ลิเวอร์พูล ทำสถิติ เสียถึง 5 ประตู ในเกมยุโรป ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กับเกม เรอัล มาดริด เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นเกมที่ไม่น่าจดจำเท่าไรสำหรับสาวก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์ยุโรป 6 สมัย ภายใต้การคุมทัพของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เปิดบ้านแพ้ยับเยินต่อ เรอัล มาดริด แชมป์เก่า ไปด้วยสกอร์ 5-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2022-2023 รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก ทั้งที่ออกนำก่อน 2-0 แต่โดนความเขี้ยวของ “ราชันชุดขาว” ยิงแซงคืนมาได้ 5 ประตู
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 2-0 จาก ดาร์วิน นูนเญช นาทีที่ 4 และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 14 แต่ว่า เรอัล มาดริด กดคืน 5 ประตูจาก วินิซิอุส จูเนียร์ นาทีที่ 21 และนาทีที่ 36, เอแดร์ มิลิเตา นาทีที่ 47, คาริม เบนเซม่า นาทีที่ 55 และนาทีที่ 67 แซงชนะไป 5-2 โอกาสในการเข้ารอบ 8 ทีมมีโอกาสสูงมาก แต่ลิเวอร์พูลก็ยังมีโอกาสถ้าสามารถบุกชนะ เรอัล มาดริดถึงถิ่น ซานติอาโก เบอร์นาเบวคืนได้ 4-0
นอกจากนี้ ลิเวอร์พูลยังทำสถิติเสียถึง 5 ประตู ในเกมยุโรป เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่ขึ้นนำ 2-0 แต่กลับมาแพ้หลังจบเกมด้วยสกอกร์ 3 ประตูขึ้นไป ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาชนะ เรอัล มาดริดได้ ต้องย้อนไปถึงปี 2009 เลยทีเดียว