สัมภาษณ์
“พราว กรุ๊ป” หรือกลุ่มบริษัทพราว เป็นกลุ่มที่สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก โดยเฉพาะการเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์ของเมืองหัวหิน อย่างโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ วานา นาวา หัวหิน สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน
รวมทั้งทรู อารีน่า หัวหิน ศูนย์รวมกีฬาระดับพรีเมี่ยมของเอเชีย และขยายการลงทุนไปยังภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทย โดยปักธงโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต และสวนน้ำอันดา มันดา ภูเก็ต
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้ร่วมสัมภาษณ์ “พราวพุธ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทพราว และกรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ถึงแผนการลงทุนในอนาคต รวมถึงมุมมองต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ไว้ดังนี้
“พราวพุธ” บอกว่า นอกจากธุรกิจในหัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) และภูเก็ต ปัจจุบันกลุ่มบริษัทพราวมีแผนลงทุนในเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในพื้นที่เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) ซึ่งเป็นที่ดินติดหาดของครอบครัวบริเวณอ่าวพังกา โดยคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาสรุปรายละเอียดอีกสักระยะหนึ่ง
ขณะเดียวกันยังมีแผนลงทุนในส่วนต่อขยายของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต ซึ่งได้ซื้อดินเพิ่มเติมมาอีกจำนวน 2 โร่ (ฝั่งภูเขา) ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ และสรุปแผนการลงทุนเพิ่ม
รวมถึงปรับแผนลงทุนเฟส 2 ของ “สวนน้ำอันดา มันดา” ใหม่ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง จากเดิมวางแผนว่าเป็นโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ โดยคาดว่าน่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงประมาณต้นปี 2568
“พราวพุธ” บอกด้วยว่า โรงแรมที่ภูเก็ตนั้นเปิดให้บริการในช่วงที่โควิดเริ่มคลี่คลายและกำลังจะเปิดประเทศ ทำให้มีผลตอบรับที่ดี มีอัตราการเข้าพักเต็มต่อเนื่อง แม้ว่าตลาดจีนจะยังไม่กลับมาเหมือนเดิม แต่ในภาพรวมพบว่านอกจากรัสเซีย สแกนดิเนเวีย (สวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก) แล้วยังมีนักท่องเที่ยวตลาดใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น เช่น ซาอุดีอาระเบีย ยูเครน เป็นต้น
เช่นเดียวกับสวนน้ำที่ได้รับการตอบรับเกินเป้าหมาย เมื่อถึงสิ้นปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการถึงประมาณ 5 แสนคน
ส่วนโรงแรมที่หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) นั้น พบว่าวันนี้ในมีคู่แข่งที่เป็นโรงแรมในระดับลักเซอรี่เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก ทั้งส่วนที่เป็นโรงแรมอินเตอร์เชนและโรงแรมบูทีค ความท้าทายของ “พราวกรุ๊ป” คือการลงทุนเพิ่มเพื่อปรับโฉมโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ให้มีความเป็นลักเซอรี่
เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดในพื้นที่หัวหิน และทำให้สามารถเพิ่มราคาค่าห้องพักได้อีกประมาณ 15% ด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของ “สวนน้ำวานา นาวา” ก็ยังมีการรีโนเวตด้วยเช่นกัน มีเครื่องเล่นใหม่มาเพิ่มอีก 2 ตัว และเพิ่มโซนไดโนเสาร์และโซนบ่อน้ำร้อน เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา และทำให้มีรายได้ที่ดีขึ้น
“เมื่อ 15 ปีก่อนโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ถือเป็นโรงแรมลักเซอรี่แห่งแรกของเมืองหัวหิน จากนั้นก็มีโรงแรมใหม่เกิดขึ้นมากมาย แต่จุดแข็งที่ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของเราคือ เรามีธุรกิจในเครือและพันธมิตรที่หลากหลาย สามารถผนึกพลังกันทำการตลาดได้ ทำให้มีศักยภาพในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น”
และตลอด 15 ปีที่ผ่านมาโรงแรมแห่งนี้มีฐานลูกค้าจำนวนมาก บริษัทจึงพัฒนาโปรแกรม CRM (Customer Relationship Management) ที่สามารถ Tailor-made โปรแกรม สิทธิพิเศษ และกิจกรรมสำหรับลูกค้าแต่ละคนได้ ซึ่งระบบดังกล่าวนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันรายได้ของหัวหินให้เพิ่มขึ้น
“พราวพุธ” ย้ำด้วยว่า อย่างไรก็ตามภาพรวมของตลาดหัวหินนั้นยังเป็นตลาดคนไทย (Domestic) ในสัดส่วนประมาณ 70% ตลาดต่างชาติมีสัดส่วนเพียงแค่ประมาณ 30% ขณะที่ภูเก็ตตลาดหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้รายได้รวมของภูเก็ตเติบโตค่อนข้างสูง
สำหรับปี 2567 นี้ “พราวกรุ๊ป” ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจในหัวหินเพิ่มขึ้น 10% และจากธุรกิจในภูเก็ตเพิ่มขึ้น 20-30% โดยปี 2566 ที่ผ่านมาธุรกิจในภูเก็ตจะมีสัดส่วนรายได้รวมที่ประมาณ 60% ของรายได้รวม