ธุรกิจท่องเที่ยวปรับแผนทั้งประเทศรับจีน โรงแรมฟื้น-แอร์ไลน์เพิ่มไฟลต์

นักท่องเที่ยวจีน
AFP

ธุรกิจท่องเที่ยวรับข่าวดีจีนเปิดประเทศ 8 ม.ค. 66 เร็วกว่าคาด ดันตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคน ผู้ว่าฯ ททท.ชี้ปัจจัยบวกอุตฯท่องเที่ยวไทยและทั่วโลก นัดประชุมด่วนเอกชน-สธ. วางมาตรการตั้งรับ เผยต้องทำใจช่วงแรกตั๋วบินราคาพุ่งกระฉูด คาดทยอยเข้ามาช่วงตรุษจีน “แอร์เอเชีย” เตรียมฝูงบิน 10 ลำ รับนักท่องเที่ยวจีน สมาคมโรงแรมชี้ “จีน” ตัวแปรสำคัญหนุนผู้ประกอบการฟื้นทุกระดับ กลุ่มดุสิตธานีปลุกความร่วมมือรัฐ-เอกชน อสังหาฯลุ้นกลางปีกำลังซื้อลูกค้าจีนไหลกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 ธันวาคม 2565 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป จากเดิมที่ต้องมีการกักตัว 8 วัน (5 วันที่โรงแรม และ 3 วันที่บ้าน) มาใช้วิธีตรวจ PCR ที่เป็นลบภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ก่อนขึ้นเครื่อง ทั้งระบุว่าจะฟื้นการท่องเที่ยวออกนอกประเทศให้พลเรือนจีน ตามระเบียบกฎเกณฑ์ต่อไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิดโดยรวมของโลก และศักยภาพการบริการหลาย ๆ ด้าน

ปัจจัยบวกไทยและทั่วโลก

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนการเปิดประเทศของรัฐบาลจีนที่ประกาศออกมานั้นถือว่าเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ และถือว่าเป็นการผ่อนคลายมาตรการระดับประเทศเป็นครั้งแรก หลังจากที่ใช้มาตรการคุมเข้ม หรือ Zero COVID มานานเกือบ 3 ปีเต็ม

ทั้งนี้ เดิม ททท.คาดการณ์ว่า จีนน่าจะมีนโยบายเปิดประเทศที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 1 และจะเห็นภาพการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงต้นไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนตารางฤดูร้อน ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

โดยแนวทางดังกล่าวนี้นับว่าเป็นปัจจับบวกอย่างมากสำหรับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ประกอบการในฝ่ายซัพพลายไซด์ให้กลับมาทำธุรกิจกันมากขึ้น รวมทั้งน่าจะทำให้มีแรงงานท่องเที่ยวกลับเข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน

“เราประเมินว่าการผ่อนคลายมาตรการของจีนที่เร็วขึ้นนี้ จะทำให้ภาพรวมในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเติมอีกประมาณ 5 ล้านคน จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 20 ล้านคน” นายยุทธศักดิ์กล่าว

ประชุมด่วนเอกชน-สธ.

นายยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน ททท.ทั้ง 5 แห่งในจีน มอนิเตอร์สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งวางแผนทำการตลาดมาเป็นระยะ รวมถึงร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ OTA ของจีน ทำการขายล่วงหน้ารอเปิดประเทศไปบ้างแล้ว และพบว่าความต้องการเดินทางมาไทยยังมีสูง จึงเชื่อว่าทันทีที่คนจีนออกนอกประเทศได้ ไทยจะเป็นหนึ่งเดสติเนชั่นสำคัญแน่นอน

แต่ประเด็นสำคัญขณะนี้คือ ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดค่อนข้างรุนแรงในประเทศจีน จะทำให้คนไทยปลอดภัยหรือไม่ หากมีคนจีนเข้ามาท่องเที่ยว เนื่องจากหลักการเปิดประเทศของไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังต้องให้อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของคนไทย

“เราไม่กังวลเรื่องดีมานด์และเรื่องซัพพลายในการรองรับนักท่องเที่ยวจีน แต่เป็นห่วงว่าถ้าจีนเปิดประเทศแล้วทำให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้นในประเทศไทย เราจะทำอย่างไร ประเด็นนี้เราต้องเตรียมพร้อมตั้งรับ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยวและกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นหน่วยงานควบคุมโรค ในวันที่ 28 ธันวาคม 2565” นายยุทธศักดิ์กล่าว

ทำใจ “ตั๋วบินแพง” แน่นอน

ผู้ว่าการ ททท.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้เดินทางในช่วงตั้งแต่ 8 ม.ค.-31 มี.ค. 66 คงต้องทำใจรับราคาบัตรโดยสารสายการบินที่ต้องเพิ่มสูงขึ้น ตามหลักดีมานด์-ซัพพลาย เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงของตารางบินฤดูหนาว (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566) ซึ่งกำหนดออกไปแล้ว

“ทำให้ตอนนี้จะมีเพียงที่นั่งสายการบินที่ให้บริการอยู่แล้ว เมื่อจีนยกเลิกการกักตัว ที่นั่งสายการบินที่มีอยู่น่าจะขายเต็มทุกเที่ยวบิน ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินแพงขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนที่เดินทางในช่วงนี้จะเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นและมีกำลังซื้อสูง ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปยังเร็วเกินไปที่จะสรุปในเวลานี้” นายยุทธศักดิ์กล่าว

คาดจีนทยอยเข้าตั้งแต่ตรุษจีน

ขณะที่นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนการเปิดประเทศของจีนที่ออกมายังระบุเพียงว่า จีนมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังไม่ได้เปิดให้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยว ยกเว้นกลุ่มนักเรียน นักธุรกิจ กลุ่มเดินทางเพื่อเยี่ยมญาติ รวมถึงกลุ่มรักษาพยาบาล

อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวถือเป็นแนวโน้มที่ดีว่าทางการจีนจะทยอยผ่อนคลายมาตรการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งกลับสู่ภาวะปกติต่อไป

“เปิดประเทศของจีนแบบ step by step แบบนี้เป็นสิ่งที่เราอ่านเกมอยู่แล้ว ทั้งส่งสัญญาณไปยังผู้ประกอบการภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คาดหวังว่าจีนจะเปิดให้คนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยวได้ในช่วงตรุษจีน (22 มกราคม 2566)” นายธเนศวร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าจะเริ่มเห็นภาพการเดินทางออกนอกประเทศของคนจีนบางกลุ่มในช่วงตรุษจีน 2566 และชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 2 โดยคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 จะกลับมาได้ประมาณ 5-6 ล้านคน

ทั้งนี้ ในปี 2562 ก่อนการระบาดโควิด-19 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสัดส่วน 28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วนเพียง 3% จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด

แอร์เอเชียเพิ่มฝูงบิน 10 ลำ

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแอร์เอเชีย บอกว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่สายการบินต้องเอาตัวรอด และปี 2565 ถึงต้นปี 2566 จะเป็นช่วงที่ฟื้นฟูให้กลับมาอีกครั้ง และเชื่อว่าธุรกิจจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ทั้งนี้ หากตลาดจีนเปิดก็จะเป็นการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารครั้งใหญ่แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีกครั้ง

สอดคล้องกับ นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) และสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า การเปิดประเทศของจีนคือตัวเเปรสำคัญในการฟื้นตัวของภาคการบิน และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย คาดว่าภายในไตรมาส 1/66 จีนจะมีการพิจารณานโยบายจำกัดโควตาเที่ยวบินเข้าประเทศ

นายสันติสุขกล่าวว่า ปัจจุบันสายการบินไทยแอร์เอเชียทำการบินประมาณ 1,000 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ใช้เครื่องบินปฏิบัติการ 43 ลำ จากฝูงบินทั้งหมด 53 ลำ มีเครื่องบินสำรองอยู่ 10 ลำ ที่ยังไม่ได้กลับมาให้บริการ ทำให้มีเครื่องบินเพียงพอต่อการขยายเส้นทาง เพิ่มความถี่ รวมถึงพร้อมรองรับการเปิดประเทศของจีน

ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียทำการบินเส้นทางประเทศจีน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คือ เส้นทางกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-เสิ่นเจิ้น และกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-หางโจว ซึ่งเป็นเหมือนการอุ่นเครื่องของรัฐบาลจีน เพื่อศึกษาทิศทางการเปิดประเทศ

ล่าสุดแหล่งข่าวจากสายการบินไทยแอร์เอเชียกล่าวว่า การเปิดบินเส้นทางประเทศจีน จะเป็นการทยอยเปิดเส้นทางบินเดิม ที่สายการบินเคยให้บริการอยู่ก่อนหน้า ซึ่งต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการ ข้อกำหนดจากทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) อีกครั้ง

เวียตเจ็ทเพิ่มเส้นทางบินจีน

เช่นเดียวกับ นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า ปัจจัยบวกธุรกิจการบินในปี 2566 คือการเปิดประเทศของจีน ซึ่งคาดว่าการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ จะชัดเจนขึ้นในไตรมาสที่ 2/2566

ขณะที่นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากทางการจีนอนุญาตให้ทำการบินแล้ว สายการบินมีแผนทำการบินสู่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน และเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียงก่อน เนื่องจากมีการพูดคุยกับหุ้นส่วนทางธุรกิจไว้บ้างแล้ว จากนั้นจึงจะขยายเส้นทางบินไปยังเมืองอื่น ๆ ต่อไป

แนะบาลานซ์พอร์ตกระจายเสี่ยง

ด้านนายพาที สารสิน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า เมื่อจีนขยับ โลกต้องจับตามอง การประกาศผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขของจีนครั้งนี้ มีความหมายอย่างยิ่งต่อภาคการท่องเที่ยวไทย ประเด็นที่น่าติดตามคือหลังจากนี้ ผู้ประกอบการจะวางกลยุทธ์ดึงดูดหรือรับมือตลาดจีนเช่นไร

“ก่อนการระบาดของโควิด-19 สายการบินในประเทศไทยพึ่งพาตลาดการบินจีนมากเกินไป แต่ละสายการบินต่างขยายฝูงบินของตัวเองเพื่อรับนักท่องเที่ยวจีน การฟื้นตัวครั้งใหม่ผู้ประกอบการควรลดการโฟกัสตลาดท่องเที่ยวจีน กระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่น”

ดันโรงแรมฟื้นตัวทุกระดับ

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 ยังมีโอกาสให้ฟื้นตัวอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ รวมถึงตัวแปรเรื่องการเปิดประเทศของจีน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวจีนกลับมา จะทำให้โรงแรมฟื้นตัวดีขึ้นในทุกระดับ โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กที่พึ่งพาตลาดจีน

เช่นเดียวกับ นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขของทางการจีน ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวเกาะสมุย โดยประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนจะเกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบล้างแค้น เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาติอื่น เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการทั้งโรงแรมและร้านอาหารมีความหวังมากขึ้น

โดยไตรมาสที่ 1/2566 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะสมุย โรงแรมในพื้นที่จะมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ราว 70-80% หากจีนเปิดประเทศและเดินทางเข้าพื้นที่เกาะสมุยมากขึ้น จะทำให้อัตราการเข้าพักในโรงแรมปรับตัวสู่ระดับ 80-90% ทำให้ช่วยกระจายเม็ดเงินไปยังโรงแรมบางแห่งซึ่งยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่

นายรัชชพรกล่าวว่า นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีสายการบินกลับมาให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำเส้นทางจีน-เกาะสมุยอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำเส้นทางเฉิงตู, ซีอาน, ฉงชิ่ง สู่เกาะสมุย

ภูเก็ตตั้งเป้าปี’66 จีน 1 ล้าน

ด้านนายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาคการท่องเที่ยวภูเก็ตทั้งภาครัฐและเอกชนมีการพูดคุย เตรียมความพร้อมการรับนักท่องเที่ยวชาวจีนไว้บ้างแล้ว เช่น การจัดเตรียมสถานที่พักคอยในท่าอากาศยาน ป้ายบอกทางเป็นภาษาจีน ปรับปรุงตารางสายการบินให้เหมาะสม พยายามลดปัญหาเดิม ๆ

นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะที่จะเห็นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย เร็วที่สุดปลายไตรมาสที่ 1/2566 ซึ่งภายใต้เงื่อนไขว่าโครงสร้างพื้นฐานภูเก็ตพร้อมรองรับ คาดว่าตลอดทั้งปี 2566 จะมีชาวจีนเดินทางเข้าภูเก็ตประมาณ 900,000-1,000,000 คน หรือประมาณ 30% ของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าภูเก็ตในปี 2562 (ประมาณ 3 ล้านคน)

และจะช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักของธุรกิจโรงแรม จากค่าเฉลี่ยปี 2565 ประมาณ 60% เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 70% ในปี 2566

จี้รัฐเตรียมพร้อมแก้ปัญหา

นายภูมิกิตติ์กล่าวต่อว่า ประเด็นที่อยากเสนอคือภาครัฐควรอำนวยความสะดวกในพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแก่นักท่องเที่ยวที่ผ่านด่านทางบก เช่น การกรอกใบ ตม.6 ด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้าประเทศไทยผ่านด่านทางบกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเปิดรถไฟความเร็วสูงสายจีน-ลาว รวมถึงเข้ามาแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมการบิน

ทั้งควรเตรียมพร้อมด้านมัคคุเทศก์ที่ใช้ภาษาจีน โดยเปิดให้มีการต่อใบอนุญาตโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจากที่ผ่านมามัคคุเทศก์เหล่านี้ขาดแคลนรายได้ รวมถึงเพิ่มทักษะแก่มัคคุเทศก์เพื่อให้พร้อมรับปริมาณความต้องการของชาวจีน

“เชื่อว่าเมื่อเปิดการเดินทางจริง ชาวจีนจะเดินทางออกมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากความอัดอั้นอยากเดินทาง เราจะทำอย่างไรเพื่อรองรับปริมาณความต้องการนั้นให้ดีที่สุด ตอนนี้ยังมีเวลาพอให้ทุกฝ่ายเตรียมตัว เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เราไม่อยากเสียโอกาส” นายภูมิกิตติ์กล่าว

แอตต้าชี้ เม.ย.-พ.ค.ชัดเจน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศเปิดประเทศของจีนสร้างการตื่นตัวให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน เพราะเป็นการประกาศเปิดประเทศค่อนข้างกะทันหัน จากเดิมที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงเดือนมีนาคม 2566

อย่างไรก็ตาม การประกาศยกเลิกกักตัวนักท่องเที่ยวขาเข้าของจีนถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งหวังว่าจีนจะประกาศผ่อนคลายนักท่องเที่ยวขาออกในลำดับต่อไป ในส่วนของสมาคมแอตต้าประเมินว่าหลังจากวันที่ 8 ม.ค. 66 น่าจะเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวจีนทยอยเข้ามาบ้าง และชัดเจนมากยิ่งขึ้นในช่วง เม.ย.-พ.ค. 2566 เป็นต้นไป

“เราได้รับรายงานจากคู่ค้าในจีนว่า สถานการณ์ในจีนตอนนี้ก็ขาดแรงงานหนักเหมือนบ้านเรา ทั้งในส่วนบริษัททัวร์ สายการบิน ฯลฯ และทางการของจีนได้เริ่มส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวพร้อมสำหรับการกลับมาทำธุรกิจ เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา” นายศิษฎิวัชรกล่าว

ปี’66 นักท่องเที่ยวพุ่ง 25 ล้าน

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีจีนเปิดประเทศในวันที่ 8 มกราคม 2566 ว่า จะเป็นปัจจัยบวกอย่างแน่นอนในด้านการท่องเที่ยวปี 2566 ซึ่งจะสามารถขยับตัวเลขเป้าหมายนักท่องเที่ยวจาก 20 ล้านคน เป็น 25 ล้านคน ซึ่งจะทำให้รายได้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 2.38 ล้านล้านบาทตามเป้าหมาย หรืออาจมากกว่าได้

“ส่วนปีนี้รายได้ท่องเที่ยวทะลุเป้าหมาย 1.28 ล้านล้านไปแล้ว ส่วนจะถึง 1.5 ล้านล้านบาทหรือไม่นั้น ผมว่าน่าจะใกล้เคียง” นายพิพัฒน์กล่าว

ดุสิตลุ้นกลุ่มแรกช่วงตรุษจีน

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีประเทศจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับภาคการท่องเที่ยวที่จะได้เห็นการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลับมาอีกครั้ง หลังจากหายไปเกือบ 3 ปี โดยในช่วงก่อนโควิดนักท่องเที่ยวจีนครองอันดับ 1 ด้วยสัดส่วนเกือบ 30% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ 40 ล้านคน

“การผ่อนคลายความเข้มงวดสำหรับมาตรการป้องกันโควิดของจีน ตั้งแต่ 8 ม.ค. 2566 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะทำให้เราน่าจะได้มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่อาจจะออกท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนเป็นกลุ่มแรกพอดี”

ปลุกร่วมมือรัฐ-เอกชน

นางศุภจีกล่าวว่า อย่างไรก็ตามประเทศไทยและภาคธุรกิจ ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของการจัดการในด้านการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศ ทางน้ำ หรือทางบก ให้มีการจัดการที่เป็นระบบระเบียบ มีความสะดวกสบาย ไม่เกิดการกระจุกตัว หรือแออัดยัดเยียด ติดขัด เสียเวลา เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวประทับใจ และวางแผนเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ต้องดูแลมาตรการเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐานและมีความสะดวกสบายเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความสบายใจและป้องกันความเสี่ยงไม่ให้นำไปสู่การแพร่ระบาดอีกครั้ง จนกลับไปสู่มาตรการเข้มงวดเหมือนช่วงก่อนหน้านี้

ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการเตรียมความพร้อมในการสร้างวัตถุประสงค์ของการเดินทางให้น่าสนใจ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพร้อมจ่ายมากขึ้น เพราะผลกระทบจากเรื่องพลังงานและโควิดทำให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป เพราะการเดินทางแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น นักท่องเที่ยวจึงจะใช้เวลาท่องเที่ยวนานขึ้น เพื่อให้คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

นางศุภจีกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีปัญหาเรื่องความแออัดคับคั่งของสายการบิน การลงจอด กระบวนการต่าง ๆ ก็ต้องเตรียมบุคลากรและมาตรการต่าง ๆ ไว้รองรับ กรณีมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และการเสียเวลาในการเดินทาง เหมือนเช่นที่เกิดกับประเทศอื่น ๆ

อสังหาลุ้นจีนปรับฐาน

ดร.วิชัย วิรัตกพันธุ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. หรือ REIC กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีจีนเปิดประเทศ 8 มกราคม 2566 ถึงแม้ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กฎหมายไทยให้โควตาลูกค้าต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียม 49% แต่เบื้องต้นคาดว่าตลาดคอนโดฯ ไม่ได้รับอานิสงส์จากการที่จีนเปิดประเทศมากนัก ต้องใช้เวลาค่อยเป็นค่อยไปกว่ากำลังซื้อลูกค้าจีนจะไหลกลับเข้าไทย

สำหรับสถิติ 9 เดือนแรกของปี 2565 พบว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ลูกค้าจีนตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด จากปกติมีการโอนเฉลี่ยปีละ 50-60% ล่าสุดเหลือ 48.9% ดังนั้นแม้รัฐบาลจีนเปิดประเทศแต่ยังควบคุมการโอนเงินปีละ 5 หมื่นเหรียญ/คน และจีนมีการลงทุนซื้ออสังหาฯในประเทศอยู่แล้ว ต้องให้เวลาเคลียร์กำลังซื้อสักระยะจึงจะกลับมาซื้ออสังหาฯไทย


โดยประเมินว่าหากจีนเปิดประเทศต้นปี กำลังซื้ออสังหาฯจะกลับเข้าไทยช่วงกลางปี และหากเปิดประเทศกลางปี คาดว่ากำลังซื้อจะกลับมาช่วงปลายปี หรือมีช่วงปรับตัว 5-6 เดือน