ไทยเวียตเจ็ท บินเหมาลำจีน 6 เส้นทาง

ไทยเวียตเจ็ท

“ไทยเวียตเจ็ท” เด้งรับจีนเปิดประเทศ เตรียมเปิดเที่ยวบินเหมาลำ 6 เส้นทาง “กว่างโจว-หนานหนิง-ฉางชา-คุนหมิง-เฉิงตู-เซี่ยงไฮ้” มั่นใจจีนทยอยเข้าไทยมากขึ้นในไตรมาส 2-3 ปีนี้

แหล่งข่าวจากสายการบินไทยเวียตเจ็ท เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เชื่อว่าหลังจากประเทศจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกพรมแดนจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ของปีนี้

ทั้งนี้ สายการบินไทยเวียตเจ็ทมีแผนกลับมาให้บริการเส้นทางบินระหว่างไทย-จีน รวม 6 เส้นทาง ประกอบด้วย จากกรุงเทพฯสู่กว่างโจว (CAN), คุนหมิง (KMG), เฉิงตู (CTU), หนานหนิง (NNG), เซี่ยงไฮ้-ผู่ตง (PVG) และฉางชา (CSX) ในรูปแบบเที่ยวบินเช่าเหมาลำ

“ปัจจัยบวกของเส้นทางการบินประเทศจีนคือ อุปสงค์ต้องการเดินทางค่อนข้างสูง การเปิดเส้นทางแบบเช่าเหมาลำของไทยเวียตเจ็ทดังกล่าวนี้น่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยได้อย่างมาก” แหล่งข่าวระบุ

และว่าในทางกลับกัน ความท้าทายในการทำการบินเส้นทางไทย-จีน คือ การแข่งขันด้านราคา โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนในการทำการบินและการเตรียมความพร้อมทำการบินสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของไทยเวียตเจ็ทนั้นเชื่อมั่นว่าด้วยความที่เป็นสายการบินที่มีประสบการณ์ในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว จะทำให้สายการบินสามารถรับมือการแข่งขันและกลับมาให้บริการในเส้นทางจีนอีกครั้งได้อย่างมีนัยสำคัญ

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมพร้อมด้านบุคลากรและทรัพยากรเพื่อรองรับการขยายเส้นทางบินดังกล่าวนั้น ปัจจุบันสายการบินได้รับลูกเรือเพิ่มเติม พร้อมรับมอบเครื่องบินเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันไทยเวียตเจ็ทมีจำนวนเครื่องบินในฝูงบินจำนวน 18 ลำ และประเมินว่าจะเพียงพอต่อความต้องการของตลาด และรองรับเส้นทางบินที่เปิดเพิ่มเติมได้

“แม้สายการบินหลายแห่งจะเริ่มกลับมาให้เพิ่มความถี่เที่ยวบินและเส้นทางบินมากขึ้น แต่ด้วยปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทำให้แผนการเพิ่มเที่ยวบิน หรือขยายเส้นทางบินได้รับผลกระทบ” แหล่งข่าวกล่าวและว่า ปัจจุบันหลายประเทศได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางไปแล้ว


ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ ทั้งนักท่องเที่ยวขาเข้าและนักท่องเที่ยวขาออก ยกเว้นนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันอาจยังไม่ได้เดินทางเข้าประเทศไทยมากเท่ากับอดีต เนื่องจากสถานการณ์เงินเยนอ่อนค่า