วีซ่าฟรี (ยัง) ไม่ตอบโจทย์ นักท่องเที่ยวจีนไม่ขยับ-ซัดรัฐแก้ปัญหาไม่ถูกจุด

Chinese tourists

เป็นข่าวที่สร้างความผิดหวัง (upset)ให้วงการท่องเที่ยวไทยอย่างมากสำหรับข่าวที่รัฐบาลมีแผนที่จะดึงตำรวจจีนมาตรวจแหล่งท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองรองของไทยร่วมกับตำรวจไทย

เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยได้ยกระดับเรื่องความปลอดภัยอย่างไรบ้าง และหวังว่าตำรวจจีนจะไปบอกต่อนักท่องเที่ยวจีน เป็นการยกระดับความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่อไป

และผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนปี 2566 นี้บรรลุเป้าหมาย 4-4.4 ล้านคน

“วีซ่าฟรี” ปลุกตัวเลขจีนไม่ขยับ

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตลาดจีนจำนวนหนึ่งบอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวทางดังกล่าวนี้สะท้อนชัดเจนว่าที่ผ่านมารัฐบาลไม่เข้าใจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเลย โดยเฉพาะตลาดจีนมาตรการที่ออกมาไม่ได้ตอบโจทย์ประเด็นปัญหาที่แท้จริง

ตั้งแต่มาตรการ “วีซ่าฟรี” ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามามากขึ้นแบบมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ หากดูสถิตินักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย จะพบว่าในช่วงก่อนมีมาตรการวีซ่าฟรี (1-23 กันยายน 2566) ซึ่งเป็นโลว์ซีซั่น มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาอยู่ในระดับ 7,000-8,000 คนต่อวัน หลังวีซ่าฟรี (25 กันยายน 2566) นักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว Golden Week ของคนจีน (29 กันยายน-9 ตุลาคม 2566)

แต่หลังจากนั้น (10-31 ตุลาคม 2566) นักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางเข้ามาอยู่ในระดับ 8,000-9,000 คนต่อวัน ใกล้เคียงกับช่วงที่ยังไม่มีมาตรการวีซ่าฟรี (ดูตารางประกอบ) ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงเข้าสู่ high season ของการท่องเที่ยวด้วยซ้ำ

ชี้ให้เห็นว่ามาตรการ “วีซ่าฟรี” ของรัฐบาลยังไม่สามารถขับเคลื่อนนักท่องเที่ยวตลาดจีนได้

รัฐไม่เข้าใจปัญหา-แก้ไม่ถูกจุด

ผู้คร่ำหวอดในตลาดนักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่งบอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ถึงวันนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนยังไม่ออกเดินทาง อาทิ เศรษฐกิจจีนที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง การส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ผ่านมาตรการคุมจำนวนการอนุมัติพาสปอร์ตใหม่ ที่สำคัญ นักท่องเที่ยวกลุ่ม “กรุ๊ปทัวร์” ยังไม่ออกเดินทาง

ทั้ง 3 เรื่องนี้เป็นประเด็นหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนยังออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในจำนวนที่ต่ำ

ส่วนประเทศไทยนั้น แม้ว่าผลการสำรวจจะระบุว่าประเทศไทยคือ จุดหมายปลายทางในใจของนักท่องเที่ยวจีนหลังเปิดประเทศ แต่จากกระแสความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องการหลอกไปทำคอลเซ็นเตอร์ หรือเข้ามาแล้วจะถูกลักตัดตับ-ไตไปขายที่แพร่กระจายในโซเชียลมีเดีย ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเกิดความไม่เชื่อมั่นที่จะเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย

“ประเด็นนี้รัฐบาลต้องเร่งสื่อสารเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาก่อนที่จะเน้นเรื่องการเปิดวีซ่าฟรี”

พร้อมย้ำอีกว่า ยิ่งมาตรการล่าสุดที่จะให้ตำรวจจีนเข้ามาลาดตระเวนในเมืองท่องเที่ยวของไทยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวจีนยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะละเมิดอธิปไตยของคนไทย และส่งผลในด้านความมั่นคงของชาติ

ทั้งหลายทั้งปวงนี้สะท้อนชัดเจนว่า รัฐบาลไม่เข้าใจอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไม่รู้ปัญหา และแก้ไขไม่ถูกจุด

ตาราง นทท

แนะเร่งสร้าง “ความเชื่อมั่น”

“ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร” นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ให้สัมภาษณ์กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัญหาใหญ่ของตลาดจีนวันนี้คือ ประเด็นของความเชื่อมั่น จากกระแสข่าวในโซเชียลมีเดียแพร่กระจายไปทั่วเมืองจีนว่ามาเที่ยวเมืองไทยไม่ปลอดภัย

ดังนั้น ประเด็นการเร่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวไทยเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องรีบแก้

และหากรัฐบาลต้องการให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาที่ 10 ล้านคนจำเป็นต้องกระตุ้นตลาดทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยตัวเองและกลุ่มกรุ๊ปทัวร์

แต่นับตั้งแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ รัฐบาลไทยยังไม่มีการกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่ม “กรุ๊ปทัวร์” ทำให้จำนวนของนักท่องเที่ยวจีนที่ออกเดินทางยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

“การบินไทย” รับจีนยังไม่ฟื้น

สอดรับ “ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์” ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ยอมรับว่า แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะมีมาตรการวีซ่าฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวจีน แต่ดีมานด์การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมา

“เดิมการบินไทยเตรียมคาพาซิตี้ไว้ที่ประมาณ 60% ของปี 2562 แต่ปัจจุบันยังให้บริการเพียงแค่ประมาณ 40% เนื่องจากตลาดจีนยังคงอยู่ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ยังไม่สามารถเพิ่มความถี่ได้ตามแผน”

ทั้งนี้ ประเมินว่าปัจจัยหลักที่ทำให้ดีมานด์การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก

อินเดีย-ไต้หวันดันเป้า 28 ล้านคน

ด้าน “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่า ปี 2566 นี้ ททท.ยังคงกำหนดเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย 25-28 ล้านคน และมีรายได้การท่องเที่ยวรวมที่ 2.38 ล้านล้านบาท (ตลาดในประเทศ 8 แสนล้านบาท)

พร้อมย้ำว่า ส่วนปี 2567 รัฐบาลโดยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ขอปรับเพิ่มรายได้รวมการท่องเที่ยวเป็น 3.5 ล้านล้านบาท (เดิมเป้าหมายจาก 3 ล้านล้านบาท) โดยเน้นเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศเป็น 2.5 ล้านล้านบาท (เป้าหมายเดิม 2 ล้านล้านบาท) และรายได้จากตลาดในประเทศ 1 ล้านล้านบาท เพื่อปูทางสู่เป้าหมายรายได้ตลาดต่างประเทศ 3 ล้านล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า

โดยตั้งแต่ 1 มกราคม-5 พฤศจิกายน 2566 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว 22.62 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจีน 2,833,349 คน สูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากมาเลเซียที่มีจำนวน 3,693,227 คน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงเดินหน้านโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวแบบ quick win อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือ วีซ่าฟรี ชั่วคราวสำหรับนักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน

ทั้งนี้ คาดว่านักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้ โดยเฉพาะ “อินเดีย” และ “ไต้หวัน” ซึ่งได้วีซ่าฟรีชั่วคราวเช่นกัน จะเป็นตลาดสำคัญที่ช่วยผลักดันให้การท่องเที่ยวของไทยบรรลุเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 25-28 ล้านคน สำหรับปีนี้ได้