“พิพัฒน์” ลุยต่อ “ทราเวลบับเบิ้ล” กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป กันยายนนี้

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

“พิพัฒน์” สั่งลุยต่อ “ทราเวลบับเบิ้ลเลเชอร์” หลัง ศบค.ผ่อนปรนต่างชาติ 4 กลุ่มเดินหน้าเข้าไทยได้พร้อมกักตัว 14 วัน เชื่อมั่นหาก 4 กลุ่มไร้ปัญหา กันยายนนี้! เลเชอร์เริ่มเดินทางได้ แง้มอาจจับคู่เฉพาะบางเมือง เลี่ยงติดเชื้อระลอก 2-3 ในกลุ่มประเทศจับคู่ ด้าน 4 กลุ่มกำหนดกรอบแล้วคาดเดินทางสิงหาคม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจาก ศบค.อนุมัติในหลักการให้มีการผ่อนคลายมาตรการเพื่อเปิดให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มเดินทางเข้ามาในประเทศไทย กระทรวงท่องเที่ยวฯ ก็เร่งดำเนินการศึกษาการจับคู่ประเทศเพื่อเปิดการเดินทางระหว่างประเทศอย่างจำกัดหรือ travel bubble สำหรับกลุ่มท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะกลุ่มไฮเอนด์ที่จะเปิดให้เดินทางเข้ามาก่อน

โดยคาดว่าหากการเปิดเดินทาง 4 กลุ่มที่ได้รับการผ่อนคลายจาก ศบค. ในเดือนสิงหาคมไม่เกิดปัญหา คาดว่าจะสามารถเปิดการเดินทางเพื่อพักผ่อนหย่อนใจในพื้นที่ที่ได้ศึกษาและได้ทำประชาพิจารณ์ไว้ในเบื้องต้นแล้วอย่างภูเก็ต กระบี่ สมุย ฯลฯ ได้ในเดือนกันยายน  เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทยที่ไม่สามารถอยู่รอดได้หากขาดตลาดต่างประเทศ

“แม้ว่าตอนนี้เราจะสนับสนุนให้คนไทยออกไปท่องเที่ยวไทย แต่ผู้ประกอบการก็ยังอยู่รอดยาก เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านล้านของไทยเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 2 ล้านล้าน และมีรายได้จากภายในประเทศเพียง 1 ล้านล้านบาท จึงจำเป็นที่กระทรวงท่องเที่ยวฯ จะต้องเจรจากับท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา และกระทรวงสาธารณสุขให้เปิดการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวได้หลังจากผ่อนคลายล็อตแรกไปเมื่อวานนี้”

นายพิพัฒน์ อธิบายต่อว่า การเปิดทราเวลบับเบิ้ลเพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจน่าจะเป็นการเปิดการเดินทางระหว่างประเทศไทยกับ “เมือง” หรือ “มณฑล” ที่มีสถานการณ์การหยุดแพร่ระบาดของเชื้อใกล้เคียงกับไทยและมีความเหมาะสมจะจับคู่ด้วย เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันหลายประเทศที่ไทยเคยเล็งจะจับคู่ด้วยตอนนี้ประสบการการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 หรือ 3 ในหลายเมือง ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี หรือออสเตรเลีย ทำให้ยากที่จะเปิดการเดินทางแบบจับคู่ระหว่างประเทศต่อประเทศ 

ส่วนกรณี ศบค.อนุมัติหลักการให้มีการผ่อนคลายมาตรการเพื่อเปิดให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศคาดว่าจะสามารถเปิดการเดินทางได้ในเดือนสิงหาคมนี้และถือเป็นการนำร่องการเปิดการเดินทางระหว่างประเทศ เพื่อดูความพร้อมและนำไปสู่การเปิดการเดินทางอย่างอิสระต่อไปในอนาคตอันใกล้ แม้จะมีการกำหนดให้กักตัว 14 วันเพื่อความปลอดภัย


โดยทั้ง 4 กลุ่มมีรายละเอียด ดังนี้

  1. กลุ่มที่เข้ามาร่วมงานแสดงสินค้า – ปัจจุบันคาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานราว 10,000 คน
  2. กลุ่มกองถ่ายทำภาพยนตร์ – ปัจจุบันแจ้งความประสงค์เข้ามาแล้ว 7 กองถ่าย โดยคาดว่าเมื่อรวมกับกว่า 200 กองถ่ายที่เข้ามาถ่ายทำก่อนจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 จะสร้างรายได้หมุนเวียนอย่างน้อย 1,600 ล้านบาทลดลงจาก 6,000 ล้านบาทในปีก่อนที่มีจำนวนกองถ่ายภาพยนตร์มากกว่า 1,000 กองถ่าย
  3. กลุ่มที่เข้ามาตามโครงการ Medical & Wellness Program เพื่อเข้ารับบริการทางสุขภาพ
  4. กลุ่มผู้ถือบัตร Thailand Elite Card – ปัจจุบันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 10,363 ราย แบ่งเป็นอยู่ในไทย 3,108 ราย และอยู่ต่างประเทศ 7,255 ราย จะเริ่มนำร่องให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ 200 รายก่อน