นับถอยหลังโหวตแผนฟื้นฟูการบินไทย-ความในใจ “พีระพันธุ์” ถึงพนง.

พีระพันธ์ให้กลจ พนักงานการบินไทย

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” โพสต์ความในใจถึงพนักงานการบินไทย ก่อนเข้าสู่วันประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนในคดีฟื้นฟูกิจการ 12 พ.ค. ยันไม่เคยผิดคำพูดที่ให้ไว้กับพนักงานแม้แต่ครั้งเดียว

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับถอยหลังอีกเพียงอีกเพียง 6 วัน จะถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นวันประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนในคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือเป็นวันชี้ชะตาว่าการบินไทยจะสามารถดำเนินกระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไปได้หรือไม่

จากเดิมจะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต่อมาได้มีการแจ้งเปลี่ยนเป็นการประชุมเจ้าหนี้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) ในวันและเวลาเดิม วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. นอกจากนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังได้ขยายระยะเวลาให้เจ้าหนี้ สามารถลงมติล่วงหน้าได้ถึงวันที่  7 พฤษภาคม 2564

ในจดหมายของฝ่ายประชาสัมพันธ์การบินไทย ขอความเห็นใจบรรดาเจ้าหนี้ในช่วงท้ายว่า การบินไทยจะไม่สามารถดำเนินกระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไปได้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนและความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ทั้งหลาย ที่เพียงพอตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด

การบินไทยขอขอบพระคุณเจ้าหนี้ทุกท่าน ที่กรุณาสละเวลาพิจารณาและดำเนินการเพื่อลงมติยอมรับแผน  และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการบินไทยจะได้รับแรงสนับสนุนจากทุกท่าน เพื่อก้าวผ่านอุปสรรคครั้งใหญ่ของบริษัทในครั้งนี้ และจะสามารถกลับมาร่วมธุรกิจกับคู่ค้าทั้งหลาย ให้บริการแก่ลูกค้า และประกอบกิจการอย่างแข็งแกร่งได้ต่อไป

ความในใจ “พีระพันธ์”

เพียง 2 วัน หลังการบินไทยส่งจดหมายถึงเจ้าหนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะผู้ทำแผนฟื้นฟูการบินไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงพนักงานการบินไทย เนื้อหาดังนี้

ถึงพนักงานการบินไทย…จากใจจริง

ผมขอขอบคุณพนักงานการบินไทยทุกท่านและสหภาพแรงงานการบินไทยทุกแห่งที่มีน้ำใจ ให้กำลังใจ และเชื่อมั่นในตัวผมตลอดมา ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทจนมาเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟู ถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมพยายามเรียนรู้ปัญหาและพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องธรรมาภิบาลและการทุจริตของฝ่ายบริหารในอดีต รวมทั้งเรื่องความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย

แม้การทำงานของผมจะไม่ค่อยราบรื่น แม้จะตัวคนเดียว แต่ผมก็สู้และพยายามทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เคยย่อท้อและไม่เคยผิดคำพูดที่ให้ไว้กับพนักงานแม้แต่ครั้งเดียว

ผมเชื่อมั่นว่าการบินไทยจะเดินต่อไปได้หรือไม่ การฟื้นฟูจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ใช่เพราะแผนฟื้นฟูดีหรือผู้บริหารเก่งมีชื่อเสียง แต่เป็นเพราะความร่วมมือร่วมใจและความมุ่งมั่นเป็นหนึ่งเดียวของพนักงานทุกคน แต่สิ่งนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นได้หากผู้บริหารไม่มีธรรมาภิบาล ไม่จริงใจ เล่นพรรคเล่นพวก และไม่ซื่อตรงในการบริหาร

ไม่ว่าท่านจะผ่านหรือไม่ผ่านการคัดเลือกให้กลับมาเดินหน้าต่อกับการบินไทยด้วยเหตุผลใด และไม่ว่าวันที่ 12 พฤษภาคม นี้ เจ้าหนี้จะโหวตผ่านแผนฟื้นฟูให้หรือไม่ ผมก็ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจ มีจิตใจที่เข้มแข็ง สามารถฟันฝ่าอุปสรรคและวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดีทุกคน

จงภูมิใจว่าท่านเป็นส่วนหนึ่งของ “การบินไทย” สายการบินที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติมากว่า 60 ปี ไม่ว่าท่านจะได้รับคัดเลือกให้อยู่ต่อหรือไม่ก็ไม่มีใครเอา “ความภูมิใจ” นี้ไปจากท่านได้

ผมขอเป็นกำลังใจและจะอยู่เคียงข้างพนักงานการบินไทยทุกท่านตลอดไป

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

5 พฤษภาคม 2564

 

 

หลายประเด็นไม่มีข้อยุติ

ก่อนหน้านี้ บทบรรณาธิการประชาชาติธุรกิจ เคยกล่าวถึงการพิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทยว่า วันประชุมเจ้าหนี้ เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย ใกล้เข้ามา ยิ่งเห็นสัญญาณว่ากระบวนการฟื้นฟูกิจการสายการบินแห่งชาติ ภายใต้ศาลล้มละลายกลางไม่ได้เป็นไปราบรื่น อีกทั้งมีปัญหาหลายเรื่อง

เนื่องจากมีอีกหลายประเด็นที่สถาบันการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าหนี้รายใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญ ไม่เห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูกิจการ ที่ผู้ทำแผนจัดทำขึ้น

จากที่ต้องยื่นศาลล้มละลายกลาง ขอเลื่อนระยะเวลานำส่งแผนฟื้นฟู บมจ.การบินไทย จากเดิมวันที่ 2 มกราคม 2564 เป็นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 เนื่องจากทีมผู้จัดทำแผนมีความเห็นไม่ตรงกัน แม้สุดท้ายสามารถยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ได้ทันตามกำหนด

แต่ยังต้องลุ้นว่าก่อนถึงวันต้องโหวตลงคะแนนการปรับแก้แผนฟื้นฟูในประเด็นที่เจ้าหนี้ไม่เห็นด้วยจะได้ข้อยุติอย่างไร

ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในส่วนของเจ้าหนี้ที่ต้องการให้ปรับแก้ไขแผนเท่านั้น แม้แต่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ.การบินไทย 47.86% ก็ไม่ชัดเจนว่า จะดำเนินการอย่างไรในการฟื้นฟูองค์กรแห่งนี้ โดยเฉพาะเงื่อนไขการใส่เงินเพิ่มทุน หรือการค้ำประกันเงินกู้ให้การบินไทย 2.5 หมื่นล้านบาท ตามที่กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ

แผนฟื้นฟูช่องโหว่เพียบ

แหล่งข่าวระดับสูงจากธนาคารเจ้าหนี้เผยประชาชาติธุรกิจว่า เท่าที่ดูแผนฟื้นฟูของ บมจ.การบินไทยต้องบอกว่า ในส่วนของแผนธุรกิจยังไม่เห็นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ชัดเจน ทำให้มองไม่เห็นโอกาสที่การบินไทยจะสามารถสร้างรายได้เพื่อนำมาชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ได้ตามแผน

ในส่วนของภาระหนี้ของบริษัทก็ยังอยู่เท่าเดิม คือไม่มีการแฮร์คัต หรือ “ลดหนี้” ซึ่งตัวเลขหนี้สูงถึงกว่า 4 แสนล้านบาท ทำให้ยิ่งมองว่าโอกาสที่การบินไทยจะสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจและหารายได้เพื่อมาใช้คืนเจ้าหนี้ตามแผนนั้นยากมาก

“แผนฟื้นฟูที่เขียนมาง่ายเกินไป ปรับโครงสร้าง ลดคน ลดค่าใช้จ่าย แยกบริษัทลูกมาหารายได้ แต่แผนไม่มีการลดทุน และลดหนี้ ขณะที่บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว ต้องบอกว่าเริ่มต้นก็ผิดแล้ว ในส่วนของเจ้าหนี้สถาบันการเงินรายใหญ่อย่างธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทยก็มีการหารือกันอยู่ เจ้าหนี้แบงก์ไม่มีใครกล้าใส่เงินใหม่เข้าไป เพราะหนี้เดิมก็ยังไม่รู้ว่าได้คืนหรือไม่ ตอนนี้แบงก์ก็ต้องสำรอง 100% ไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการโหวตแผนในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ แผนก็คงได้รับความเห็นชอบ เนื่องจากมีเสียงของกลุ่มเจ้าหนี้ “หุ้นกู้” คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของหนี้ทั้งหมด ที่ให้การสนับสนุนเพราะไม่มีการแฮร์คัต แต่มีการยืดหนี้ไป 6 ปีสำหรับกลุ่มนี้ รวมกับในส่วนของกระทรวงการคลัง ซึ่งก็คงต้องโหวตให้ และเจ้าหนี้การค้า ก็คาดว่าจะทำให้สามารถโหวตแผนผ่านได้

แต่การบินไทยจะสามารถหาเงินมาใช้คืนเจ้าหนี้ได้ตามแผนหรือไม่ ยังเป็นคำถาม เพราะหนี้จำนวนมหาศาลไม่มีการแฮร์คัต และการปรับโครงสร้างก็ยังไม่เห็นการผ่าตัดใหญ่ ดังนั้น โอกาสที่จะหลุดพ้นจากแผนฟื้นฟูกิจการได้นั้นอาจเป็นไปได้ยาก