ดัชนีท่องเที่ยวไทยปี”61 ชี้ชัด “รายได้-นักท่องเที่ยว” หลุดเป้า

คาดการณ์กันว่าสำหรับปี 2561 นี้ประเทศไทยจะมีรายได้จากภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มูลค่า 3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 2 ล้านล้านบาท และตลาดเที่ยวในประเทศอีก 1 ล้านล้านบาท

แต่ทันทีที่ประเทศไทยเกิดเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเริ่มชะลอตัวลง โดยเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่เดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมาที่นักท่องเที่ยวจีนปรับตัวลดลงในสัดส่วน 0.87% และ 11.77% ตามลำดับ

“นักท่องเที่ยว” Q3 วูบ

“อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ให้ข้อมูลว่า จากการทำสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยช่วงไตรมาส 3/2561 และแนวโน้มในไตรมาส 4/2561 โดยคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยในไตรมาส 3/2561 เท่ากับ 96 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติเล็กน้อย โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8.90 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.37% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนโดยปัจจัยกดดันจากนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีส่วนทำให้การค้าโลกชะลอลง อัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มอ่อนค่าตามการไหลกลับของเงินทุนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น

ประกอบกับความเชื่อมั่นสกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจที่เกิดใหม่ลดลงจากปัจจัยวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศตุรกี ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการที่สหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรอิหร่าน ส่งผลให้ซัพพลายน้ำมันในตลาดโลกขาดแคลน รวมถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ

นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้ผู้ประกอบการยังคงกังวล คือ การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น (26%) การเป็นช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว (21%) และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว (20%)

“รายได้-จำนวน” ทั้งปีต่ำกว่าเป้า

สำหรับแนวโน้มความเชื่อมั่นในช่วงไตรมาส 4/2561 นั้น คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 103 ซึ่งสูงกว่าปกติเล็กน้อย สะท้อนว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้นตามลำดับจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว การขยายตัวของสายการบินต้นทุนต่ำ และการเดินทางที่สะดวกขึ้น รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 8.81 ล้านคน ลดลง 5.17% จากไตรมาสเดียวกับของปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังมีความกังวลในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจของไทยที่อาจฟื้นตัวช้า การแข่งขันในธุรกิจท่องเที่ยวที่รุนแรงและต้นทุนที่สูงขึ้น

ดังนั้น จึงคาดว่าในปี 2561 นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 37.19 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.08% เมื่อเทียบกับปี 2560 จากเดิมที่คาดว่าน่าจะมีจำนวนถึงกว่า 39 ล้านคน และสร้างรายได้รวมที่มูลค่า 1.97 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.16% เมื่อเทียบกับปี 2560 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่จำนวน 2 ล้านล้านบาท (ดูตารางประกอบ)

คาดตัวเลขจีนปีนี้ 9.9 ล้านคน

สำหรับสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนนั้น “อิทธิฤทธิ์” ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม) ปี 2561 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนรวม 6.86 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในเดือนกรกฎาคม (เกิดเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต) มีนักท่องเที่ยวจีน 9.3 แสนคน ลดลง 0.87% ทำให้ยอดรวมนักท่องเที่ยวจีนในช่วงไตรมาส 3/2561 มีจำนวน 2.21 ล้านคน ลดลง 17.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560

และคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2561 นี้จะมีนักท่องเที่ยวจีน 1.85 ล้านคน ลดลงราว 25.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในปี 2561 นี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ประมาณ 9.9 ล้านคน

ทุกตลาดเติบโตหมดยกเว้นจีน

ด้าน “วิชิต ประกอบโกศล” นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เสริมในฐานะผู้ประกอบการท่องเที่ยวอินบาวนด์ (ขาเข้า) ว่า หากประเมินภาพรวมในทุกตลาดสำหรับปีนี้เชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยน่าจะขยายตัวได้ในอัตราไม่ต่ำกว่า 8% และน่าจะยังคงเป็นตลาดที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยสูงกว่าทั่วโลกที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ราว 5%

การคาดการณ์แนวโน้มดังกล่าวนี้สะท้อนชัดเจนว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยยังแข็งแรง โดยเฉพาะตลาดเอเชียที่ขยายตัวในอัตราที่สูงอาทิ ฮ่องกงขยายตัว 25% ไต้หวันขยายตัว 20% อินเดียขยายตัว 12% มาเลเซียและฟิลิปปินส์ขยายตัว 11% เวียดนามขยายตัว 8.5% ขณะที่ตลาดยุโรปยังคงขยายตัวในอัตราที่ราว 3-5% ต่อเนื่อง ยกเว้นรัสเซียที่ขยายตัวได้ถึง 14% และกลุ่มประเทศในยุโรปตะวันตกที่ขยายตัวได้ในอัตรากว่า 10% เช่นกัน

เรียกว่าทุกตลาดยังคงมีศักยภาพในการเติบโตในเชิงบวกได้ทั้งหมด ยกเว้นเพียงแค่ตลาดจีนเท่านั้นที่ “หัวทิ่ม” ผิดจากที่คาดการณ์ไว้ ที่สำคัญยังประเมินยากว่าตลาดจีนจะพลิกฟื้นกลับมาภายในสิ้นปีนี้ได้หรือไม่ !