โครงการ “ลานนาทีค” (LANNATIQUE) เป็นการลงทุนในเมกะโปรเจ็กต์ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท ของกลุ่ม AWC หรือบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ตั้งใจพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์กที่ใหม่ หรือเดสติเนชั่นด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ และหนุนให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของนักท่องเที่ยว
มีพื้นที่รวมกว่า 100 ไร่ ครอบคลุมเชื่อมโยงหลายพื้นที่เข้าด้วยกัน ตั้งแต่ถนนช้างคลาน ไนท์บาซาร์ ตลาดอนุสาร ฯลฯ ไปจนถึงริมน้ำปิง
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯเตือน รับมือฝนตกหนักอีกรอบ 17-19 พ.ค.นี้ หนักสุดถึง 70% ของพื้นที่
ทั้งนี้ ตามแผนการลงทุนโครงการนี้จะมีโครงการต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์รวมศิลปะ ความบันเทิง ฯลฯ รวมถึง 12 โครงการ โดยมีโครงการที่ลงทุนไปแล้ว และอยู่ระหว่างการพัฒนามูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท
อาทิ โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โครงการ เดอะพันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เป็นต้น
ทุ่มหมื่นล้านต่อยอด “ลานนาทีค”
“วัลลภา ไตรโสรัส” ซีอีโอ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ “แอสเสท เวิรด์ คอร์ป” หรือ AWC บอกว่า โครงการ LANNATIQUE เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ระดับโลก บริเวณพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใจกลางเมืองเชียงใหม่
เป็นการลงทุนตามกลยุทธ์การเติบโต (GROWTH-LED Strategy) ของ AWC
โดยล่าสุดที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ได้อนุมัติการเข้าลงทุนในทรัพย์สินบนพื้นที่ยุทธศาสตร์แปลงกลางเมืองของย่านช้างคลาน เชียงใหม่ในอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ “เชียงใหม่ ไนท์ บาซาร์” โครงการ “กาแล ไนท์ บาซาร์” และโครงการ “เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่
โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่ จำกัด บริษัท เพิ่มทรัพย์สิริ 2 จำกัด และบริษัท กาแล ช้างคลานเชียงใหม่ จำกัด จากผู้ถือหุ้นเดิม (บริษัทในกลุ่มของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี) เพื่อพัฒนาเป็นโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น” จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ระดับโลกใจกลางเมืองเชียงใหม่ ประกอบด้วย โรงแรม ห้างค้าปลีก และพื้นที่เชิงพาณิชย์
ด้วยงบฯลงทุนและพัฒนาในครั้งนี้รวมมูลค่า 11,950 ล้านบาท
ยึดทำเล “ย่านช้างคลาน”
“วัลลภา” บอกด้วยว่า การเข้าลงทุนในโครงการเชียงใหม่ ไนท์ บาซาร์, กาแล ไนท์ บาซาร์ และเดอะ พลาซ่า เชียงใหม่ ครั้งนี้เป็นการลงทุนเพิ่มในทรัพย์สินบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านช้างคลานของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อต่อยอดการพัฒนาโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น”
สนับสนุน “เชียงใหม่” สู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ด้วยโครงการโรงแรมภายใต้แบรนด์ระดับลักเซอรี่ สวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ จุดหมายปลายทางที่ผสมผสานงานศิลปวัฒนธรรมล้านนา ดนตรี การแสดง ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมความสุข ความสนุกสนาน และความอร่อยหลากหลาย
โดยจะเริ่มเปิดให้บริการเฟสแรกในปลายปี 2567 นี้ และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในช่วงเวลา 5 ปีนับจากนี้
ศูนย์กลางงานศิลปะระดับโลก
“วัลลภา” บอกว่า การพัฒนาครั้งนี้ดำเนินการภายใต้เอกลักษณ์อันโดดเด่นในด้านศิลปะ อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวท้องถิ่นและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก
ตั้งแต่ผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม คนรักงานศิลปะ กลุ่มเพื่อน คู่รัก ครอบครัว ในทุกเจเนอเรชั่น ประกอบไปด้วยแนวคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่
สร้างศูนย์กลางงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุด สะท้อนคุณค่าและเสน่ห์ของงานศิลปวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของล้านนา งานช่างสิบหมู่ ไปจนถึงแรงบันดาลใจ และงานศิลปะร่วมสมัย ศิลปะนานาชาติ ศิลปะดิจิทัล และการออกแบบเชิงนวัตกรรม สร้างศูนย์กลางแห่งแรงบันดาลใจและความสวยงามสำหรับทุกคนจากทั่วโลกที่รักในงานศิลปะ รวมถึงวงการนักลงทุนและนักสะสมงานศิลปะระดับโลก
สร้างจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์และความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ ทั้งดนตรี การแสดง และความสนุกสนานมากมาย พร้อมด้วยสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกในภาคเหนือ
ตลาดไลฟ์สไตล์ ฟู้ดเลานจ์ แหล่งรวมความสนุก ความอร่อยมากมาย และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการที่จะร่วมสร้างคุณค่า เพื่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ปั้นปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนโลก
“วัลลภา” บอกอีกว่า เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว และส่งเสริมการสร้างงานและเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างความแข็งแกร่งให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในด้านศิลปะ อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และเอ็นเตอร์เทนเมนต์
สนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม ที่ผสมผสานงานศิลปะทุกแขนงเข้าไปกับพื้นที่ เชื่อมคุณค่าจากอดีตสู่แรงบันดาลใจในอนาคต ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกกว่า 10 ราย ที่จะมาช่วยสร้างไฮไลต์ให้กับแลนด์มาร์กใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่แห่งนี้
ทั้งนี้ เพื่อร่วมสร้างคุณค่าและการเติบโตร่วมกันให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง สนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่และในภาคเหนือ ด้วยการรวมพลังผ่านการจัดงาน เชิญกลุ่มศิลปิน ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้าที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและวัฒนธรรมล้านนาในแขนงต่าง ๆ
โดยเชื่อมั่นในคุณค่าศิลปวัฒนธรรมของไทย และศิลปะล้านนา ที่ทรงคุณค่ามายาวนาน และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลก
