คิง เพาเวอร์ ปรับใหญ่รอบ 3 ทศวรรษ ทุ่ม 3 พันล้านผุดดิวตี้ฟรีกลางกรุงแห่งใหม่

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา

“คิง เพาเวอร์” ปรับทัพใหญ่ในรอบ 3 ทศวรรษ พลิกโฉมโครงสร้างองค์กรสู่ Multibusiness จาก 4 แกนเป็น 8 แกนหลัก ภายใต้แนวคิด THE POWER OF POSSIBILITIES : ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้ พร้อมผุดดิวตี้ฟรีใหม่ 2 โปรเจ็กต์ยักษ์ King Power Duty Free อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 สุวรรณภูมิ-King Power Downtown Duty Free บนทำเลธุรกิจใจกลาง CBD พื้นที่ร่วม 10,000 ตร.ม. มูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท รับเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

วันที่ 10 มีนาคม 2566 รายงานข่าวจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็นอีกก้าวสำคัญในรอบ 3 ทศวรรษของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ โดยนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้จัดงานแถลงนโยบายและแผนการดำเนินธุรกิจ ประจำปี 2566 โดยชูแนวคิด THE POWER OF POSSIBILITIES ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้

และยืนหยัดขับเคลื่อนธุรกิจคนไทยให้ก้าวสู่มิติใหม่ระดับสากล ผ่านกลยุทธ์ 4Es ประกอบด้วย Enable, Encourage, Explore และ Empower ผสาน Digital Transformation ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมสินค้าที่ทันสมัย และเซอร์วิสโซลูชั่นใหม่ ๆ ทั้งในสนามบินและใจกลางเมือง

พร้อมทั้งเขย่าโครงสร้างธุรกิจใหม่จาก 4 กลุ่ม เป็น 8 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสินค้าปลอดอากร, กลุ่มธุรกิจค้าปลีก, กลุ่มธุรกิจอาหาร, กลุ่มธุรกิจโรงแรม, กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค, กลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์ประสบการณ์, กลุ่มธุรกิจกีฬา และกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

ดิวตี้ฟรีนอกจากนี้ ยังลงทุนเพิ่มเติมใน 2 โปรเจ็กต์ใหญ่คือ King Power Duty Free ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite Building) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ King Power Downtown Duty Free บนทำเลธุรกิจใจกลาง CBD รวมพื้นที่เชิงพาณิชย์ร่วม 10,000 ตารางเมตร มีมูลค่าการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อรับเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกระดับเป็นพลังใจที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวผ่านมาได้

ทำให้เกิดแนวคิด “WE are powerful than I” นำมาต่อยอดเป็น Brand Idea ขององค์กรที่ก่อเกิดจากความมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคนในการสร้างพลังแห่งความเป็นไปได้ จนสร้างสรรค์เป็นแนวคิดหลัก THE POWER OF POSSIBILITIES ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้

โดยคิง เพาเวอร์ มุ่งเน้นที่จะค้นหาและสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางเพื่อผู้คนทั่วโลก และเพื่อรองรับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ กลุ่มบริษัทเตรียมเปิดดิวตี้ ฟรี ใหม่อีก 2 แห่ง คือ ที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite Building) รองรับผู้โดยสารได้ราว 151,000 รายต่อวัน และอีกแห่งบนทำเลธุรกิจใจกลาง CBD ตั้งเป้ารองรับนักท่องเที่ยวราว 50,000 คนต่อวัน

ทั้งนี้ คิง เพาเวอร์ พร้อมที่จะผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วน และพนักงานทุกระดับ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืนครบทุกมิติ โดยยึดแกนหลัก The Power of Possibilities ผันธุรกิจคิง เพาเวอร์ ให้เป็นมากกว่ากลุ่มสินค้าปลอดภาษี ผ่านกลยุทธ์ 4Es

ได้แก่ 1.Enable ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยนำเทคโนโลยีและวัฒนธรรมใหม่ ๆ ของโลกดิจิทัลมาบริการ 2.Encourage ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และมุมมองล้ำสมัยของบุคลากรและพันธมิตรทางธุรกิจ 3.Explore ส่งมอบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของประสบการณ์การเดินทาง และการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภค และ 4.Empower จุดประกายให้ผู้คนทั่วโลกได้ออกมาใช้ชีวิตในทุกวันให้พิเศษกว่าเดิม

โดยในปีนี้ คิง เพาเวอร์ ได้ปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็น Multibusiness จากเดิมที่มี 4 แกนหลัก ให้เป็น 8 แกนหลัก ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจสินค้าปลอดอากร (Travel Retail), กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail), กลุ่มธุรกิจอาหาร (Dining), กลุ่มธุรกิจโรงแรม (Hospitality), กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค (Consumer Products), กลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์ประสบการณ์ (Travel Experiences), กลุ่มธุรกิจกีฬา (Sports) และกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR)

ทั้งนี้ เพื่อสามารถมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและครบครัน ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวและการช็อปปิ้ง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เติมเต็มทุกความต้องการของชีวิตที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“ในปีที่ผ่านมาได้มีการปรับโฉมพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 12 ปี โดยหัวใจสำคัญคือ การเป็น World Junction ที่รวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากกว่า 20 แบรนด์ชั้นนำไว้ในที่เดียว เพื่อสร้างปรากฏการณ์ Duty Free World Class Shopping Destination ให้สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค” นายอัยยวัฒน์กล่าว

และว่า พร้อมเปิดตัวคิง เพาเวอร์ มหานคร เต็มรูปแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ THE MAHANAKHON OF LIVES มหานคร หนึ่งเดียวของทุกคน สะท้อนสีสัน เสน่ห์ของกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่นักเดินทางทั่วโลกและคนไทยต้องมาเช็กอิน โดยมีโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด แบ็งคอก มหานคร เข้ามาช่วยสนับสนุนให้คิง เพาเวอร์ มหานคร เป็น ICONIC WORLD CLASS LANDMARK DESTINATION ระดับโลก

รวมถึงมุ่งเน้น Digital Transformation เพื่อให้องค์กรมีความทันสมัย โฟกัสการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าปัจจุบัน และอนาคตมากยิ่งขึ้น (Customer-centric) พัฒนาทั้งในด้านของระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ด้านบริหารงาน ด้านการขายและหลังการขาย ควบคู่กับการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร และบุคลากร

นายอัยยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า นอกจากในส่วนของโครงสร้างธุรกิจแล้ว คิง เพาเวอร์ ยังใส่ใจและให้ความสำคัญกับพนักงาน ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนองค์กรเสมอมา โดยมีการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของพนักงานในมิติต่าง ๆ รวมทั้งมอบรางวัล Appreciation Recognition ให้กับพนักงานเกษียณ และพนักงานที่ทำงานครบรอบ 30 ปี, 20 ปี และ 10 ปี ตามลำดับ เพื่อเป็นกำลังใจ และขอบคุณในความทุ่มเทของพนักงานทุกระดับอีกด้วย