพิธโทรทัศน์ 7HD Museum”
โดยเมื่อพฤศจิกายน 2566 บจก.กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ และสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU กับช่อง 7HD เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนพัฒนาพิพิธโทรทัศน์ 7HD Museum
พิพิธโทรทัศน์ 7HD Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมาของช่อง 7HD ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของสถานีโทรทัศน์สีแห่งแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เทคโนโลยี อุปกรณ์สำหรับการทำงาน การออกอากาศ และจดหมายเหตุ เทป และไฟล์ภาพต่าง ๆ ที่มีคุณค่าเพื่อการศึกษา
นอกจากนี้ ยังมีการจำลองห้องส่ง หรือห้อง MCR (Master Control Room) การตัดต่อเทปฟิล์ม และมีการรวบรวมจดหมายเหตุ ทั้งบทละคร บทข่าว เพื่อศึกษารูปแบบการเขียนบทในอดีต
ต่อยอดหน้าจอทีวี สู่ออนไลน์
นอกจากโทรทัศน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่อยู่กับช่อง 7 มาอย่างยาวนาน ยังมีช่องทางออนไลน์ ทั้งโซเชียลมีเดียของช่อง 7HD และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง “Bugaboo.tv” และ “Bugaboo Inter” ที่รวมรายการและละครต่าง ๆ ของช่อง 7 ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
รวมถึงการต่อยอดคลังภาพข่าว ที่ช่อง 7 สะสมมากว่า 5 ทศวรรษ เป็นแพลตฟอร์มการจำหน่ายภาพข่าว “7HDSTOCK” โดยมีทั้งภาพบรรยากาศต่าง ๆ ในอดีต ซึ่งแปลงภาพจากระบบฟิล์ม จนถึงภาพสต๊อก บรรยากาศ ธรรมชาติ สถานที่ต่าง ๆ ให้บริการทั้งภาครัฐ องค์กร ธุรกิจ โปรดักชั่นเฮาส์ และสำนักข่าวต่าง ๆ
ส่วนธุรกิจอื่น ๆ นอกจากสื่อทีวีและสื่อออนไลน์ ช่อง 7HD ยังมีสถานีวิทยุในเครือ คือ Goodtime Radio ออกอากาศในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร (FM 88.5) เชียงใหม่ (FM 88) สงขลา (FM 94.5) และอุบลราชธานี (FM 104)
เปิดรายได้ BBTV
สำหรับช่อง 7HD หรือ BBTV มี 2 บริษัทหลัก คือ บจก.กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ ดำเนินธุรกิจโทรทัศน์ และ บจก.บีบีทีวี นิว มีเดีย ดำเนินธุรกิจดูแลช่องทางนิวมีเดียของช่อง 7
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2510 ทุนจดทะเบียน 61 ล้านบาท ประกอบธุรกิจการจัดผังรายการและการออกอากาศทางโทรทัศน์โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก (ยกเว้นทางออนไลน์) โดยรายได้ 5 ปีล่าสุด เป็นดังนี้
ปี 2562
- รายได้รวม 4,832,284,761.14 บาท
- รายจ่ายรวม 3,195,392,252.17 บาท
- กำไรสุทธิ 1,400,004,927.08 บาท
ปี 2563
- รายได้รวม 4,168,966,230.58 บาท
- รายจ่ายรวม 3,002,928,714.36 บาท
- กำไรสุทธิ 972,593,608.75 บาท
ปี 2564
- รายได้รวม 5,016,430,766.73 บาท
- รายจ่ายรวม 2,847,381,313.77 บาท
- กำไรสุทธิ 1,964,513,255.68 บาท
ปี 2565
- รายได้รวม 4,017,616,960.18 บาท
- รายจ่ายรวม 2,543,247,460.78 บาท
- กำไรสุทธิ 1,250,464,816.38 บาท
ปี 2566
- รายได้รวม 3,284,387,110.86 บาท
- รายจ่ายรวม 2,431,497,465.14 บาท
- กำไรสุทธิ 732,804,479.43 บาท
ขณะที่บริษัท บีบีทีวี นิว มีเดีย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2550 ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ประกอบธุรกิจกิจกรรมการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านคอมพิวเตอร์ โดยรายได้ 5 ปีล่าสุด เป็นดังนี้
ปี 2562
- รายได้รวม 170,509,879.46 บาท
- รายจ่ายรวม 164,113,107.87 บาท
- กำไรสุทธิ 6,396,771.59 บาท
ปี 2563
- รายได้รวม 214,286,455.47 บาท
- รายจ่ายรวม 209,725,817.21 บาท
- กำไรสุทธิ 2,915,083.72 บาท
ปี 2564
- รายได้รวม 240,559,652.23 บาท
- รายจ่ายรวม 245,516,362.99 บาท
- ขาดทุนสุทธิ 4,956,710.76 บาท
ปี 2565
- รายได้รวม 277,518,697.96 บาท
- รายจ่ายรวม 251,596,430.18 บาท
- กำไรสุทธิ 20,671,323.88 บาท
ปี 2566
- รายได้รวม 230,652,092.31 บาท
- รายจ่ายรวม 224,068,069.18 บาท
- กำไรสุทธิ 3,988,781.21 บาท
ข้อมูลจาก ช่อง 7HD, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า