ไทยไลอ้อนแอร์ หวังปีนี้ฟื้นทำกำไร รับเครื่องใหม่ เตรียมขยายรูตจีน

ไทยไลอ้อนแอร์

ไทยไลอ้อนแอร์ หวังปี 2566 พลิกทำกำไร รับเครื่องบินใหม่ 7 ลำ เตรียมขยายรูตจีน ททท.ยันเป้าจีนเข้าไทย 5 ล้านคน หวั่นฝุ่น PM 2.5 ทำผู้โดยสารรูตภาคเหนือหาย

วันที่ 11 เมษายน 2566 นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เปิดเผยว่า ในปี 2566 สายการบินไทยไลอ้อนแอร์เตรียมขยายฝูงบินเพิ่มขึ้นจากเดิมจำนวน 7 ลำ โดยแบ่งเป็นเครื่องบินแบบโบอิ้ง 737-800 จำนวน 4 ลำ และ 737-900ER จำนวน 3 ลำ ทำให้สายการบินจะมีฝูงบินรวมทั้งสิ้นเป็น 18 ลำ จากแผนเพิ่มเครื่องบิน 7 ลำดังกล่าว ปัจจุบันมีเครื่องบินเข้าประจำการแล้วจำนวน 2 ลำ

อัศวิน ยังกีรติวร

นางนันทพร โกมลสิทธิ์เวช ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ กล่าวเสริมว่า การขยายฝูงบินดังกล่าวจะทำให้สายการบินสามารถเพิ่มความถี่ในเส้นทางที่สายการบินให้บริการอยู่ รวมถึงเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ ได้

นอกจากนี้ ในปี 2567 สายการบินมีแผนขยายฝูงบินเพิ่มเติม และคาดว่าในเวลา 3-4 ปี ไทยไลอ้อนแอร์จะมีเครื่องบินประจำการอยู่ทั้งสิ้น 35 ลำ เทียบเท่ากับปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ สายการบินยังไม่มีแผนการรับเครื่องบินลำตัวกว้าง เช่น แอร์บัส เอ330 เข้าประจำการในฝูงบินในระยะเวลาอันใกล้

ปัจจุบันสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ทำการบินในประเทศ 14 เส้นทาง จาก 13 จุดบิน และทำการบินเส้นทางประเทศ 6 เส้นทางไม่รวมประเทศจีน ได้แก่ จาการ์ตา (อินโดนีเซีย), กาฐมาณฑุ (เนปาล), ไทเป (ไต้หวัน), มุมไบ (อินเดีย), สิงคโปร์ และเตรียมเปิดเส้นทางใหม่ คือ บังกาลอร์ (อินเดีย) ในวันที่ 30 เมษายนนี้ ตั้งเป้ามีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 60-70%

สำหรับเส้นทางการบินประเทศจีนนั้น สายการบินทำการบินอยู่ทั้งสิ้น 8 เมือง เช่น กว่างโจว ฉางชา หนานจิง มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย (Average Load Factor) ประมาณ 80% ทำการบินความถี่เฉลี่ยแต่ละเส้นทางที่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากรุ๊ปทัวร์ ครองสัดส่วนสูงถึง 80%

“ในปีนี้ไทยไลอ้อนแอร์มีแผนพิจารณาขยายเส้นทางไปยังอู่ฮั่น เสิ่นเจิ้น และหางโจว” นางนันทพรกล่าว

นางนันทพรกล่าวว่า บริษัทประเมินว่าในเทศกาลสงกรานต์ 2566 สายการบินไทยไลอ้อนแอร์มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยเส้นทางบินในประเทศประมาณ 80-85% ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 1,500 บาท เส้นทางบินต่างประเทศอยู่ที่ 70% ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยของบางเส้นทาง เช่น สิงคโปร์ อยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท

ขณะที่สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือที่คงอยู่ในระดับสูง อาจมีผลกระทบต่อการออกเดินทางของนักท่องเที่ยว ตามปกติแล้วเส้นทางบินเชียงใหม่จะมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารสูงเป็นอันดับต้น ๆ แต่จากข้อมูลการจองบัตรโดยสารพบว่า ในช่วงเวลานี้ สายการบินมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเส้นทางเชียงใหม่อยู่ที่ราว 70% ไม่ติด 5 อันดับแรกของสายการบิน

นางนันทพรกล่าวว่า ในไตรมาส 1/2566 สายการบินมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า มีสัดส่วนของผู้โดยสารต่างชาติราว 12-15% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ในไตรมาส 2/2566 สายการบินวางเป้าหมายมีผู้โดยสารจำนวน 1 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยเส้นทางบินในประเทศที่ราว 80% และมีสัดส่วนของผู้โดยสารต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 20%

“เราประเมินว่าภาพรวมครึ่งปีหลังน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น และบริษัทกำหนดเป้าหมายว่าตลอดทั้งปี 2566 จะสามารถขนส่งผู้โดยสารจำนวน 5 ล้านคน มีสัดส่วนผู้โดยสารชาวไทยต่อชาวต่างชาติที่ 60-70% ต่อ 30-40% ตามลำดับ และคาดว่าปีนี้น่าจะทำกำไรได้” นางนันทพรกล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันอุตสาหกรรมการบินอยู่ในช่วงเวลาการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 จึงเสนอให้ภาครัฐพิจารณาต่ออายุมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจการบิน เช่น มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น จากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท ซึ่งจะหมดอายุมาตรการในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 รวมถึงขอเลื่อนระยะเวลาจัดเก็บค่าธรรมเนียมเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือค่าเหยียบแผ่นดิน ออกไปก่อนเพื่อรอความพร้อมของระบบ

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยการรวบรวมของ ททท. พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-9 เมษายน 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวน 7,062,953 คน

โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้จำนวน 4,382,626 คน ครองสัดส่วน 62% ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด นักท่องเที่ยว 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย 902,621 คน, จีน 517,242 คน, เกาหลีใต้ 441,028 คน, อินเดีย 320,887 คน และเวียดนาม 223,379 คน

ททท.คาดว่า ในปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเดินทางเข้าประเทศตลอดทั้งปี จำนวนอย่างน้อย 5 ล้านคน, มาเลเซีย 3.5 ล้านคน อินเดียมากกว่า 1 ล้านคน และเกาหลีใต้มากกว่า 1 ล้านคน

“ในปี 2566 เราคาดว่าการท่องเที่ยวไทยต้องพึ่งพาตลาดการท่องเที่ยวระยะสั้น ซึ่งจีนถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของตลาดท่องเที่ยวไทย ปีนี้ ททท.ตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 25-30 ล้านคน ซึ่งเชื่อว่าจำนวน 25 ล้านคนน่าจะถึงเป้าหมาย” นายธเนศวร์กล่าว