คอลัมน์ : สัมภาษณ์
ก้าวสู่ปี 2566 กันด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยมสำหรับธุรกิจโรงแรมของไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ แบรนด์อินเตอร์ หลังจากที่แนวโน้มของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้ทุกค่ายเปิดเกมรุกกันอย่างหนักตั้งแต่ต้นปี
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้ร่วมสัมภาษณ์ “ชิดชนก พศินพงศ์” ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมอวานี สุขุมวิท กรุงเทพ (Avani Hotels & Resorts) ถึงทิศทางการบริหารสำหรับปี 2566 รวมถึงคาดการณ์แนวโน้มด้านการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมไว้ดังนี้
ฟื้นกลับสู่ภาวะปกติ
“ชิดชนก” บอกว่า ในช่วงไตรมาส 4/2565 ที่ผ่านมา ภาพรวมของโรงแรมอวานี สุขุมวิท กรุงเทพ พลิกฟื้นจากโควิดกลับมาเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ หรือเกือบเท่ากับไตรมาส 4 ของปี 2562 แล้ว โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 80% และมีอัตราราคาห้องพักเฉลี่ย หรือ average daily rate (ADR) สูงจากไตรมาส 2/2565 ประมาณ 50% ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปี 2565 ที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ดี
และคาดว่าแนวโน้มจะปรับตัวดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1/2566 นี้ โดยประเมินว่าลูกค้าหลักในช่วงเวลานี้จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป (FIT) และกลุ่มเดินทางเพื่อประชุมสัมมนาเป็นหลัก โดยเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยราว 80% เช่นกัน
ขยับรุกยุโรป-ตะวันออกกลาง
โดยตลาดนักท่องเที่ยวหลักหรือประมาณ 50% เป็นนักท่องเที่ยวในเซาท์อีสต์เอเชีย อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT และคอร์ปอเรต กลุ่มลูกค้ายุโรปมีสัดส่วนประมาณ 15-20% อินเดียมีสัดส่วนประมาณ 5-8% ส่วนลูกค้าคนไทยปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 10-15%
“ปีนี้เราจะโฟกัสตลาดยุโรปมากขึ้น โดยเพิ่มน้ำหนักทำตลาดนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตสมัยใหม่ เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ในโซนตะวันออกกลางด้วย”
“ใหม่-ครบ” คีย์ซักเซส
“ชิดชนก” บอกด้วยว่า ปัจจัยที่สนับสนุนทำให้ “อวานี สุขุมวิท กรุงเทพ” ฟื้นกลับมาได้ค่อนข้างเร็ว ประกอบด้วย 1.ทำเล (location) ที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอส (สถานีอ่อนนุช) และมีศูนย์การค้า (เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า 2) แหล่งบันเทิงอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทำให้เป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว ทั้งกลุ่มที่เป็นคอร์ปอเรตและ FIT
และ 2.โรงแรมใหม่ (เปิดบริการกรกฎาคม 2562) การเป็นโรงแรมใหม่นั้นนอกจากจะมีความสดใหม่แล้ว โรงแรมยังได้พัฒนาฟังก์ชั่นการให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างครบถ้วน ทั้งห้องอาหาร ฟิตเนส สปา รวมถึงห้องจัดประชุมสัมมนา ฯลฯ และห้องพักถึง 382 ห้อง
เน้นตลาด “ประชุม-สัมมนา”
“ชิดชนก” ยังบอกอีกว่า สำหรับปีนี้โรงแรมอวานี สุขุมวิท กรุงเทพ จะเน้นทำการตลาดประชุมสัมมนามากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ช่วยเพิ่มรายได้ทั้งในส่วนของห้องพัก ห้องประชุม และห้องอาหาร โดยจะรุกหนักในตลาดที่มีความแข็งแรงอยู่แล้ว เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น โดยทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์กลุ่ม DMC หรือ destination management company ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการให้บริการกับนักธุรกิจไมซ์โดยตรง
ทั้งนี้ เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้มีความพร้อมเรื่องของพื้นที่จัดงานประชุมสัมมนาที่สะดวก รองรับการจัดงานทุกรูปแบบถึง 15 ห้อง โดยห้องใหญ่แกรนด์บอลรูม มีขนาด 500 ตารางเมตร รองรับผู้ร่วมงานได้กว่า 700 คน (งานค็อกเทล) ห้องขนาด 100-300 กว่าตารางเมตร ไปจนถึงห้องประชุมขนาดเล็ก 20-60 ตารางเมตร
นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหาร Greenhouse ให้บริการตั้งแต่ 06.00-16.00 น., Greenhouse Terrace Bar ให้บริการตั้งแต่ 17.00-22.00 น. และ The Deck-Pool & Bar ให้บริการตั้งแต่ 09.00-18.00 น. โดยบริเวณด้านหน้าของบาร์แห่งนี้ยังสามารถรองรับอีเวนต์กลางแจ้งได้ด้วย
“อวานี สุขุมวิท กรุงเทพ บริหารงานภายใต้กลุ่มโรงแรมอวานี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ ตั้งอยู่ย่านอ่อนนุช ห่างจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเพียง 30 นาที และสะดวกสบาย โดยมีตัวอาคารเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่วยให้แขกผู้ใช้บริการสามารถเดินทางไปยังย่านธุรกิจ แหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหารในกรุงเทพฯได้ง่ายและรวดเร็ว ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากศูนย์ประชุมไบเทค บางนา”
ปี’66 ตั้งเป้าโต 20-25%
นอกจากนี้ ยังเป็นโรงแรมที่เป็นประตูสู่จังหวัดในภาคตะวันออก ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวและสันทนาการจำนวนมาก ทั้งการท่องเที่ยวทางทะลและสนามกอล์ฟ
“ตอนนี้ดีมานด์เข้ามาเยอะ บวกกับต้นทุนการบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราเริ่มปรับราคาขึ้น และยังเชื่อมั่นว่าโรงแรมเรายังมีศักยภาพในการขยายการเติบโตได้อีกมาก ปีนี้เราจึงตั้งเป้าหมายเติบโตที่ 20-25% โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80-83% และมีอัตราราคาเฉลี่ยต่อห้องเพิ่มขึ้นอีก 10-15%”
ย้ำพร้อมรองรับทุกกลุ่ม
“ชิดชนก” ย้ำว่า ในเชิงการตลาดนั้น ปีนี้จะเห็นความชัดเจนที่หลากหลายขึ้น เช่น การทำตลาดในรูปแบบ meet-ertainment ที่ผสานการประชุม และชมภาพยนตร์ การประชุมที่ควบคู่กับการดูแลสุขภาพ หรือการจัดประชุมที่สามารถเลือกกิจกรรมเสริม ฯลฯ
หรือแพ็กเกจจองห้องพัก ห้องสัมมนา แถมบัตรรถไฟฟ้าบีทีเอสแบบ 1 วัน รวมถึงการจัดกิจกรรม Movie Night ฉายภาพยนตร์ทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ การแสดงดนตรีสดบริเวณ Greenhouse Terrace Bar ฯลฯ รวมถึงการจัดปาร์ตี้บริเวณ The Deck-Pool & Bar ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นโรงแรมที่รองรับทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป กลุ่มคอร์ปอเรต กลุ่มจัดประชุมสัมมนา
และเป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดแห่งหนึ่งบนทำเลถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ