
Booking.com เผยโพลปี 2566 พบนักท่องเที่ยว LGBTQ+ เคยถูกเลือกปฏิบัติขณะเดินทาง ผลแทบไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา แถมความปลอดภัยขณะออกเที่ยวยังน่ากังวล จนไม่สามารถแสดงตัวตนได้อย่างเต็มที่
วันที่ 27 มิถุนายน 2566 รายงานจาก Booking.com เปิดเผยว่า Booking.com ได้จัดทำแบบสำรวจประสบการณ์ด้านการเดินทางของนักท่องเที่ยว LGBTQ+ เพื่อเผยถึงความกังวลใจและความท้าทายที่ชาว LGBTQ+ ต้องเจอระหว่างการท่องเที่ยว โดยสอบถามกลุ่มตัวอย่างผู้เดินทาง LGBTQ+ จำนวน 11,555 คนจาก 27 ประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยจำนวน 210 ราย ทั้งหมดพร้อมเป็นผู้เดินทางที่เตรียมวางแผนการเดินทางในอีก 12 เดือนข้างหน้า จัดทำแบบสอบถามในเดือนมีนาคมและเมษายน 2566
ผลการสำรวจชี้ว่า นักท่องเที่ยว LGBTQ+ ชาวไทยที่ตอบแบบสอบถามจำนวน 76% เคยถูกเลือกปฏิบัติระหว่างเดินทาง ขณะที่ 30% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเคยเผชิญการถูกตัดสินหรือเหมารวม ขณะที่ 22% เคยโดนจ้องมอง หัวเราะเยาะ หรือทำร้ายจิตใจด้วยวาจาจากผู้เดินทางคนอื่น และ 21% ถูกกระทำแบบเดียวกันจากคนในท้องถิ่น ส่วนอีก 15% ระบุว่าเคยถูกผู้บังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่นข่มขู่หรือคุกคามระหว่างเดินทางท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ในการสำรวจของ Booking.com ในปี 2565 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม LGBTQ+ ชาวไทยจำนวน 75% ระบุว่า พวกเขาเคยเผชิญการเลือกปฏิบัติระหว่างเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการถูกตัดสินหรือถูกเหมารวม 34% การโดนจ้องมอง หัวเราะเยาะ หรือทำร้ายจิตใจด้วยวาจาจากผู้เดินทางคนอื่น 29% และจากคนในท้องถิ่น 23%
นักท่องเที่ยว LGBTQ+ กังวลการเลือกปฏิบัติ
รายงานจาก Booking.com เผยว่า จากการสำรวจยังเห็นแนวโน้มนักเดินทาง LGBTQ+ ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลมากขึ้นเมื่อต้องวางแผนเดินทาง หรือแม้กระทั่งหลังจองการเดินทางเรียบร้อยแล้วก็ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนข้ามเพศ (Transgender) ซึ่งปัจจุบันมีถึง 64 ประเทศทั่วโลกที่กำหนดให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นอาชญากรรม และ 11 ประเทศในจำนวนดังกล่าวกำหนดโทษประหารชีวิตสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันอีกด้วย จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เดินทาง LGBTQ+ จะได้มีโอกาสไปเยือนจุดหมายปลายทางเหล่านี้แบบเปิดเผยตัวตน ถึงแม้มีการจัดอีเวนต์สำคัญระดับโลกขึ้นในเมืองนั้น ๆ ก็ตาม
- 85% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทยกล่าวว่า พวกเขาพิจารณาเรื่องความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีในฐานะผู้เดินทางชาว LGBTQ+ เป็นหลัก เมื่อต้องตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยว (เพิ่มขึ้นจาก 73% ในปี 2565)
- 76% ยอมรับว่าข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านทัศนคติ การเลือกปฏิบัติ และการใช้ความรุนแรงต่อ LGBTQ+ มีผลต่อการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางในทริปการเดินทางของพวกเขาเป็นอย่างมาก
- 62% เคยยกเลิกทริปการเดินทางในปีที่ผ่านมาหลังทราบว่าจุดหมายปลายทางที่วางแผนไปเยือนไม่สนับสนุน ชุมชน LGBTQ+ โดยเฉพาะผู้เดินทางที่เป็นกลุ่มคนข้ามเพศมีแนวโน้มยกเลิกทริปถึง 63%
ไม่สามารถแสดงตัวตนได้เต็มที่
นักท่องเที่ยวที่ตอบแบบสอบถาม LGBTQ+ จำนวนมากยังคงรู้สึกถึงข้อจำกัดในการนำเสนอตัวตนและแสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเดินทางที่เป็นกลุ่มคนข้ามเพศ เช่น โดนตั้งคำถาม เมื่ออัตลักษณ์ทางเพศ ชื่อ และรูปลักษณ์ภายนอกไม่ตรงกับข้อมูลที่ระบุในหนังสือเดินทาง
- 68% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทย ยอมรับว่าการเป็น LGBTQ+ ส่งผลต่อการนำเสนอตัวตนของพวกเขา ในแง่ของการเลือกเสื้อผ้าและการแต่งหน้าเมื่อออกเดินทางท่องเที่ยว (ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 75% สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ)
- 35% ระบุว่าพวกเขาจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือกิริยาท่าทางเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตัดสินหรือมีปฏิสัมพันธ์ที่ชวนอึดอัดกับผู้อื่น ในขณะที่ 32% รู้สึกว่าพวกเขาต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหล่านี้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม 89% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ ชาวไทย มองว่าการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน LGBTQ+ ทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นในฐานะผู้เดินทาง (เพิ่มขึ้นจาก 83% ในปี 2565) สะท้อนให้เห็นว่าประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจจากบริการที่เป็นมิตรและพร้อมต้อนรับทุกคน ทำให้ผู้เดินทาง LGBTQ+ รู้สึกมั่นใจที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
แม้ความกังวลเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลจะยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจในการเลือกจุดหมายปลายทางสำหรับการออกท่องเที่ยวของ LGBTQ+ (40%) แต่ยังมีแรงจูงใจเชิงบวกอื่น ๆ ที่ทำให้พวกเขาอยากเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่ ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม (35%) อาหารท้องถิ่นแสนอร่อย (31%) และชายหาดที่งดงาม (32%) ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ส่งผลต่อการเลือกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของพวกเขา
ขณะที่ 94% ของผู้เดินทาง LGBTQ+ เผยว่าพวกเขารู้สึกมั่นใจมากขึ้นที่จะมีส่วนร่วมกับกิจกรรมใดก็ตามที่ตัวเองต้องการ เมื่อได้ออกเดินทางท่องเที่ยว และ 89% มีแนวโน้มที่จะไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาสำหรับชุมชน LGBTQ+ โดยเฉพาะ