
สัมภาษณ์พิเศษ
เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) หนึ่งในโครงการใหญ่ของรัฐบาลไทย ที่ตั้งเป้าหมายเป็นเมกะโปรเจกต์ สร้างรายได้เข้าประเทศ สร้างการจ้างงาน ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณากฎหมาย เพื่อเป็นหลักในการพิจารณาและกำกับดูแลธุรกิจนี้
เมื่อพูดถึง “คอมเพล็กซ์” หนึ่งในแบรนด์ผู้พัฒนาที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักระดับโลก คือ Galaxy Entertainment Group ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Galaxy Macau พื้นที่ Integrated Resort (IR) 1 ใน 6 ของมาเก๊า ที่ครบวงจรทั้งโรงแรม 9 แบรนด์ ศูนย์การค้า ศูนย์การประชุมและการแสดง และแบรนด์นี้มีความสนใจที่จะลงทุนใน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้ร่วมพูดคุยกับ เควิน เคลย์ตัน (Kevin Clayton) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายแบรนด์ กาแล็กซี รีสอร์ต ประเทศไทย มองภาพการทำ “คอมเพล็กซ์” จากประสบการณ์ที่ผ่านมา และเปิดมุมมองว่า ทำไมประเทศไทย ควรมีสิ่งนี้
ตลาดเอเชีย “ชนชั้นกลาง” เติบโตสูง
เควิน มองว่าตลาดการท่องเที่ยวในเอเชียกำลังเติบโตอย่างมาก สืบเนื่องมาจากการขยายตัวของชนชั้นกลางในภูมิภาคนี้ โดย 70% ของการเติบโตของชนชั้นกลางทั่วโลกจะเกิดในเอเชีย ดังนั้นหากเรามองไปยังอนาคต เอเชียคือจุดหมายหลักของการลงทุนในสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว
ส่วนประเทศไทย เป็นอันดับ 8 ของโลกในแง่จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว (อ้างอิงข้อมูลปี 2019 มีนักท่องเที่ยว 39 ล้านคน) แต่ช่วงหลังมานี้ ไทยยังฟื้นตัวกลับสู่ระดับเดิมไม่ได้ ปัญหาหลักคือเทรนด์ของนักท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนไปเดินทางในประเทศใกล้เคียงมากขึ้น ส่วนไทยยังมีปัญหาที่เขย่าความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีนใน 2 ด้าน คือ
- ค่าใช้จ่าย – ไทยกลายเป็นประเทศที่มีการใช้จ่ายที่แพงขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวจีน
- ความปลอดภัย – มีปัญหาเกี่ยวกับการหลอกลวง หรือเหตุการณ์อาชญากรรมบางอย่างตามที่เป็นข่าว
อย่างไรก็ตาม โอกาสของไทยคือการเปลี่ยนมุมมองจาก การท่องเที่ยวแบบเน้นปริมาณ (volume) ไปสู่ การท่องเที่ยวแบบเน้นมูลค่า (value) ดึงนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายให้มากขึ้น เพราะจากการเติบโตของชนชั้นกลางในเอเชีย นักท่องเที่ยวพร้อมที่จะจ่ายแพงขึ้นเพื่อสิ่งที่หรูหราและมีคุณภาพสูง ดังนั้นพวกเขาจะมองหาประสบการณ์แบบครบวงจร เช่น พักในรีสอร์ตระดับ 5 ดาว, การรับประทานอาหารระดับพรีเมี่ยม, ใช้บริการหรือเข้าชมความบันเทิงคุณภาพสูง
ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายในเรื่องของการส่งเสริมการการท่องเที่ยว โดยต้องการเพิ่มสัดส่วน GDP จาก 20% เป็น 30% และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจาก 40 ล้าน เป็นมากกว่า 50 ล้านคน
“กาสิโน” ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด
เควิน เชื่อว่าการผสมผสานวัฒนธรรมไทยที่เป็นเอกลักษณ์กับประสบการณ์หรูหรา จะเป็นสูตรที่สำคัญ เช่น พารากอน ก็ถือว่าเป็นสถานที่ช็อปปิ้งระดับโลก และยังมีโรงแรมอย่าง Capella กับ Four Seasons ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์หรูระดับสากล แต่นักท่องเที่ยวในอนาคตกำลังมองหาสถานที่ที่มีประสบการณ์หลากหลายในที่เดียว พร้อมจ่ายเงินเพื่อสิ่งเหล่านั้น เช่น: โรงแรมหรู, ศูนย์ประชุม (สำหรับนักธุรกิจ), แหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารหลากหลาย, โรงละครหรือโชว์ความบันเทิง และอาจมีกาสิโนด้วย
แต่กาสิโนไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ของคอมเพล็กซ์แบบนี้ มันเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายที่อยากเน้นคือ พวกเราตื่นเต้นกับโอกาสในการลงทุนที่นี่ และเราพร้อมจะลงทุน มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ใน กรุงเทพมหานคร
การลงทุนนี้จะขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลและประชาชนไทย เปิดรับและสนับสนุนเราในฐานะนักลงทุนหรือไม่ ถ้าใช่ เราก็พร้อมจะสร้างสิ่งที่เป็นแลนด์มาร์กใหม่ในกรุงเทพฯ ที่จะเป็นความภูมิใจของคนไทย
ทั้งนี้ เควิน ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า เมื่อบริษัทขนาดใหญ่อย่าง Galaxy ต้องการจะเข้าสู่ตลาดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือประเทศไทย จะทำการประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุนก่อน ซึ่งการศึกษาความเป็นไปได้นี้ จะพิจารณาจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค เช่น สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต
เราศึกษาว่ารัฐบาลมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดอะไรเกี่ยวกับการลงทุน และพวกเขาทำให้การลงทุนในประเทศไทย เป็นเรื่องง่ายหรือไม่ นอกจากนี้ เรายังดูถึงความพร้อมด้านการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ และที่สำคัญคือ การยอมรับของประชาชนในประเทศนั้น ๆ ในกรณีนี้คือประชาชนชาวไทย ว่ามีทัศนคติเชิงบวกต่อการลงทุนหรือไม่ เพราะเราต้องการให้การลงทุนได้รับการตอบรับอย่างดี
ปักหมุดลงทุนกรุงเทพฯ
คนอยากเห็นการลงทุนในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย เช่น ภาคเหนืออย่างเชียงใหม่ หรือภาคใต้อย่างภูเก็ต แทนที่จะลงทุนแค่กรุงเทพฯ ซึ่งเราเข้าใจดีและพร้อมพิจารณาความเป็นไปได้ตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่
เควิน ให้ข้อมูลว่า รัฐบาลไทยได้เสนอแผนไว้ (ยังไม่เป็นกฎหมาย) ว่าจะมีใบอนุญาตสำหรับ Entertainment Complex ประมาณ 5 แห่ง ซึ่งเป็นไปได้ว่า 2 แห่งจะอยู่ในกรุงเทพฯ และอีก 3 แห่งในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ซึ่งยังไม่ได้ตัดสินใจแน่ชัด อุตสาหกรรม Entertainment Complex จะลงทุนในพื้นที่เหล่านั้น
แต่บริษัท Galaxy Resorts Thailand สนใจสร้างโครงการขนาดใหญ่มาก และด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยว ดังนั้นอาจมีคอมเพล็กซ์บันเทิงในพื้นที่อื่นด้วย แต่ขนาดอาจไม่ใหญ่เท่ากัน
ขณะที่มิติของนักท่องเที่ยว เควิน มองว่า นักท่องเที่ยวเอเชียจะเป็นกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะจีนเพราะอยู่ใกล้ และจำนวนคนที่เป็นชนชั้นกลางของจีนมีมากและยังอายุน้อย กลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก 150 ล้านคนปีนี้ เป็น 200-250 ล้านใน 5 ปีข้างหน้า
นักท่องเที่ยวหลักที่มา กรุงเทพฯ จะเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน และมีนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และนักท่องเที่ยวชั้นกลางจากอินเดียซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ในช่วง 20-30 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวเอเชียจะมีสัดส่วนมาจากจีนและอินเดีย
มองรายได้-โมเดลกาสิโนแบบ ‘มาเก๊า’
เศรษฐกิจของมาเก๊า มีรายได้จากการพนันในมาเก๊าประมาณ 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนรายได้จากส่วนที่ไม่ใช่การพนันประมาณ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
เควิน ให้เหตุผลที่กาสิโนสร้างรายได้มาก เพราะคนชอบเล่นกาสิโน นี่เป็นธรรมชาติของนักพนันชาวเอเชีย ผู้บริโภคชาวเอเชียชอบการพนัน และชาวออสเตรเลียก็ชอบเหมือนกัน ไม่ใช่แค่เอเชีย แต่เป็นภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก คนที่ไปทานข้าวหรือดูโชว์มักจะไปกาสิโนด้วย อาจใช้เงินแค่ 100 บาท หรือ 1,000 หรือ 5,000 บาท อาจไปปีละ 1 ครั้ง หรือ 3-4 ครั้ง
ทั้งนี้ มาเก๊า เริ่มอนุญาตให้จัดตั้งกาสิโน ภายใต้การกำกับของกฎหมายและภาครัฐ มาตั้งแต่ปี 2005-2006 ซึ่งออกใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการ 6 ราย พร้อมเพิ่มมาตรการควบคุมอย่างเข้มข้น ตลาดกาสิโนในมาเก๊าถูกตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระอย่างเช่น International Financial Task Force (IFTF)
ขณะเดียวกัน ธุรกิจกาสิโนและธุรกิจบันเทิง อย่าง Galaxy ก็มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ทำให้ความโปร่งใสในการทำธุรกิจ ยิ่งต้องมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการป้องกันการฟอกเงิน (Anti-Money Laundering) รวมถึงมีระบบ Suspicious Transaction Report (STR) ในการตรวจสอบธุรกรรมและความโปร่งใสของผู้ทำธุรกรรม เช่นเดียวกับธนาคารและสถาบันการเงิน
ผู้ที่จะเล่นกาสิโนต้องสมัครสมาชิก ได้รับบัตร และใช้บัตรนี้ในการเล่น ทุกธุรกรรมจะถูกติดตามผ่านบัตร ดังนั้น ทุกข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล บัตรลูกค้า และกล้องวงจรปิด ในอนาคต AI จะช่วยรวบรวมข้อมูลจากทุกช่องทางให้ตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์
เมื่อคุณทำธุรกรรม จะมีระบบที่เรียกว่า KYC (Know Your Customer) คุณต้องยืนยันตัวตนด้วยพาสปอร์ตหรือบัตรประชาชน หากไม่ให้ข้อมูลครบถ้วน หรือมีรายการต้องสงสัยเกิดขึ้น จะถูกสอบสวนทันที และรายงานในระบบ STR จะถูกยื่นในการตรวจสอบด้วย
“พนันยั่งยืน” ต้องปลอดภัย และจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ ธุรกิจการพนันที่อยู่ในระบบ มักมีสิ่งที่เรียกว่า “การพนันอย่างยั่งยืน (Sustainable Gaming)” โดยเควิน อธิบายว่า เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และสบายใจให้สำหรับลูกค้า ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาสังคมจากการพนัน
เควินมองว่า ประเทศไทยมีปัญหาด้านการพนันมาโดยตลอด ตลาดการพนันของไทยประเมินไว้ที่ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และส่วนใหญ่มาจากกาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมายจากต่างประเทศ คนจำนวนมากยังเดินทางไปเล่นกาสิโนที่ชายแดนหรือในต่างประเทศ เช่น มาเก๊า หรือสิงคโปร์
อีกทั้งมีการวิจัยโดยสื่อไทยว่ามีคนประมาณ 6 ล้านคนที่เสี่ยงต่อปัญหาจากการพนัน แต่ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีระบบดูแล เช่น สายด่วนช่วยเหลือ หรือระบบควบคุม ไม่มีระบบรับผิดชอบทางสังคม ไม่มีระบบต่อต้านการฟอกเงิน ซึ่งถือว่ามีปัญหาใหญ่
Entertainment Complex จะสามารถนำโครงสร้างทั้งหมดเข้ามา เช่น ระบบความรับผิดชอบ, AML, การช่วยเหลือผู้มีปัญหา แม้จะไม่สามารถขจัดปัญหาทั้งหมดได้ แต่สามารถควบคุมได้ให้อยู่ในระดับต่ำ เหมือนประเทศอย่างสิงคโปร์ที่มีเพียง 1-1.5% เท่านั้นที่จัดเป็นนักพนันที่มีปัญหา
สิ่งสำคัญคือการ “จัดการ” และมี “ระบบช่วยเหลือที่ดี” ให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ บริษัทของเราทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อสนับสนุนโครงการเหล่านี้
ทุกส่วนต้องร่วมสร้างระบบ แก้ปัญหาการพนัน
ปัญหาการพนัน อาจจะเป็นเรื่องยากที่สามารถทำให้ไม่มีใครมีปัญหาการพนันได้ แต่สามารถลดผู้มีปัญหาการพนันได้ โดยเควิน มองว่าต้องมีระบบการสื่อสารที่เหมาะสมก่อน แต่ไม่ได้หมายถึงแค่ถามว่า “คุณมีปัญหาการพนันหรือเปล่า” เท่านั้น หมายถึงการสามารถระบุพฤติกรรมที่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาการพนันได้ โดยมี 3 ข้อหลัก
- คุณต้องฝึกอบรมพนักงานให้สามารถระบุผู้ที่มีความเสี่ยงได้
- คุณควรติดสื่อประชาสัมพันธ์ไว้ทั่วบริเวณ เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนสังเกตพฤติกรรมของตัวเอง เช่น “คุณกำลังมีความเสี่ยงหรือเปล่า?” หรือ “สิ่งนี้คล้ายกับตัวคุณไหม?” พร้อมข้อมูลการติดต่อบริการช่วยเหลือต่าง ๆ
- ร่วมมือกับกลุ่มสังคมที่ให้บริการให้คำปรึกษาและการฟื้นฟู ทั้งสายด่วนตลอด 24 ชั่วโมงและบริการด้านจิตสังคมอื่น ๆ
โดยทั้งหมดนี้ ทุกภาคส่วนทั้งธุรกิจ หน่วยวิจัย กลุ่มชุมชน และรัฐบาล ต้องร่วมกันทำงานเพื่อสร้างระบบนิเวศสำหรับการพนันอย่างรับผิดชอบ และเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมแบบยั่งยืนที่ประกอบไปด้วยหลายองค์ประกอบ
“คอมเพล็กซ์” พัฒนาเศรษฐกิจอย่างไร ?
เควินเล่าว่า การมี “คอมเพล็กซ์” จะช่วยเศรษฐกิจไทยในหลายรูปแบบ ทั้งรัฐจะมีรายได้มหาศาลจากภาษีการพนัน (เช่น 15%) เอกชนจะช่วยรัฐบาลสร้างระบบควบคุมการพนัน สร้างงานนับหมื่นงาน ดึงดูดนักท่องเที่ยว และกระตุ้น GDP ของประเทศ
เควิน ยกตัวอย่าง Galaxy Resorts Macau ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 20,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น โดยหากเราลงทุนใน Entertainment Complex ขนาดใกล้เคียงกันในกรุงเทพฯ เราจะสามารถสร้างงานได้นับพันตำแหน่ง และหลายตำแหน่งนั้นจะเป็นโอกาสสำหรับเยาวชนไทย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ โดยเริ่มโครงการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะทันที เพราะการฝึกคนให้มีคุณภาพต้องใช้เวลา และบริการที่ดีมาจากคนที่ดีที่สุด การมีคนที่ดีที่สุดก็มาจากการลงทุนในการฝึกอบรม
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา Galaxy Resorts มีโครงการฝึกงานและมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ปัจจุบันเรามีพนักงานชาวไทยราว 200 คนในมาเก๊า มีทั้งเชฟ พนักงานบริการในร้านอาหาร สปา และแผนกต้อนรับโรงแรม รวมถึงได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยไทย 6 แห่ง เพื่อส่งเสริมการฝึกงานภาคบริการ ดำเนินมาแล้วประมาณ 1-2 ปี โดยมีผู้ผ่านการฝึกอบรมมากกว่า 1,000 คน ซึ่งหลายคนเป็นชาวไทย
เควิน มองว่าคนไทยมีทักษะการบริการที่ดีมาก มีความยืดหยุ่น และพร้อมจะเรียนรู้เพื่อเป็นผู้นำในด้านการบริการ
ขณะที่มิติของรายได้ของประเทศนั้น เควิน แชร์ไอเดียว่า รายได้หลัก ๆ ที่เข้าสู่ประเทศ คือ ภาษีการพนัน (Gambling Tax) ซึ่งคิดจาก รายได้รวมจากการพนัน (Gross Gambling Revenue) รัฐบาลจะกำหนดเปอร์เซ็นต์ของภาษีตามขนาดของการลงทุน ตลาด และศักยภาพในการเติบโต ในกรณีนี้ รัฐบาลได้ประกาศการลงทุนขั้นต่ำไว้ที่ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับแต่ละ Entertainment Complex ภาษีการพนันยังไม่ได้ประกาศ แต่จะมีออกมาในภายหลัง
นอกจากนี้ บริษัทยังจะต้องลงทุนร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อทำกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ไม่ใช่แค่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวสู่ Entertainment Complex แต่เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศไทย รวมถึงงบประมาณที่ช่วยรัฐบาลในเรื่อง การพนันอย่างมีความรับผิดชอบ การให้บริการสนับสนุนผู้มีปัญหา และการดำเนินการในเชิงสังคม
รวมถึงภาษีเงินได้ จากพนักงานหลายพันคนที่จะได้รับการจ้างงาน และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากสินค้าและบริการ และเกิดการสนับสนุนธุรกิจ SMEs ในท้องถิ่น โดยใช้ซัพพลายเออร์ท้องถิ่น ทั้งเรื่องก่อสร้าง การซ่อมแซม อาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งทำให้ธุรกิจท้องถิ่นเหล่านี้ก็จะเติบโตและจ่ายภาษีเพิ่มเติมอีกด้วย
เสนอไทย “กาสิโน” ควรอยู่ที่ 5% ของพื้นที่
เราหวังว่าจะลงทุนหลายพันล้านในไทย และต้องเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จทั้งสำหรับประเทศ ประชาชน และผู้ถือหุ้นของเรา เราคิดว่าถ้ามีศูนย์บันเทิงจำนวนเหมาะสมในสถานที่เหมาะสม มันจะประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกฎหมายศูนย์บันเทิงด้วย ถ้ากฎเข้มเกินไป ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็จะลดลง ดังนั้นจึงสำคัญที่จะต้องรวมทุกกลุ่มผลประโยชน์และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาหารือกันและหาข้อตกลงเร็ว ๆ เพื่อทำให้สิ่งนี้เป็นประโยชน์กับประเทศ ประชาชน และนักลงทุน
บริษัทเสนอว่าในโครงการ Entertainment Complex พื้นที่ของกาสิโนควรน้อยกว่า 10% และควรอยู่ที่ราว 5% ของพื้นที่ทั้งหมด ที่เหลือ 95% ควรเป็นโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สถานจัดแสดง และอื่น ๆ
แม้กาสิโนจะมีพื้นที่เพียง 5% แต่มันสร้างรายได้ถึง 80% ซึ่งสามารถนำไปสนับสนุนบริการอื่น ๆ ทั้งหมด เช่น คอนเสิร์ต ร้านอาหาร และกิจกรรมไม่เกี่ยวกับการพนัน
พร้อมหนุนภาครัฐ สื่อสารถูกต้อง ประชาชนเข้าใจ
ที่ผ่านมา ประเด็นเกี่ยวกับ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” มักมีความเห็นเกิดขึ้นเป็นสองฝั่ง มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
ในประเด็นนี้ เควิน มองว่า ประชาชนต้องรู้สึกสบายใจและเห็นด้วยก่อน และการจะทำให้พวกเขารู้สึกเช่นนั้น ต้องทำให้คนเข้าใจถึงขนาดของโอกาสทางการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาใน ‘คอมเพล็กซ์’ ต้องมีความเข้าใจว่าโครงการนี้จะมอบอะไรให้กับประชาชนไทย ทั้งในด้านขอบเขต และขนาดของผลประโยชน์
ต้องมีความเข้าใจในข้อจำกัดบางประการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับกาสิโน เช่น ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าไปในกาสิโนได้ ไม่ว่าจะด้วยอายุ หรือเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ผู้ที่มีหนี้สิน หรืออยู่ในโครงการช่วยเหลือทางสังคม เป็นต้น เพราะเราต้องการให้ธุรกิจนี้ดำเนินไปอย่างยั่งยืน และวิธีเดียวที่จะทำให้เกิดการดำเนินงานอย่างยั่งยืนได้ก็คือ การวางเงื่อนไขเพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนรู้สึกปลอดภัย และไม่ได้รับอันตรายจากการพนัน
ดังนั้นเรื่องการป้องกันปัญหาการพนัน และการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในอุตสาหกรรมของเรา เราต้องการให้ประชาชนไทยเข้าใจว่า เราเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้ในเรื่องนี้เป็นอย่างดี และเราอยากให้พวกเขารู้ว่า ถ้าเราจะมีธุรกิจที่ยั่งยืน เงื่อนไขเหล่านี้ต้องมีอยู่ และต้องมีความเข้มงวด โปร่งใสในการทำธุรกิจนี้ด้วย
เควิน ยังระบุต่อว่า ต้องการให้ประชาชนไทยเข้าใจว่า ถ้าเราจะลงทุนจำนวนมาก เราก็ต้องการวางเงื่อนไขทั้งหมดเหล่านี้ไว้ให้ชัดเจน และต้องการทำงานร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อวางเงื่อนไขเหล่านี้ให้ชัดเจน และให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจ ปลอดภัยในข้อตกลงนี้
นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง เพราะผู้คนอ่านแต่พาดหัวข่าว โดยไม่ได้รับรายละเอียดเชิงลึก ดังนั้นผมคิดว่ายิ่งเราสื่อสารรายละเอียดออกสู่สาธารณะมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี มากกว่าการปล่อยให้เกิดความเข้าใจผิด ผมคิดว่า มีข้อมูลที่บิดเบือนจำนวนมากถูกเผยแพร่ออกไปในตลาด อาจจะด้วยเหตุผลหลายอย่าง จากกลุ่มที่มีผลประโยชน์ต่าง ๆ
ดังนั้น การนำเสนอข้อเท็จจริงให้กับประชาชนจะช่วยให้เข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้นและ Galaxy Resorts Thailand มีความสนใจอย่างมากที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น