“ททท.” เร่งบูสต์ตัวเลขนักท่องเที่ยว ตั้งเป้าไตรมาส 4 เดือนละ 1 ล้านคน

1พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมารัฐบาลไทยประกาศ “เปิดประเทศ” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนตามเกณฑ์โดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด ทั้งก่อนเดินทางเข้ามาและเมื่อเดินทางมาถึง

เรียกว่าการผ่อนคลายมาตรการครั้งนี้แทบจะกลับมาสู่ภาวะปกติเช่นเดียวกับก่อนวิกฤตโควิด-19 แล้ว เหลือเพียงแค่ยังต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass เท่านั้น

ตั้งเป้า Q4 เดือนละ 1 ล้านคน

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-มีนาคม) ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 444,039 คน สร้างรายได้รวม 34,173 ล้านบาท

โดยตลาดหลักที่เดินทางเข้ามาสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ยุโรป 265,888 คน สร้างรายได้ 21,894 ล้านบาท รองลงมาคือ เอเชียตะวันออก 85,362 คน สร้างรายได้ 4,674 ล้านคน อาเซียน 45,471 คน สร้างรายได้ 2,139 ล้านบาท เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ 39,891 คน สร้างรายได้ 2,535 ล้านบาท และอเมริกา 33,875 คน สร้างรายได้ 2,691 ล้านบาท

และประเมินว่าจากการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศด้วยการยกเลิก Test & Go 1 พฤษภาคม 2565 รอบนี้จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

โดย ททท.ตั้งเป้าว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2565 จะมีนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลกเดินทางเข้าประเทศไทยไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือน

และตั้งเป้าว่าในช่วงไตรมาส 4 หรือในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มเป็นเดือนละ 1 ล้านคน

บุกหนักทั้งระยะใกล้-ระยะไกล

โดย ททท.จะเร่งทำการตลาดโดยเร่งด่วนทั้งตลาดระยะใกล้และตลาดระยะไกล โดย “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้บอกว่า สำหรับตลาดระยะใกล้นั้น ททท.จะโฟกัส 5 ประเทศหลัก คือ อินเดีย, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย และเกาหลีใต้

โดยทั้ง 5 ประเทศดังกล่าวนี้เป็นประเทศที่มีการผ่อนคลายมาตรการด้านการท่องเที่ยวสูง สามารถเดินทางเข้า-ออกได้สะดวก และมีเที่ยวบินพาณิชย์กลับมาให้บริการตามปกติ และมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จะใช้กลยุทธ์บุกตลาด, สร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นการขาย ด้วยการเข้าร่วมงานอินเตอร์เนชั่นแนลเทรดโชว์ต่าง ๆ เช่น SATTE วันที่ 18-20 พฤษภาคม ณ ประเทศอินเดีย, Thai Travel Mart Plus 2022 วันที่ 8-10 มิถุนายน ณ จังหวัดภูเก็ต

รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบ B2C โดยทำโปรโมชั่นร่วมกับสายการบิน, Tour Agents, Tour Operators, OTAs โดยมุ่งจับกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้

ออสเตรเลีย เน้นกลุ่ม health & wellness และ leisure, อินเดีย เน้นกลุ่ม leisure จากเมืองกัลกัตตา ชัยปุระ บังคาลอร์ เชนไน และโคชิ พร้อมส่งเสริมกลุ่มงานแต่งงาน, digital nomads และครอบครัว, สิงคโปร์ เน้นกลุ่ม leisure, health & wellness และส่งเสริมการขายกลุ่ม golf ในเมืองพัทยา

มาเลเซีย เน้นกลุ่มครอบครัว, leisure รวมถึงส่งเสริมกล่ม incentive, luxury car และกลุ่มปั่นจักรยาน ส่วนเกาหลีใต้ เน้นกลุ่มคู่รัก health & Wellness กลุ่ม leisure ส่งเสริมการทำ charter flight และกลุ่ม luxury golf

เช่นเดียวกับ “ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่บอกว่า สำหรับตลาดระยะไกลนั้น ททท.โฟกัสกลุ่มมิดเดิลอีสต์, ซาอุดีอาระเบีย, อิสราเอล, คาซัคสถาน, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และละตินอเมริกา

โดยขณะนี้จะเร่งตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งอาจเดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วงกรีนซีซั่นที่กำลังจะถึงนี้

สำหรับแผนการส่งเสริมการขายนั้นขณะนี้ ททท.ได้วางแผนเข้าร่วมงานเทรดโชว์ระดับโลกแล้ว 8 งาน ประกอบด้วยงาน ILTM Latin America วันที่ 3-6 พฤษภาคม 2565 (บราซิล), งาน German Virtual Mart วันที่ 11-12 พฤษภาคม 2565 (ออนไลน์), งาน ATM 2022/Amazing New Chapters Roadshow to The Kingdom of Saudi Arabia วันที่ 9-12 พฤษภาคม 2565 และ 15-17 พฤษภาคม 2565 (ยูเออี, ซาอุดีอาระเบีย)

งาน EDGE Travel Leaders Network 2022 วันที่ 12-15 มิถุนายน 2565 (Aurora, Colorado), งาน Proud Experiences 2022 Trade Show วันที่ 27-29 มิถุนายน 2565 (นิวยอร์ก), งาน Amazing Thailand Roadshow to Denmark & Sweden 2022 วันที่ 22-25 สิงหาคม 2565 (เดนมาร์ก สวีเดน) งาน ILTM North America วันที่ 19-22 กันยายน 2565 (Riviera Maya, Mexico) และงาน WTM London 2022 วันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2565 (ลอนดอน)

ลุ้นปีนี้ นทท.ถึง 15 ล้านคน

สำหรับการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งปี 2565 นั้น “ยุทธศักดิ์” บอกว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5-15 ล้านคน โดยประเมินไว้ 3 ซีนาริโอ

ประกอบด้วย 1.หากประเทศไทยยังไม่สามารถเปิดด่านชายแดนได้ และจีนยังไม่มีนโยบายเปิดประเทศ มีรัสเซีย อินเดีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เดินทางเข้ามาเที่ยวได้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ประมาณ 5 ล้านคน

2.หากประเทศจีนมีนโยบายเปิดประเทศและส่งออกนักท่องเที่ยวไปต่างประเทศได้ในช่วงหลังกลางปี 2565 หรือช่วงวันหยุดชาติจีน (ตุลาคม 2565) คาดว่าจะมีชาวจีนเข้ามาเที่ยวในประเทศประมาณ 2-3 ล้านคน ทำให้ประเมินว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 7-8 ล้านคน

โดยปัจจุบัน ททท.มีความพยายามและเตรียมพร้อมสำหรับทำการตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้ได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้ตลาดจีนพร้อมกลับมาในช่วงตรุษจีนปี 2566

และ 3.หากประเทศไทยสามารถเปิดการท่องเที่ยวทางบกได้ในไตรมาส 1/2565 เชื่อมต่อพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว มาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา ประมาณการว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเฉพาะ 4 ประเทศนี้ถึงประมาณ 7-8 ล้านคน

และทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ถึงประมาณ 15 ล้านคน และทำให้รายได้รวมจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยปีนี้มีมูลค่ารวมที่ประมาณ 1.3-1.8 ล้านล้านบาท

โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศ หรือ “ไทยเที่ยวไทย” จำนวน 160 ล้านคนครั้ง