ททท. เปิดแผนเชิงรุก “ท่องเที่ยวไทย” ดันรายได้รวม 1.28 ล้านล้านบาท

นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ททท.เปิดแผน “ปีท่องเที่ยวไทย 2565” และ “Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters” เผยเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าจำนวน ดึงกลุ่มกำลังซื้อสูง-มองหาตลาดใหม่เสริม ดันรายได้รวม 1.28 ล้านล้านบาท พร้อมจัดอีเว่นต์เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 18-22 ก.พ. ที่สวนลุมพินี

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวเปิด “ปีท่องเที่ยวไทย 2565” และ “Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters” เพื่อส่งสัญญาณให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมยกโมเดล “DASH” เพื่อฟื้นการท่องเที่ยวไทยและช่วยฟื้นเศรษฐกิจในภาพรวม

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในปี 2565 นี้ ททท.ตั้งเป้าการท่องเที่ยวจะสามารถสร้างรายได้รวม 1.28 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 656,000 ล้านบาท จากการเดินทาง 160 ล้านคน-ครั้ง และตลาดต่างประเทศ 625,800 ล้านบาท หรือจากนักท่องเที่ยว 10 ล้านคน ดันยอดรายจ่ายเฉลี่ยต่อคน 4,100 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ และ 62,580 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

“เราตั้งเป้าหมายในปี 2565 จะต้องมีสร้างรายได้ในภาคการท่องเที่ยวไทยกลับมาอย่างน้อย 50% จากปี 2562 และททท. จะเปลี่ยนจากการเล่นเกมรับ มาสู่โหมดเชิงรุก โดยเน้นลูกค้ากลุ่มมีรายได้สูง กลุ่มคนที่พักนาน ปรับปรุงผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว เน้นที่เรื่องราว และประสบการณ์มากกว่าการเน้นสถานที่ พร้อมนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความต้องการให้เหมาะสมกับตลาดต่อไป” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ในส่วนการดำเนินงานนั้น ททท. ได้ตั้งเป้าให้เกิด Greatest Change ด้วย Soft Power of Thailand ตามแนวทาง 5F : 4M คือ Food Film Fashion Festival Fight Music Museum Master และ Meta เพื่อเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและดิจิทัล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้หลัก Inclusive Tourism 

ททท. ยังเจาะกลุ่มเป้าหมายคุณภาพและนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง แสดงออกซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 4-2-2 คือ 4 Personas (ประชากรโลกผู้ที่มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ ผู้ต้องการทำงานจากประเทศไทย และผู้ที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ) 2 Demographic (Millennials และ Active Senior) และ 2 Behavior (Medical & Wellness และ Responsible Tourism) 

นอกจากนี้ ททท. ยังได้วางโมเดล “DASH” เป็นแนวทางการดำเนินงานเพื่อพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย มุ่งสู่การพลิกโฉมทั้งระบบ นั่นคือ

D – Domestic Travel ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 

A – Accelerate Demand กระตุ้นอุปสงค์เชิงคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีบนพื้นฐานของความปลอดภัย มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพและกลุ่มรายได้สูง และส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง มีคุณค่า อย่างประทับใจ 

S – Shape Supply ยกระดับระบบนิเวศท่องเที่ยวสู่ความมีคุณภาพและความยั่งยืน บนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและ Digital Tourism ให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน มีการกระจายรายได้สู่แต่ละภาคส่วนอย่างยั่งยืน

และ H – Healing Thai Economy ฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยว เยียวยาเศรษฐกิจ ด้วยการเปิดประเทศเพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว “ลุกเร็ว ก้าวไว” เติบโตอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้ Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ความยั่งยืน ส่งมอบความสุข ความปลอดภัย บนพื้นฐานความเป็นไทยที่สร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ด้วยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการฟื้นประเทศไทยด้วยการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ

พร้อมกันนี้ ททท. ยังได้วางแนวคิด New Chapters, New Opportunity ในกลยุทธ์ 5 New ดังนี้

– New Segment คือ กลุ่ม Bleisure (business & leisure), นักเรียน/นักศึกษา, Digital Nomad, Boy lovers, Soft Adventure เป็นต้น 

– New Area แสวงหากลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพในพื้นที่ศักยภาพใหม่ ๆ เช่น มองโกเลีย เกาหลี (ปูซาน) และพื้นที่ในตลาดเดิม

– New Partner สร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพิ่มเติม

– New Infrastructure ใช้เส้นทางการคมนาคมใหม่ ๆ ให้เกิดการกระจายนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ คุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน –  สปป.ลาว ที่สามารถเชื่อมโยงการเดินทางมายังจังหวัดหนองคายได้

– และ New Way คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ (Millennials) ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

นายยุทธศักดิ์ เปิดเผยว่า ในการสื่อสารเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในภาพรวมใช้แคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” สำหรับตลาดในประเทศ โดยสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยมุมมองที่แตกต่างด้วยวิธีการท่องเที่ยวแบบ “ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย”

ส่วนตลาดต่างประเทศใช้แคมเปญ “Amazing New Chapters” เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยนำเสนอคุณค่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยมุมมองใหม่ มีความโดดเด่นและแตกต่างจากประเทศคู่แข่ง ซึ่งเป็นจุดที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี (Thai Cultural Values) รวมทั้งการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับภาพลักษณ์สู่การเป็น World Class Destination

“การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในปี 2565 นี้ จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่จะนำการท่องเที่ยวไปสู่ความยั่งยืน” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ขอเชิญชวนทุกคนเที่ยวงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจําปี 2565 ครั้งที่ 40 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 กุมภาพันธ์ 2565 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ถือเป็นเป็นกิจกรรมการตลาด (Event Marketing) ที่สําคัญ ซึ่งสะท้อนสัญญาณความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยววิถีใหม่ ชี้นําการขับเคลื่อนการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว และเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้กลับมาท่องเที่ยวไทย

แบ่งพื้นที่งานเป็น 9 โซน ได้แก่ Zone1 : โฉมใหม่ท่องเที่ยวไทย AMAZING NEW CHAPTERS, Zone 2 : หมู่บ้านภาคตะวันออก, Zone 3 : หมู่บ้านภาคกลาง, Zone4 : หมู่บ้านภาคเหนือ, Zone : 5 หมู่บ้านภาคใต้, Zone 6 : หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, Zone 7 : STREET FOOD กทม., Zone 8 : เวทีกลาง (MAIN STAGE) และ Zone 9 : เที่ยวไทยแบบใหม่ STYLE NEW NORMAL โดยพบกับร้านค้า ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ร้านอาหารและศิลปินชื่อดังมากมาย 

ผู้ที่สนใจสามารถเข้างานได้ง่าย ๆ เพียงแสดงหลักฐานรับรองการฉีดวัคซีน ครบ 2 เข็ม (หรือครบโดส) หรือ แสดงใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง พร้อมแสดงหลักฐานการลงทะเบียนจองคิวล่วงหน้าหรือที่นั่งในแต่ละโซนกิจกรรม ผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ

ทั้งนี้ มีจุดให้บริการตรวจ ATK ในราคา 35 บาท โดยติดตั้ง แอปพลิเคชั่น Dr.AnyWhere หากพบว่า มีผลตรวจเป็นบวก จะดำเนินการส่งเข้ารักษาพยาบาลตามระบบ สปสช. ต่อไป