ปลดล็อก Thailand Pass หนุน “คนไทย” แห่เที่ยวต่างประเทศ

นักท่องเที่ยว

1 มิถุนายน 2565 ระบบ Thailand Pass ยังคงบังคับใช้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเหมือนเดิมต่อไป ยกเว้นสำหรับคนไทย และผู้ถือ Thai Passport ที่ไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass

กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวเอาต์บาวนด์ หรือตลาดนำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศวิเคราะห์ว่า มาตรการดังกล่าวนี้ถือเป็น “ปัจจัยบวก” สำคัญที่จะทำให้คนไทยออกไปเที่ยวต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้น

คนไทยแห่เที่ยวนอก

“สุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ” นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) สมาคมทัวร์เอาต์บาวนด์ หรือตลาดนำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่มีนาคม-เมษายน 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวนคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นชัดเจนอีกครั้งนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศยกเลิกนโยบาย Test & Go ตั้งแต่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถลดต้นทุนการท่องเที่ยวได้อีกราวประมาณ 4,000-5,000 บาทต่อคน

และเชื่อว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้งหลังยกเลิกลงทะเบียน Thailand Pass สำหรับคนไทยเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้เป็นต้นไป และหากสายการบินต่าง ๆ เพิ่มเส้นทางบินเข้า-ออกประเทศไทยมากขึ้น จะยิ่งทำให้คนไทยออกเดินทางและสามารถเลือกเดสติเนชั่นการท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน

ยุโรปฮอต-ลุ้นญี่ปุ่นเปิด

อย่างไรก็ตาม หากประเมินตามปริมาณการยื่นขอวีซ่าพบว่า เดสติเนชั่นการท่องเที่ยวของคนไทยยังคงเป็นตลาดในโซนยุโรป ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี เช่น ไปสวิตเซอร์แลนด์แล้วต่อไปฝรั่งเศส หรือไปสวิตเซอร์แลนด์แล้วต่อไปเยอรมนี หรือไปฝรั่งเศสแล้วต่อไปที่สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น

ขณะที่เส้นทางในภูมิภาคเอเชียก็เริ่มขยับแล้ว เช่น เกาหลี แต่ยังไม่มากนัก เนื่องจากการเดินทางเข้าเกาหลียังต้องลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่น (เหมือน Thailand Pass) ส่วนเส้นทางที่คนไทยเฝ้ารอคือ ญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่าหากญี่ปุ่นเปิดให้คนต่างชาติเข้าโดยไม่จำกัดจำนวนก็น่าจะทำให้กระแสออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทยคึกคักขึ้นแน่นอน

“ตลาดไหนที่มีสายการบินให้บริการเที่ยวบินมาก คนไทยก็จะออกไปเที่ยวตามจำนวนของเส้นทางบินนั้น ๆ ซึ่งปัจจุบันสายการบินที่ทำการบินเข้าออกประเทศไทยยังคงเป็นสายการบินจากตะวันออกกลาง ขณะที่การบินไทยยังเปิดเส้นทางไม่ครบเหมือนในอดีต แต่จากการพูดคุยกับการบินไทยได้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ขณะนี้ลูกค้าของการบินไทยทยอยแลกคะแนนเป็นตั๋วเดินทางเป็นจำนวนมาก หลังจากที่อัดอั้นไม่ได้เที่ยวกันมา 2 ปีแล้ว”

คาดคนไทยเที่ยวนอก 1 ล้านคน

“สุทธิพงศ์” บอกด้วยว่า ปกติแล้วช่วงที่คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศมากที่สุดคือ ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม และช่วงตุลาคม-ธันวาคมของทุกปี หรือในช่วงที่เป็นสปริงซีซั่นของยุโรป ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาโรงแรมจะถูกกว่าช่วงฤดูร้อน

แต่สำหรับปีนี้สถานการณ์การไปเที่ยวต่างประเทศของคนไทยยังคงคาดการณ์ยาก เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่กำลังซื้อลดลง เหลือเพียงแค่กลุ่มระดับบน ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้คาดว่าจำนวนคนไทยเที่ยวต่างประเทศจะชะลอไปด้วยเช่นกัน

โดยในปีปกติจำนวนคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศประมาณ 7 ล้านคน เทียบกับตลาดอินบาวนด์ หรือคนต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยจะอยู่ในอัตราประมาณ 1 : 6 หรือ 1 : 7

นั่นหมายความว่า หากปีนี้รัฐบาลตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประมาณ 10 ล้านคน จำนวนคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศน่าจะอยู่ที่ประมาณ 7 แสนคน หรือหากญี่ปุ่นเปิดประเทศได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายก็น่าจะทำให้ตัวเลขคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศขยับไปอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคน

เปิดขายทุกเส้นทางที่มีเที่ยวบิน

“บูรณี วีระภุชงค์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิไทยแทรเวล จำกัด ยักษ์ใหญ่ตลาดทัวร์เอาต์บาวนด์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับกลุ่ม “ยูนิไทย” ที่ผ่านมา 2 ปีไม่เคยปิดให้บริการ ยังคงสื่อสารกับลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มมาทำการขายตลาดต่างประเทศจริงจังอีกครั้งตั้งแต่ยุโรปเปิดประเทศในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเส้นทางหลัก ๆ ที่ขายมีทั้งยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย และอาเซียน

อาทิ จอร์เจีย ตุรกี สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เกาหลี สิงคโปร์ เวียดนาม ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมีสายการบินเปิดให้บริการเส้นทางบินแล้ว โดยตลาดที่ได้รับการตอบรับดีสำหรับของกลุ่มยูนิไทย คือ ตุรกี จอร์เจีย เวียดนาม เป็นต้น ส่วนเกาหลีแม้ว่าจะเปิดแล้ว แต่นักท่องเที่ยวยังต้องลงทะเบียนในระบบ K-ETA ซึ่งเป็นระบบคัดกรองผู้โดยสารคล้าย Thailand Pass ของไทย

“ตอนนี้ถือว่าดีมานด์ที่เข้ามาพอสมควร ซึ่งถือว่าพีกอัพเร็วกว่าที่คาดไว้ และเชื่อว่าจะยิ่งเพิ่มขึ้นชัดเจนกว่าเดิมอีกหลังจากที่รัฐบาลยกเลิก Thailand Pass สำหรับคนไทย ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 นี้เป็นต้นไป”

ลุ้นโลว์คอสต์แอร์ไลน์หนุน

“บูรณี” ให้ข้อมูลด้วยว่า สำหรับราคาแพ็กเกจทัวร์ในช่วงที่ผ่านมาและในปัจจุบันนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 30% (ยกเว้น ตุรกี) เนื่องจากต้นทุนการเดินทางเพิ่มขึ้น อาทิ ทัวร์เส้นทางยุโรปปกติราคา 40,000-50,000 บาท ก็ขยับเป็น 60,000-70,000 บาท หรือบางเส้นทางขยับไปกว่า 100,000 บาท หรือแพ็กเกจเกาหลี ขณะนี้อยู่ที่กว่า 30,000 บาท จากปกติที่เคยทำราคาขายกันที่ประมาณ 10,000-20,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดราคาแพ็กเกจมีแนวโน้มปรับตัวลดลงแล้ว เนื่องจากบริษัททัวร์ส่วนใหญ่เริ่มกลับมาทำตลาด หลังจากที่หยุดไป 2 ปี ด้วยการขายล่วงหน้าและใช้กลยุทธ์ด้านราคามาช่วยกระตุ้นการขาย

“ตอนนี้สายการบินโลว์คอสต์ยังไม่กลับมาให้บริการ ทำให้ต้นทุนการเดินทางสูง แต่เชื่อว่าถ้าโลว์คอสต์กลับมาให้บริการ จะทำให้ต้นทุนการเดินทางปรับตัวลดลง ราคาแพ็กเกจก็จะปรับถูกลงเช่นกัน”

พร้อมทั้งย้ำว่า ส่วนตัวสื่อสารถึงลูกค้าตลอดว่าภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่มีอะไรแน่นอนแบบนี้ ไม่ควรซื้อแพ็กเกจทัวร์ล่วงหน้าเป็นเวลานาน เพราะหากถึงเวลาแล้วไม่สามารถเดินทางได้จะเป็นปัญหาเรื่องการขอคืนเงิน เหมือนเมื่อครั้งที่เราเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดที่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้รับเงินคืน

“บินไทย” ชี้ลูกค้าแห่แลกตั๋ว

“นนท์ กลินทะ” ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทุกเส้นทางที่การบินไทยให้บริการได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและกลุ่มคนไทยที่พร้อมออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว โดยเฉพาะในเส้นทางยุโรปซึ่งเป็นเดสติเนชั่นที่หลายประเทศเปิดประเทศตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา

โดยการบินไทยมอนิเตอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงการให้บริการให้สอดรับกับความต้องการการเดินทางของตลาดในอนาคต ทั้งการเพิ่มความถี่ในเส้นทางที่ได้รับการตอบรับดี และพิจารณาเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ รองรับตลาดใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร

“นนท์” ให้ข้อมูลด้วยว่า ขณะนี้สมาชิกบัตรสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส หรือ ROP เริ่มทยอยมาแลกตั๋วโดยสารไปต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งการบินไทยได้เร่งปรับรูปแบบการให้บริการทั้งในส่วนของคอลเซ็นเตอร์ และสำนักงานถนนวิภาวดีฯ โดยเพิ่มบุคลากรมารองรับมากขึ้น

รวมทั้งมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของตั๋วโดยสารให้สะดวกและง่ายขึ้น และเพิ่มจำนวนที่นั่งสำหรับสมาชิก ROP ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นด้วย หวังว่ามาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ที่เป็นปัจจัยบวกที่เอื้อให้ “คนไทย” แห่ไปเที่ยวต่างประเทศสะดวกและง่ายขึ้นนี้ จะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้นด้วยเช่นกัน