แอตต้า หวั่นข่าวลบเมืองไทยทุบมู้ด รอประเมินไตรมาส 3 จีนเข้าไทยปีนี้ จะปังหรือปิ๋ว

นักท่องเที่ยวแต่งชุดไทย ถ่ายภาพคู่กับพระปรางค์วัดอรุณฯ
Photo by Manan VATSYAYANA / AFP

“แอตต้า” รอประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยทั้งปี เปิดเงื่อนไขไตรมาส 3/2566 ถ้าถึง 2 ล้านคน ปลายปีมีลุ้นยอดโตต่อ ส่วนปีหน้าเชื่อจีนเข้าไทย 10 ล้านคน หวั่นข่าวลบเมืองไทยทุบมู้ดนักท่องเที่ยว วอนรัฐสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว

วันที่ 23 มิถุนายน 2566 นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 3/2566 น่าจะฟื้นตัวมากขึ้น สำหรับสัญญาณบวกที่ชี้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังหรือไม่นั้นคือ ไตรมาสที่ 3 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 2 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 20,000 ต่อวัน

โดยหากเป็นไปตามแนวทางดังกล่าว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยไตรมาสที่ 4/2566 จะมีสัญญาณดีต่อเนื่อง จากทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวจากตลาดทวีปยุโรปซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจจีนชะลอตัว อาจไม่ส่งผลกระทบต่อการออกเดินทางของชาวจีน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยตอนนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังจับจ่าย แต่เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป อาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้น

อย่างไรก็ดี แม้ปัจจุบันจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยมากกว่า 1 ล้านคน แต่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนใช้บริการกับผู้เป็นสมาชิกแอตต้าราว 10% เท่านั้น จากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 40-50%

ส่วนปัจจัยความไม่สะดวกในการขอวีซ่าแบบกลุ่มของนักท่องเที่ยว ยังเป็นความท้าทายการออกเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งระบบลงทะเบียน e-VISA ไม่มีภาษาจีน หรือการยื่นขอวีซ่าแบบกลุ่ม ซึ่งบางรายอาจถูกปฏิเสธ ขณะที่ระบบการขอวีซ่าหน้าด่าน (Visa on Arrival) ที่อาจมีจำนวนคิวที่ยาว ใช้ระยะเวลานาน อาจทำให้นักท่องเที่ยวจีนอาจพิจารณาการออกเดินทางมายังประเทศไทย ขณะเดียวกัน ราคาบัตรโดยสารสายการบินเส้นทางจีน-ไทยยังอยู่ระดับสูง

ทั้งนี้ ในปี 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กำหนดเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 25-30 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวราว 1.5 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 5 ล้านคน

“ปี 2567 คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยน่าจะกลับมาเท่าเดิม หรือมากกว่า 40 ล้านคน และมีรายได้จากภาคท่องเที่ยวมากกว่าเดิม มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย 10 ล้านคน นักท่องเที่ยวน่าจะออกเดินทางมากขึ้นหลังการระบาดของโควิดคลี่คลาย” นายศิษฎิวัชรกล่าว

นายศิษฎิวัชรเสนอว่า ภาครัฐควรสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน ว่าเมื่อเดินทางมายังประเทศไทยจะได้รับความปลอดภัย ป้องกันข่าวที่ส่งผลลบต่อภาพลักษณ์ของไทย รวมถึงแก้ปัญหาเรื้อรังอย่างรถแท็กซี่มิเตอร์ไม่กดมิเตอร์ และสร้างความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว นำเสนอข่าวสารด้านบวกให้นักท่องเที่ยวจีนรับรู้

นอกจากนี้ ภาคท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่มีความอ่อนไหว มีความเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ภาครัฐควรมีการประสานงานกับภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อรับฟังแนวคิด-เสียงสะท้อนจากภาคเอกชน และกำหนดนโยบายที่ถูกต้องและเหมาะสม

“คนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยว อยากให้ภาครัฐให้ความสำคัญภาคท่องเที่ยวและจำเป็นต้องมีวาระแห่งชาติส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะท่องเที่ยวคือเครื่องจักรสุดท้ายที่ทำให้เศรษฐกิจโตได้ ถ้าท่องเที่ยวดี ก็ช่วยเกื้อหนุนให้ธุรกิจอื่น ๆ เติบโตได้” นายศิษฎิวัชรกล่าว