
ฤกษ์จีนเปิดประเทศมาแล้ว 8 มกราคม 2566 นักท่องเที่ยวแค่ตรวจ PCR 48 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง เข้าจีนไม่ต้องกักตัว ส่วนคนจีนจะไปเที่ยวต่างแดนรอลุ้นอีกนิด
วันที่ 27 ธันวาคม 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน หรือ NHC ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวผู้โดยสารทั้งหมดจากนอกประเทศที่เดินทางเข้าจีน ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
- ออมสิน ขายหุ้น “เงินสดทันใจ” 49% คืน “ศรีสวัสดิ์” 1,500 ล้านบาท
- รวมไทยสร้างชาติ พัทลุง ยกธงขาว ยุติการหาเสียง ถูกตัดท่อกลางอากาศ
- ส่องเงินเดือน “ซีอีโอ” ประเทศไทย ใน 8 อุตสาหกรรมใหญ่
ส่วนมาตรการอื่น ๆ ที่เคยใช้ รวมถึงกักตัวนักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวกและการติดตามตัว ยกเลิกเช่นกัน ตามนโยบายใหม่ที่จีนวางแผนจัดการกับโรคระบาดโควิด หลังจากลดระดับความเข้มงวดลง โดยระบุให้โควิดเป็นเชื้อโรคชั้นบี (Class B disease) หรือโรคที่มีความรุนแรงน้อยลง ชั้นเดียวกับไข้เดงกิ แทนที่จะเป็นปอดอักเสบ
“จีนจะเรียกโควิดว่า การติดเชื้อ แทนปอดบวม การปรับเปลี่ยนนี้เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะและระดับความอันตรายของเชื้อโรคชนิดนี้” NHC ระบุเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ให้รายละเอียดด้วยว่า สายพันธุ์โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักของ SARS-Cov-2 ซึ่งมีเคสน้อยมากที่พัฒนาไปสู่อาการปอดอักเสบ
สำหรับการกักตัวนักท่องเที่ยวที่จะเลิกใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 เป็นการยุติมาตรการที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2563 ที่เคยกักผู้โดยสารนอกแผ่นดินใหญ่และมาเก๊าในโรงแรมสำหรับกักตัวนาน 5 วัน และแยกกักที่บ้านพักอีก 3 วัน
โดยจากวันที่ 8 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวยังต้องรับการตรวจหาเชื้อโควิด แต่ไม่ต้องส่งผลไปยังสถานทูตหรือสถานกงสุลจีนเพื่อลงทะเทียนรหัสอีก โดยใช้วิธีตรวจ PCR 48 ชั่วโมง แสดงผลก่อนขึ้นเครื่องแทน

NHC ระบุด้วยว่าจะฟื้นการท่องเที่ยวออกนอกประเทศให้พลเรือนจีน ตามระเบียบกฎเกณฑ์ต่อไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิดโดยรวมของโลก และศักยภาพด้านการบริการมากมายหลายด้าน
จีนค่อย ๆ ผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดอย่างเข้มงวดที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 ตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างหนัก กระทั่งล่าสุดคณะผู้นำส่งสัญญาณต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจในปี 2566 อย่างจริงจัง จึงยกเลิกมาตรการต่าง ๆ เป็นระลอก
อย่างไรก็ตาม การพลิกนโยบายฉับพลันทำให้คนแห่ซื้อยาแก้ไข้แก้หวัดจนสินค้าขาดตลาดทั้งที่ร้านและทางออนไลน์ ขณะที่หลายเมืองและมณฑลพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นต่อวัน
NHC มีคำสั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่น โดยเฉพาะเมืองใหญ่และเมืองขนาดกลางปรับศูนย์กักกันเป็นโรงพยาบาลที่มีบุคลากรเพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วย
“ขณะที่เราจัดการกับโรคระบาด เราควรมุ่งประเมินสถานการณ์โลกแบบเรียลไทม์ กดดันระบบสาธารณสุขและสถานการณ์ทางสังคม เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายรับมืออย่างเหมาะสม เพื่อจำกัดกิจกรรมความเคลื่อนไหวทางสังคมให้ยืดหยุ่นเพื่อควบคุมการระบาดให้ได้” แถลงการณ์ NHC ระบุ พร้อมยกตัวอย่างว่า อาจมีการล็อกดาวน์บ้านพักคนชราอีก หากเกิดการระบาด