กงสุลย้ำ ระบบ e-Visa รองรับคำร้องขอวีซ่านักท่องเที่ยวจีนได้ 5 ล้านคนต่อปี

นักท่องเที่ยวจีน
Photo by Jack TAYLOR / AFP

“กรมการกงสุล” กระทรวงการต่างประเทศ เรียกประชุม 9 หน่วยงานครอบคลุมทั้งในมิติการส่งเสริมการท่องเที่ยวและมิติความมั่นคง หารือแนวทางบริหารจัดการการคัดกรองการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยวจีน ย้ำระบบ e-Visa ปัจจุบันรองรับคำร้องขอวีซานักท่องเที่ยวจีนได้ 5 ล้านคนต่อปี

วันที่ 16 มิถุนายน 2566 นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้กรมการกงสุลได้เชิญส่วนราชการ 9 หน่วยงาน ครอบคลุมทั้งในมิติการส่งเสริมการท่องเที่ยว ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และมิติความมั่นคงได้แก่ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมหารือแนวทางบริหารจัดการการคัดกรองการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยวจีน

โดยการประชุมดังกล่าวสรุปสาระสำคัญได้ 5 ประเด็นหลัก ได้แก่

1.ทุกหน่วยงานมีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนให้มากที่สุด ทั้งที่เดินทางเข้าประเทศโดยการรับการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa) หรือการตรวจลงตรา Visa on Arrival (VOA) โดยคำนึงถึงมาตรการการคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ

2.ทุกหน่วยงานรับรองเอกสารประกอบต่าง ๆ ในการขอรับการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวว่ามีความเหมาะสม ครบถ้วน และมีความจำเป็นต่อกระบวนการคัดกรองนักท่องเที่ยว ซึ่งบริษัทกรุ๊ปทัวร์จีนมีความเข้าใจเกี่ยวกับเอกสารประกอบที่คลาดเคลื่อนจึงต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง

ทั้งนี้ การยื่นคำร้องแบบออนไลน์ได้อำนวยความสะดวก โดยผู้ร้องไม่ต้องแสดงตัวตนที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ และเพียงยื่นเอกสารให้ครบตามที่กำหนดก็จะสามารถรับการตรวจลงตราได้ภายใน 7 วันทำการ

นอกจากนี้ กรมการกงสุล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะหารือร่วมกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดทำระบบ/เว็บไซต์เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสำหรับการตรวจสอบเอกสารประกอบคำร้อง และความน่าเชื่อถือของบริษัทนำเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3.ปัจจุบันระบบ e-Visa ระยะที่ 1 มีความพร้อมในการรองรับปริมาณคำร้อง 5 ล้านคนต่อปี และในระยะที่ 2 ซึ่งจะเริ่มใช้ในช่วงปี 2567 จะสามารถรองรับคำร้องได้ 15 ล้านคนต่อปี

4.กรมการกงสุลจะเน้นย้ำกับสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ในจีนเกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านการตรวจลงตราที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้การพิจารณาตรวจลงตราสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ เว้นแต่กรณีที่ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กรมการกงสุลได้มีการกำหนดแนวปฏิบัติเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการตรวจลงตราเพิ่มเติม อาทิ การอำนวยความสะดวก การตรวจลงตราสำหรับคณะที่จะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ซึ่งสามารถยื่นขอรับการตรวจลงตราแบบกลุ่มได้ในลักษณะ one stop service

และ 5.ทุกหน่วยงานเห็นว่าระบบ e-Visa มีมาตรฐานและสามารถคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนโดยคำนึงถึงมิติต่าง ๆ อย่างสมดุล ทั้งนี้ ในระยะที่ 2 จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบให้มีความรวดเร็ว ปลอดภัย มีการเพิ่มภาษาต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงภาษาจีน และมีการขยายการเชื่อมโยงข้อมูลกับส่วนราชการด้านความมั่นคงเพิ่มเติม อาทิ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด